ซัมซุง (Samsung Electronics Co.) ตัดสินใจหยุดผลิตสมาร์ทโฟนเรือธง “Galaxy Note 7” ชั่วคราวแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม โดยบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนให้ซัมซุง เปิดเผยว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อร่วมมือกับหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคในเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และจีน เนื่องจาก Note 7 ที่ถูกผลิตขึ้นใหม่ยังคงมีปัญหาระเบิดเช่นเดิม
สื่อเกาหลีใต้ รายงานว่า การหยุดผลิต Note 7 ชั่วคราวนั้น จะครอบคลุมโรงงานของซัมซุงในเวียดนาม ซึ่งเป็นโรงงานใหญ่ที่รับผิดชอบในการจัดส่งสินค้า (Galaxy Note 7) ไปจำหน่ายทั่วโลก
การตัดสินใจครั้งนี้ถูกระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคในหลายประเทศ ซึ่งแสดงความเป็นห่วงประชาชนที่อาจมีความเสี่ยงได้รับอุบัติเหตุจากการใช้งานสินค้าของซัมซุง โดยนับตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม ที่ซัมซุงประกาศจำหน่าย Note 7 วันแรกในเกาหลีใต้ เจ้าพ่อกิมจิก็ประกาศเรียกคืนสินค้ามากกว่า 2.5 ล้านเครื่องแล้ว เพราะเกิดเหตุเครื่องระเบิดขณะชาร์จไฟ
กระทั่งล่าสุด ซัมซุง ประกาศให้เจ้าของเครื่อง Note 7 มารับเครื่องใหม่ แต่ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และไต้หวัน กลับยังพบเหตุระเบิดใน Note 7 ที่ผลิตขึ้นใหม่ โดยรายงานของสื่อสหรัฐฯ ระบุว่า การระเบิดของเครื่องล็อตการผลิตใหม่นั้น เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแล้ว จนเป็นเหตุให้โอเปอเรเตอร์รายใหญ่อย่างเอทีแอนด์ที (AT&T) และทีโมบาย (T-Mobile) ไม่อาจอยู่เฉย และออกมาปกป้องผู้บริโภคด้วยการประกาศหยุดจำหน่าย Note 7 ชั่วคราวเช่นกัน
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะ AT&T เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 ต.ค.) AT&T และ T-Mobile ระบุว่า จะไม่รับบริการเปลี่ยนเครื่อง Note 7 อีกต่อไปจนกว่ากระบวนการสอบสวนจะเสร็จสิ้น โดยบริษัทจะแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนเครื่องจาก Note 7 เป็นสินค้ารุ่นอื่นแทน
เหตุระเบิดล่าสุดของ Note 7 ที่เป็นข่าวดังนั้น เกิดขึ้นบนเครื่องบินของสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ส ซึ่งกำลังออกเดินทางจากเมืองหลุยส์วิลล์ มลรัฐเคนทักกี สหรัฐฯ ต้องสั่งอพยพผู้โดยสารเป็นการด่วนเมื่อ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา หลัง Galaxy Note 7 ของผู้โดยสารคนหนึ่งเกิดมีควันพวยพุ่งออกมา
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000101815