บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการอินเว้นท์ (InVent) ได้ประกาศร่วมลงทุนกับบริษัท Social Nation สตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีผู้ร่วมก่อตั้งเป็นคนไทย เป็นการลงทุนกับสตาร์ทอัพเป็นรายที่ 10 แล้วของอินเว้นท์ การระดมทุนในครั้งนี้ นอกจากอินเว้นท์แล้วยังมีนักลงทุนรายอื่นๆ จากต่างประเทศ เช่น Index Ventures, Virtual Reality Investment Fund เข้าร่วมลงทุนด้วย
Social Nation เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านโฆษณา ก่อตั้งในปี 2556 โดย “ปรัชญา ไพศาลวิภัชพงศ์” และเพื่อน ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโฆษณาภายใต้แบรนด์ OmniVirt และ AdsOptimal ซึ่งช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถทำการโฆษณาแบบ VR หรือ วิดีโอ 360 องศาได้ จุดเด่นก็คือผู้รับชมไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติม และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สำหรับ VR โดยเฉพาะ (VR headset)
ในปี 2558 มีการแสดงโฆษณาไปแล้วกว่าสองพันล้านครั้งใน 200 กว่าประเทศทั่วโลก และบริษัทยังช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น (publisher) มากกว่าหนึ่งแสนราย สามารถสร้างรายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาอีกด้วย ปัจจุบันมีลูกค้าเป็นบริษัทสื่อชั้นนำเช่น The New York Times และ The Wall Street Journal และยังมีสื่อเจ้าใหญ่ของไทย เช่น sanook.com เป็นลูกค้าอีกด้วยน
ธนพงษ์ ณ ระนอง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริษัทร่วมทุน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อินเว้นท์มีความภูมิใจอย่างมากที่ได้ Social Nation เข้ามาเป็นบริษัทที่ 10 ในการลงทุนของเราและรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น Social Nation สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการโฆษณาแบบ VR ชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการแสดงโฆษณาในปัจจุบันให้เป็นแบบยุคสมัยใหม่ เราอยากเห็นว่าบริษัทจะสามารถช่วยให้ผู้โฆษณาเปลี่ยนแปลงวิธีสื่อสารกับผู้ชมไปได้อย่างไรอินทัชจะช่วยพา Social Nation เข้าสู่ประเทศไทยและประเทศข้างเคียง ด้วยเครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศของเรา เราหวังว่าด้วยความช่วยเหลือของเรา จะทำให้ Social Nation สามารถสร้างรากฐานที่แข็งแรงในภูมิภาคอาเซียนได้ต่อไป”
การลงทุนใน Social Nation นอกจากจะเป็นบริษัทที่ 10 ที่ทางโครงการอินเว้นท์เข้าร่วมลงทุนแล้ว ยังถือเป็นการลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกของอินเว้นท์อีกด้วย ทั้งนี้ โครงการอินเว้นท์ ได้เข้าร่วมลงทุนไปแล้วทั้งในประเทศ เช่น Wongnai สตาร์ทอัพรีวิวร้านอาหาร และ Golfdigg ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับจองสนามกอล์ฟ และต่างประเทศ เช่น Playbasis สตาร์ทอัพที่ผลิตนวัตกรรมสำหรับการตลาดยุคดิจิตอล สร้างการเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคให้มีความผูกพันกันมากขึ้น