กีวีบุกไทย

วางจำหน่ายในเมืองไทยนาน 10 ปี ยอดขายไม่หวือหวา จนเมื่อกระแสสุขภาพมาแรง เซสปรี อินเตอร์เนชั่นแนล (เอเชีย) จึงได้ส่ง กีวีฟรุต ยี่ห้อ Zespri ออกทำตลาดอย่างจริงจัง และตั้ง “ลูกเกด” เมทินี กิ่งโพยมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อดึงดูดความสนใจคนรักสุขภาพ

กีวีฟรุต Zespri เข้าสู่ตลาดไทยในปี 1997 แต่ตลาดยังจำกัดอยู่มาก เพราะเมืองไทยมีผลไม้ท้องถิ่นอยู่มากมาย และเมื่อเทียบกับผลไม้น้ำเข้าอื่นๆ กีวีฟรุต ดูมีราคาสูงและกินยาก ยอดขายไม่กระเตื้องนัก อยู่ในอันดับ 7-8 เมื่อเทียบกับแอปเปิล ที่เป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ องุ่น สาลี่ และลูกพลับ ที่ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากจีน มีราคาถูกกว่า

“จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยอดขายช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากที่เคยขายได้ 400 ล้านบาท เป็นสัญญาณที่ดีที่เราจะบุกตลาดอย่างจริงจัง” แดเนียล แมททิสัน ผู้จัดการตลาดภูมิภาคเอเชีย ของเซสปรี อินเตอร์เนชั่นแนล (เอเชีย) หรือ Zespri ผู้ผลิตและจำหน่ายกีวีฟรุตจากนิวซีแลนด์ บอกในงานวันเปิดตัว

การบุกตลาดครั้งนี้ Zespri จึงต้องวาง Positioning ให้ชัดเจน เป็น “ผลไม้เพื่อสุขภาพ” ไม่ใช่ผลไม้ต่างชาติธรรมดาๆ โดยชูคุณประโยชน์ด้านวิตามินและแร่ธาตุ ความคุ้มค่า และยังได้นำเอา “ลูกเกด” เมทินี เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ จึงเป็นกลยุทธ์กระตุ้นตลาด เพราะเป็นสัญลักษณ์ของหญิงยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพ เมื่อทำกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คนรู้จักกีวีฟรุตของ Zespri มากขึ้น นอกจากเพื่อให้กีวีฟรุตเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทย ยังใช้กลยุทธ์ “ขายตรง” มีผู้แนะนำสินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ต และจัดโรดโชว์ตามโรงเรียนในกรุงเทพฯ 10 – 15 แห่ง ปลูกฝังเยาวชนให้ชื่นชอบกีวีฟรุตและบอกต่อผู้ปกครอง

ยิ่งยามนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังฝืดเคือง Zespri ยิ่งต้องลุยสุดตัว เนื่องจากฤดูขายอยู่ในช่วง มิถุนายน – ธันวาคมเท่านั้น ขณะที่คู่แข่งในตลาดกีวีที่สำคัญคืออิตาลีและฝรั่งเศส เป็นช่วงมกราคม – พฤษภาคม แม้ไม่ชนกันตรงๆ แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องขายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้ายอดขายที่คาดว่าจะเพิ่ม 30 – 50% ใน 2 – 3 ฤดูกาลหน้า ซึ่งขณะนี้ Zespri มีส่วนแบ่งตลาด 50% ของตลาดกีวีฟรุตทั้งหมด

Target ผู้หญิงรักสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยทำงาน 20 – 35 ปี รวมทั้งสตรีมีครรภ์ และเด็ก
Product –กีวีฟรุตพันธุ์สีเขียว (เปรี้ยว) และพันธุ์สีทอง (หวาน) จุดแข็งเป็นสัญลักษณ์ของนิวซีแลนด์ มาตรฐานเชื่อถือได้
Price พันธุ์สีเขียวลูกละ 13 – 15 บาท และพันธุ์สีทอง 20 บาท ราคาถูกกว่าคู่แข่งอิตาลีและฝรั่งเศส Place – ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงเทพฯ และหัวเมืองในจังหวัดใหญ่ๆ
Promotion งบโฆษณาไม่มากนัก เน้นตลาดกรุงเทพฯ ผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์สร้างความตระหนัก ให้รายละเอียดคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ แจกเมนูอาหารกีวีฟรุต มีพนักงานแนะนำตามซูเปอร์มาร์เก็ต ออกบูธตามโรงเรียน

ยอดขายกีวีฟรุตของ Zespri
ปี ยอดจำหน่าย
1998 20,000 ถาด
2007 80,000 ถาด
2008 (6 เดือน) 100,000 ถาด
หมายเหตุ – 1 ถาดมีจำนวน 33 ผล

Did you know?

ต้นกำเนิดของผลกีวีอยู่ที่จีน เรียกว่า “หมีโหวเถา” (Chinese gooseberry) จนปี 1904 มีคนนำเมล็ดไปปลูกที่นิวซีแลนด์ และใช้ชื่อ Kiwifruit ปี 1959