ดื่มแล้วสวย

องค์กรอื่นอาจมีเลข 8 เป็นเลขนำโชค แต่สำหรับ “ลิปตัน” เลข 9 อาจเป็นหมายเลขนำโชคพวกเขา ด้วยการเปิดตัว “ลิปตัน ไนน์” ที่มีสมุนไพร 9 ชนิด ที่ลิปตันใส่ลงไปในชาเชียวสูตรใหม่ เพื่อหวนกลับคืนสู่ตลาดชาเชียวอีกครั้ง

ที่แล้วมา ลิปตันเคยพลาดหวังมาแล้วจากการนำชาเขียว ลิปตัน เวฟ ออกสู่ตลาด ที่กลายแค่การสร้างสีสันช่วงสั้นๆ ตลาดหลักของลิปตันยังคงเป็นตลาดชาดำ หรือชาแดง เท่านั้น

การส่ง “ลิปตัน ไนน์” จึงเป็นความหวังที่ก้าวเข้าสู่ตลาดชาเขียวอีกครั้ง โดยครั้งนี้ ลิปตัน ได้กำหนด Positioning ใหม่ โดยนำเอาเทรนด์สุขภาพบวกเพิ่มด้วยกระแสความงาม ซึ่งลิปตันมองว่าเป็นจุดขายใหม่ที่ยังไม่มีในตลาดมาดึงดูดลูกค้า

“ในตลาดมีแต่กระแสสุขภาพ ยังไม่มีเรื่องของความงาม การที่เราใช้จุดขายสองเรื่องนี้จะช่วยให้เราแตกต่างไปจากที่มีอยู่ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ในเรื่องความงาม ”อิศเรศ สุนทราวรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำจุดยืนของ “ลิปตัน ไนน์”

กลุ่มเป้าหมายของลิปตัน ไนน์ เป็นผู้หญิงอายุ 20-39 ปี นอกจากลิปตันจะชูเรื่องส่วนผสมจากธรรมชาติ 9 ชนิด และยังนำเรื่องของมีน้ำตาลที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของชาเขียวในตลาดซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมสาวยุคใหม่ที่ไม่นิยมความหวาน และคาดว่าจะเป็นตัวที่ผลักดันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลิปตันมีอัตราการเติบโต 30%

เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ลิปตัน ไนน์ จะให้น้ำหนักกับช่องทางจำหน่าย ในโมเดิร์นเทรด ด้วยสัดส่วนถึง 80%

นอกจากนี้เพื่อต้องการให้ “ลิปตัน ไนน์” มีส่วนแบ่งในตลาดชาเขียว 4-5% ได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ผ่านกิจกรรมตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้นางแบบ ”มารีญา ลินน์ เอเรียน” เป็นตัวแทนของผู้หญิงรักสุขภาพและความงาม ผ่านทางภาพยนตร์โฆษณา

ชุด “Hug Yourself” และยังให้ส่งภาพกอด?? ตัวเอง เข้าประกวดในโครงการ “Hug Yourself Photo Contest” ผ่านทางเว็บไซต์ www.lipton9.com เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองรสชาติทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 900,000 คน

ต้องรอดูกันต่อไปว่าในสถานการณ์ที่ตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ที่มีผู้นำที่โดดเด่นเพียงรายเดียว คือ โออิชิ และสถานการณ์ตลาด ไม่ได้เติบโตแบบหวือหวาเหมือนก่อน ลิปตัน ซึ่งเคยชิมลางกับตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมาก่อนแล้ว คงได้รับบทเรียนที่นำกลับไปแก้ไขเพื่อแต่งตัวเข้าสู้ศึกใหม่

แน่นอนว่าครั้งนี้ โจทย์ “ยากกว่าเดิม” เพราะไม่มี “กระแส” มาเร่งเร้า

มูลค่าตลาดชาพร้อมดื่ม 4,000 บาท (by segment)
ชาเขียว 70 % เติบโต 10%
ชาดำ 20% เติบโต 30%
ชาขาวและชาแดง 10%

Did You Know?

คนไทยรู้จักการดื่มชา ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยนิยมชงชาเพื่อรับแขก การดื่มชาของคนไทยสมัยนั้นดื่มแบบชาจีนไม่ใส่น้ำตาล