เปิดตัวสินค้าทั้งทีต้องมาแบบ “จัดเต็ม” และฟังเสียงผู้บริโภค จึงเป็นที่มาของการนำ 4 เมกะเทรนด์ “ครอบครัวเมือง-ดิจิทัล-พลังหญิง-รักสุขภาพ” มาปั้นให้เป็นกลยุทธ์การตลาด ภายใต้ 83 สินค้าและการใช้สื่อสารผ่านสื่อดิจิทัล โดยมี Google, Facebook, LINE, iBeacon ยืนพื้น ปรับเนื้อหาให้ง่ายเข้าถึงทุกกลุ่ม
ฟันธง 4 เมกะเทรนด์ในไทย
วรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาดบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด มองว่า ในปี 2560 นี้ ซัมซุงมองเห็นเมกะเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย 4 เทรนด์ด้วยกัน
1. การเติบโตของเขตเมือง ประชากรในต่างจังหวัดย้ายเข้ามาอยู่ในเขตเมืองมากขึ้น รวมถึงขนาดของครอบครัวในเขตเมืองที่เล็กลงจึงส่งผลให้ที่พักอาศัยในเขตเมืองที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และทาวน์เฮาส์ ขยายตัว
2. การเสพสื่อดิจิทัลและนักช้อปปิ้งออนไลน์ (Shopper 4.0) ข้อมูลล่าสุดพบว่าผู้บริโภคใช้เวลาในโลกออนไลน์มากที่สุดถึง 4.2 ชั่วโมงต่อวัน โดยใช้เวลาเสพข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ตื่นนอนถึงเข้านอนมากกว่าสื่ออื่นๆ เกือบทุกช่วงเวลา
รองลงมาคือการดูโทรทัศน์ 2.6 ชั่วโมงต่อวัน โดยมีช่วงเช้าหลังตื่นนอนและช่วงอาหารมื้อเย็นเป็นต้นไปที่ผู้บริโภคมักจะรับชมโทรทัศน์ไปพร้อมๆ กับการใช้โมบายล์ดีไวซ์ในการแชต เล่นเกม รวมไปถึงการค้นหาข้อมูลสินค้าและช้อปปิ้งออนไลน์อีกด้วย
โดยสัดส่วนในการช้อปปิ้งออนไลน์ระหว่างผู้หญิงและผู้ชายคิดเป็น 74% และ 26% ตามลำดับ
โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นประเภทสินค้าที่มีการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสินค้าแฟชั่น
3. พลังของผู้หญิงยุคใหม่ ที่มีทั้งอำนาจในการตัดสินใจและอำนาจซื้อ จากผลการสำรวจปี 2558 พบว่าผู้หญิงไทย 33.6% มีส่วนในการรับผิดชอบและตัดสินใจเรื่องภายในบ้าน และผู้หญิงไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับปี 2553 ทำให้ผู้หญิงเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนตลาดในปัจจุบัน
4. เทรนด์รักสุขภาพ จากการที่คนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ส่งผลให้ประชากรไทยมีอายุเฉลี่ยยาวนานขึ้น
ภายในปี 2561คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีจำนวนประชากรสูงวัยในสัดส่วน 18% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรวัยเด็กซึ่งมีเพียง 17% โดยภายในปี 2565 ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงวัยอันดับ 3 ในทวีปเอเชียรองจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์”
ขน 83 สินค้าลุยตลาด
ด้วยเหตุนี้ ซัมซุงจึงคิดค้นนวัตกรรมและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารเพื่อตอบรับกับเทรนด์ดังกล่าว
ด้านผลิตภัณฑ์
นโยบายการออกแบบคิดค้นผลิตภัณฑ์ เน้นใช้งานง่าย และสะดวกสบาย เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคนทำงาน กลุ่มผู้หญิง และกลุ่มคนรักสุขภาพ โดยปีนี้ซัมซุงเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านรุ่นใหม่ทั้งสิ้น 83 รุ่น
สื่อสารผ่านสื่อดิจิทัล ใช้ Google, Facebook, LINE, iBeacon ยืนพื้น
ด้านการสื่อสารการตลาด นอกจากจะทำการสื่อสารอย่างครอบคลุม 360 องศาแล้ว ปีนี้จะโฟกัสช่องทางดิจิทัลมากขึ้น
ซัมซุง ระบุว่า จะเพิ่มการสื่อสารและแนะนำสินค้าผ่านสื่อดิจิทัลหลักทั้ง Google Facebook และ LINE รวมทั้งการปรับใช้เครื่องมือ iBeacon ที่เป็นเครื่องมือส่งสัญญาณแจ้งข้อมูลข่าวสาร หรือคูปองสิทธิพิเศษ หรือการลดราคาเมื่อลูกค้าเดินผ่านหน้าช็อปซัมซุง
นอกจากนี้จะให้ความสำคัญในการศึกษาช่องทางที่ผู้บริโภคใช้หาข้อมูลสินค้าประกอบการตัดสินใจซื้อและช่องทางที่ผู้บริโภคซื้อสินค้า เพื่อทำการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค
ใช้ภาษาง่ายลดศัพท์เทคนิค
ทั้งยังเตรียมปรับเนื้อหาในการสื่อสารใหม่ โดยลดการใช้ศัพท์ทางเทคนิคลง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงและเข้าใจผลิตภัณฑ์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงและผู้สูงอายุ
เน้นช่องทางช้อปปิ้งออนไลน์ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มผู้หญิงที่มีการซื้อสินค้าออนไลน์สูง
ด้านบริการหลังการขาย มีการปรับปรุงและขยายช่องทางการให้บริการลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าซัมซุง ด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM จะมีการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ซัมซุง อัลติเมท (Samsung Ultimate) หรือโปรแกรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าซัมซุง ซึ่งในปีนี้ซัมซุงเตรียมสิทธิพิเศษดีๆ เพื่อสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเพิ่มฐานสมาชิกอีก 100%
ที่มาแนวคิด Innovation that Cares
จากเทรนด์ดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการวิจัยและพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์จากการฟังเสียงของผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด ‘Innovation that Cares’
สินค้าที่จะวางตลาดในปีนี้ เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ซัมซุงอินเวอร์เตอร์ วินด์ฟรี (SamsungInverter Wind-Free™) PowerBot รุ่น VR9300 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ เชื่อมต่อ WiFi ทำให้สามารถควบคุมเครื่องดูดฝุ่น ผ่านแอปพลิเคชั่น
เครื่องซักผ้า ซัมซุง แอดวอช พร้อมช่องเติมผ้าระหว่างซักที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ขยายไลน์อัพและเพิ่มฟังก์ชันการอบผ้าไปด้วยในตัว ตู้เย็นซัมซุง ทวินคูลลิ่งพลัส
นอกจากนี้ซัมซุงยังใช้กลยุทธ์ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง ‘แบล็ก สแตนเลส ซีรีส์’ เน้นดีไซน์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านให้สวยงาม สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านได้
โดยซัมซุงยังคงเน้นขายผ่านช่องทางจำหน่าย ปัจจุบันมีการขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดและคู่ค้ากว่า 1,000 ร้าน โดยมีแผนการปรับโฉมตามแนวคิด ‘Samsung Open House’ ซึ่งเป็นการจำลองบรรยากาศให้เหมือนอยู่ที่บ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ในการช้อปปิ้ง โดยตั้งเป้าปรับโฉมในปีนี้ทั้งหมด 10 ร้าน เพิ่มจากปีที่แล้วที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 10 ร้าน ด้านโปรโมชั่น ซัมซุงเตรียมแคมเปญโปรโมชั่นใหญ่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในไตรมาสแรก จะเน้นซัมเมอร์ โปรโมชั่น ที่ให้ส่วนลดพิเศษมากมาย
ด้วยนวัตกรรมและกลยุทธ์ทางการตลาด 360 องศา ประกอบกับงบการตลาดที่เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซัมซุงมั่นใจว่าจะครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้เป็นปีที่ 9 ติดต่อกันอย่างแน่นอน
เสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้อำนวยการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
- Nielson Shopper Trend 2016
- Euromonitor
- Office of the National Economic and Social Development Board