ค่ายรถยนต์ ฮอนด้า ประกาศนำรถรุ่นใหม่ลงตลาดในปี 2560 หลายรุ่น ประเดิมด้วยส่งฮอนด้า ซิตี้ ปรับโฉมใหม่ ลงสู้ศึกในตลาดซับคอมแพกต์ เพิ่มความหรู และสปอร์ต
“ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ จะยกระดับความหรูหรา และความสปอร์ตยิ่งขึ้นทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และมาตรฐานความปลอดภัย” พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
สำหรับโฉมใหม่ พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ “Advanced Energetic Smart Star” ซึ่งฮอนด้าเชื่อว่า จะยกระดับฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ให้เหนือกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในระดับเดียวกัน จากดีไซน์ภายนอกที่ได้รับการยกระดับความหรูหรายิ่งขึ้น ด้วยการติดตั้งไฟส่องสว่าง สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Lights) ในทุกรุ่น
นอกจากนี้ยังติดตั้งไฟหน้าแบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และปรับให้ดูโฉบเฉี่ยว และสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์ใหม่ พร้อมกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยด์ลายใหม่ดีไซน์สปอร์ต
ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบให้ดูสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น ด้วยแผงคอนโซลสีกันเมทัลลิก (Gun Metallic) เบาะนั่งลายใหม่สไตล์สปอร์ต พร้อมอุปกรณ์ เช่น ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้าแบบ LED และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED เป็นต้น
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ รุ่น SV+ CVT ราคา 751,000 บาท, รุ่น SV CVT ราคา 736,000 บาท, รุ่น V+ CVT ราคา 689,000 บาท, รุ่น V CVT ราคา 649,000 บาท, รุ่น S CVT ราคา 589,000 บาท และรุ่น S MT ราคา 550,000 บาท และมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก), สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท, สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก), สีขาวทาฟเฟต้า, สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก) พร้อมสีภายในห้องโดยสารสีดำ
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีทั้งหมด 6 รุ่น
มาสด้าส่ง 6 รุ่นลุยตลาด ตั้งเป้าโต 18%
ค่ายมาสด้า ประกาศเปิดตัวรถใหม่พร้อมกัน 6 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 18% หรือ 50,000 กว่าคัน และคาดว่าจะครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 6%
ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ปีที่ผ่านมา แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยแทบจะไม่มีปัจจัยบวกมากระตุ้น ส่งผลให้ยอดขายรวมทั้งปีไม่เติบโตมากนัก แต่ยอดขายตลาดรถยนต์โดยรวม ยังคงทำได้ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ คือประมาณ 767,000 คัน โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยประมาณ 4% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่าน จากตัวเลขยอดขายรวมอยู่ที่ 797,242 คัน
ส่วนมาสด้านั้นทำยอดขายปี 2559 ได้ที่ 43,000 คัน เติบโตขึ้ง 8% สวนทางกับยอดรวมของตลาดที่ลดลง 4% มาในปี 2560 มาสด้า จึงส่งอีก 6 รุ่น มาลุยตลาด ด้วยเป้า 50,000 คัน ภายในปี 2560 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 18% โดยคาดวาจะรวมของตลาดจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-8% หรือมากกว่า 800,000 คัน
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของมาสด้า โดยติด 10 อันดับแรกของประเทศที่มียอดขายสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตด้านยอดขายในปีที่ผ่านมานั้น เพิ่มขึ้นถึง 8% ครองส่วนแบ่งการตลาด 5.5% ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตเป็นอันดับ 1 ของมาสด้าทั่วโลก และเป็นอันดับสองที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดรองจากประเทศออสเตรเลีย
นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญแห่งหนึ่งของมาสด้า และเป็นฐานการผลิตรถยนต์ครบวงจรแห่งแรกนอกจากประเทศญี่ปุ่นของมาสด้า ที่สามารถผลิตทั้งเครื่องยนต์ระบบส่งกำลังและการประกอบรถยนต์
กลยุทธ์ด้านการตลาดของมาสด้าในปีนี้ จะมุ่งเน้นสร้างแบรนด์ให้มีความเป็นพรีเมียมมากขึ้นทั้งระบบ ทั้งผลิตภัณฑ์ รูปแบบของศูนย์บริการ ศักยภาพของพนักงานการบริการด้านการขาย และคุณภาพของการบริการหลังการขาย
จากการที่ลูกค้าเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และรูปลักษณ์การออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ ทำให้มาสด้ายังคงมุ่มมั่นกับเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่ตอบสนองลูกค้าได้ทั้ง 2 อย่างคือความแรงและประหยัดน้ำมัน
ในปีนี้ นอกเหนือจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากถึง 6 รุ่น แล้ว ลูกค้ายังจะได้พบกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากมาสด้า นั่นคือ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่กำลังจะมาพร้อมกับมาสด้า 3 ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 24 มกราคมนี้
ที่มา :
- http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9600000003646
- http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9600000003769