ศิวะ มหาสันทนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2559 ของกลุ่มบริษัทฯ โดยมียอดขายสุทธิ 34.192 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 9.9 จากปีก่อนที่มียอดขายสุทธิ 31.12 พันล้านบาท
“สาเหตุหลักที่ยอดขายเพิ่มมาจากการซื้อกิจการในบังคลาเทศ (เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559) ประเทศไทย (พฤษภาคม 2559) และศรีลังกา (สิงหาคม 2559) ที่ช่วยเพิ่มยอดขายเป็นจำนวน 4.184 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี ตลาดในประเทศไทยอยู่ในภาวะย่ำแย่ตลอดปี เนื่องจากจำนวนสินค้าที่ล้นตลาดและการลดลงของความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีผลต่อราคาขายของสินค้า
“ขณะที่กำไรของกลุ่มบริษัทลดลงในอัตราร้อยละ 14.5 มาอยู่ที่ 3.914 พันล้านบาท จาก 4.579 พันล้านบาทในปีก่อน บริษัทฯ มีกำไรจำนวน 435 ล้านบาทจากการขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท โฮลซิม ซีเมนต์ (บังคลาเทศ) จำกัด มาชดเชยกับภาระจากสภาวะตลาดในประเทศไทยที่ย่ำแย่ และค่าใช้จ่ายในการซื้อกิจการเป็นจำนวน 304 ล้านบาท
“สำหรับกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจของเราด้วยการลงทุนเพิ่มในประเทศไทยและประเทศในแถบภูมิภาคใกล้เคียงสร้างผลดีต่อยอดขายในทันที ณ ขณะนี้เรามีฐานธุรกิจใหม่และใหญ่พอในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าประเทศไทย ทำให้เราสามารถเพิ่มจำนวนการส่งออกปูนเม็ดและทำให้เตาเผาสามารถทำงานอย่างเต็มกำลังและด้วยประสิทธิภาพสูงสุด คาดว่าประโยชน์จากการขยายกิจการต่อผลประกอบการจะยังคงดำเนินต่อไปตลอดปี 2560”
สำหรับแนวโน้มในอนาคตบริษัทฯ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาดว่า “ตลาดปูนซีเมนต์จะยังแข่งขันกันสูงต่อไปในปี 2560 แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าความต้องการในประเทศจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากการลงทุนและการเปลี่ยนแปลงในปีที่ผ่านมา เราคาดว่าบริษัทลูกแห่งใหม่ที่เป็นผู้ผลิตซีเมนต์ โดยเฉพาะที่ศรีลังกาและบังคลาเทศจะช่วยเพิ่มรายได้และกำไรให้กับทั้งกลุ่มบริษัท”
กิจกรรมของธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ ปูนซีเมนต์
คาดการณ์ว่าความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศจะลดลงในอัตราร้อยละ 1 แต่เราจะยังสามารถคงส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ร้อยละ 27.5 เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 การแข่งขันที่สูงและความต้องการที่อยู่อาศัยที่ลดลงทำให้การขายปูนบรรจุถุงลดลงประมาณร้อยละ 8 ในขณะที่การขายล็อตใหญ่ (bulk sales) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2
ตลาดปูนซีเมนต์ตามแนวชายแดนกระเตื้องขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 4 ของปี 2559 เนื่องจากเส้นทางขนส่งในกัมพูชามีสภาพที่ดีขึ้นหลังฤดูมรสุมตลอดปี จำนวนปูนซีเมนต์ที่ขายได้ลดลงร้อยละ 13 เนื่องจากการเสียส่วนแบ่งการตลาดในประเทศเมียนมาร์และลาว ในขณะที่กัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของบริษัทมีจำนวนขายลดลงเพียงร้อยละ 3
อัตราการเติบโตของจำนวนขายในตลาดใหม่อย่างศรีลังกาและบังคลาเทศยังคงสูงและน่าจะสูงต่อเนื่องในปี 2560
คอนกรีตผสมเสร็จและอะกรีเกต
บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ซึ่งประกอบด้วย อินทรีคอนกรีตและอินทรีอะกรีเกต ยังคงมีการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดปี อินทรีคอนกรีตมีจำนวนขายที่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 10.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนมากมาจากการลงทุนจากภาครัฐ อย่างไรก็ตามราคาที่ลดลงทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.2 จากปีก่อนหน้าซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรจากการดำเนินการ
อินทรีอะกรีเกตมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ15 ในปี 2559 โรงงานที่สุพรรณบุรีมีส่วนอย่างมากในการเพิ่มจำนวนและยอดขาย ทำให้รายได้โดยรวมของอินทรีอะกรีเกตเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 7
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และกำไรจากการดำเนินการก็เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 7 เช่นเดียวกัน
คอนวูด – ผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้สำหรับตกแต่ง
ยอดขายในประเทศของไม้คอนวูดลดลงในอัตราร้อยละ 1 จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการแข่งขันที่สูงในตลาดไม้ทดแทนและการเติบโตที่ต่ำลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตลาดสำคัญยังคงอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครที่การขายให้โครงการก่อสร้างยังคงเพิ่มขึ้น รวมทั้งยอดขายผ่านช่องทางขายโมเดิร์นเทรดที่ยังคงตัว การออกสินค้าใหม่ในหมวดสินค้าตกแต่งนั่นคือไม้ผนังบังใบคอนวูด รุ่น G5 ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
อินทรีซุปเปอร์บล๊อก – ผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา
ยอดขายของบริษัท อินทรีซุปเปอร์บล๊อก จำกัดในปี 2559 เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะดำเนินกลยุทธ์ที่จะเพิ่มจำนวนสินค้าที่มีมูลค่าสูงต่อไป รวมทั้งการผลิตตามคำสั่งเพื่อเพิ่มจำนวนขาย ราคาสินค้ายังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2559 ณ สิ้นปีราคาลดลงร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
อินทรีอีโคไซเคิล – ธุรกิจบริหารจัดการของเสียอย่างครบวงจร
ในปี 2559 เป็นปีที่สำคัญปีหนึ่งของบริษัท อินทรีอีโคไซเคิล จำกัด บริษัทกลายเป็นผู้ให้บริการทำความสะอาดได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมรายแรกของประเทศไทยจากการซื้อบริการทำความสะอาดสำหรับอุตสาหกรรมจากบริษัท วาเลนซ์ จำกัด โดยสามารถให้บริการแบบครบวงจรกับลูกค้าที่อยู่ในธุรกิจน้ำมันและแก๊ส เคมี และ โรงงานไฟฟ้า
การเพิ่มการบริการของผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจจัดการของเสียหลักของบริษัทช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวกับการจัดการน้ำเสียและการทำความสะอาดแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ถูกยกเลิกสัมปทาน
ผลการดำเนินงานโดยรวมของกลุ่มบริษัทฯ
2016 |
2015 |
เปลี่ยนแปลง |
|
ล้านบาท |
ล้านบาท |
ร้อยละ |
|
ยอดขายสุทธิ |
34,192 |
31,120 |
9.9 |
ผลกำไร |
3,914 |
4,579 |
-14.5 |
บาท |
บาท |
||
กำไรต่อหุ้น |
17.02 |
19.91 |
-14.5 |