ซอฟท์แบงก์ ฟันธง อีก 30 ปี โลกเข้าสู่ยุค SuperIntelligence ควัก 1 แสนล้านเหรียญลงขัน AI

มาซาโยชิ ซัน และหุ่นยนต์เปบเปอร์ (ภาพจากรอยเตอร์)

มาซาโยชิ ซัน ผู้ยิ่งใหญ่แห่งซอฟท์แบงก์ (SoftBank) และโลกเทคโนโลยี ออกมาคาดการณ์ว่ายุคแห่ง Singularity หรือจุดที่เทคโนโลยีจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้นั้นจะมาถึงภายในปี 2047 หรืออีกประมาณ 30 ปีข้างหน้า

โดยซันได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในงาน Mobile World Congress 2017 งานมหกรรมด้านเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมและอุปกรณ์โมบายล์ต่างๆ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซึ่งเป็นความเห็นที่ไม่แตกต่างไปจากสุดยอดผู้นำรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อีลอน มัสก์ ซีอีโอคนดังเจ้าของเทสล่า (Tesla) และ SpaceX หรือ Demis Hassabis ซีอีโอจาก Google DeepMind ที่ต่างมองไปในทิศทางนี้เช่นกัน

โดยซันกล่าวว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง โลกจะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า SuperIntelligence ที่ซึ่งเทคโนโลยีสามารถเรียนรู้และคิดได้ด้วยตนเอง รวมถึงจะมีเทคโนโลยีหลากหลายแบบถือกำเนิดขึ้น เช่น ชิปคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถล้ำหน้า หุ่นยนต์สารพัดแบบ และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ยังเขาเผยด้วยว่า ซอฟท์แบงก์มีแผนจะพัฒนา AI ด้วยเงินลงทุน 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมาจากกองทุนชื่อ SoftBank Vision Fund ซึ่งมีบริษัทอย่างแอปเปิล (Apple) และควอลคอมม์ (Qualcomm) เข้าร่วมด้วย

“ผมเชื่อว่า SuperIntelligence นั้นจะมาถึงแน่นอน นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องรีบลงทุนในเรื่องดังกล่าว”

“เมื่อเวลานั้นมาถึง AI จะมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ คิดและทำงานได้เหนือกว่าเรา ซึ่งผมคิดว่า SuperIntelligence นี้จะอยู่กับเราในฐานะพาร์ตเนอร์ ถ้าใช้ในทางที่ถูกก็จะนำพาชีวิตไปสู่โอกาสที่ดีกว่า แต่ถ้าเราใช้ไปในทางที่ผิด ก็อาจเป็นความเสี่ยงที่โลกจะต้องแบกรับ แต่โดยรวมแล้วเชื่อว่าจะทำให้มนุษย์ก้าวไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

แต่ที่แน่ๆ ยังไม่มีใครรู้ได้ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับโลกในวันที่เทคโนโลยีคิดเป็น และคิดได้เหนือกว่ามนุษย์นั้นคืออะไร ดังนั้น การเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราในตอนนี้สามารถทำได้ก็เป็นได้

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000020467