เอชทีซี เปิดช็อปเชียงใหม่รับ 3G

หากไม่เป็นเพราะตลาดเมืองเหนือมาแรง และเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกของไทยที่มีบริการ 3G ทำให้ผู้ผลิตพีดีเอโฟนมาแรงอย่าง HTC เลือกเปิดช็อปแรกที่เชียงใหม่เป็นที่แรก

บนพื้นที่กว่า 32 ตารางเมตร ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่ แอร์พอร์ต เป็นศูนย์จำหน่ายและแสดงสินค้าของเอชทีซีโดยเฉพาะ หรือจะเรียกให้เก๋ว่า “HTC Concept Store” ซึ่งเกิดจากการร่วมมือของบริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชัน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซูม เทคโนโลยี จำกัด

ซูม เทคโนโลยี ถือเป็นดีลเลอร์ที่จะรับต่อช่วงจากเอสไอเอสในการขายเครื่องเอชทีซีในภาคเหนือ โดยที่ผ่านมาซูมโดดเด่นอยู่ในตลาด Pocket PC, PDA Phone ภาคเหนือมานานกว่า 7 ปี เฉพาะ 5 ปีหลังซูมมีอัตราการเติบโตจาก 150% เป็น 300% เชื่อว่าการร่วมมือกับเอสไอเอสในครั้งนี้จะช่วยดันยอดขายของเอชทีซีให้เพิ่มขึ้นถึง 10% เลยทีเดียว

ปัจจุบัน ซูม มีทั้ง 4 สาขา และอีก 1 ศูนย์บริการฝึกอบรม รวมเอชทีซี คอนเซ็ปต์สโตร์ ส่วนใหญ่กลุ่มที่เข้ามาแวะเวียนร้านจะเป็นกลุ่มของวัยทำงาน องค์กร หรือนักศึกษาที่ต้องการใช้งานผ่าน PDA Phone ในเชิงธุรกิจและการเรียนเพิ่มมากขึ้น

รวมถึงกลุ่มนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะนักศึกษาแพทย์และวิศวะเป็นกลุ่มเป้าหลักของการเปิด “HTC Concept Store” ในครั้งนี้ ที่มองว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ PDA Phone เพราะกลุ่มนี้ใช้โปรแกรม e-book เป็นตำราในการเรียนของเขา ทำให้นักศึกษาไม่จำเป็นต้องแบกตำราเรียนเล่มหนาไปเรียนทุกวัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

“30 % ของกลุ่มคนที่มาซื้อของในร้านซูมเป็นเด็กนักศึกษา กลุ่มนี้ทำเงินให้ซูมมากกว่า 6 ล้านบาทต่อเดือน และกว่า 80% เป็นเครื่องของเอชซีทีด้วย” ณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว

นอกจากนั้น ทีมผู้บริหารได้นำทีมสื่อมวลชนไปร่วมเปิดประสบการณ์ทดสอบระบบ 3GSM advance เคลื่อนความถี่ 900 MHz และการทำงานของ HTC Touch Diamond

เน้นการทดสอบการใช้งาน GPS และ VDO Call สำหรับ GPS โปรแกรมแผนที่ของ Garmin Mobile XT ซึ่งการทดสอบครั้งนี้ให้ความแม่นยำและบอกทิศทางได้ดี และอีกการทดสอบคือ VDO Call ก็ให้ภาพและเสียงที่ชัด สัญญาณมีการดีเลย์เพียง 1-2 วินาที ซึ่งถึงว่าน้อยมากไม่นับเป็นอุปสรรคต่อการสนทนา ตลอดการทดสอบครั้งนี้ VDO Call ผู้สนทนาทั้ง 2 ฝ่ายเคลื่อนที่ตลอดเวลา สามารถใช้งานผ่านหูฟังบลูทูธได้

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ที่เชียงใหม่นั้นมีความสำคัญเพียงใด หากตัดกรุงเทพฯ ออกก็จะมี เชียงใหม่และภูเก็ตเท่านั้นที่เป็นหัวหอกของตลาดไอทีส่วนภูมิภาคมาตลอด เพราะเชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่อันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ และมีจำนวนลูกค้าใช้งานประเภทดาต้าประจำจำนวน 3,800 ราย และไม่ประจำจำนวน 60,000 ราย และพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็เป็นไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองมากขึ้น

และที่สำคัญ เชียงใหม่ยังเป็นฐานที่มั่นของเอไอเอสที่เปิดตัว 3 จีมาก่อน ตลอดจนการบริการการเข้าถึง ADSL หรือบรอดแบนด์ทางสายยังน้อยกว่ากรุงเทพฯ เอไอเอสจึงตั้งเป้าปลายปีมีลูกค้าใช้บริการไม่น้อยกว่า 8 หมื่นราย ซึ่งตัวเลขนี้หมายถึงยอดขายของเอชทีซีจะเพิ่มขึ้นด้วย

แม้เอชทีซีไม่ได้บอกโต้งๆ ว่าจะพิชิตตลาด 3 จี แต่ช่วงที่ผ่านมานั้น แทบจะเกินครึ่งของ เอชทีซี เป็นสมาร์โฟน ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่เสียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึง Non Voice ด้วย

ดังนั้นท่าทีหลายอย่าง และเหตุผลประกอบกันมันก็สมเหตุสมผลดีว่า เอชทีซีก็จะแข่งกับตลาด 3 จี เหมือนกัน