โทรศัพท์มือถือถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ปัจจุบันขาดไม่ได้ รองจากกระเป๋าสตางค์และกุญแจบ้าน รวมถึงเป็น 1st Screen หรือจอหลัก นำหน้าจอโทรทัศน์และมือถือ ด้วยสัดส่วนผู้ใช้ในปัจจุบันมากกว่า 70% จากประชากรทั้งประเทศ ไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจต่างๆ จึงหันมาใช้ประโยชน์จากการโฆษณาสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น
การโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือที่ใช้มากเวลานี้คงหนีไม่พ้น SMS/MMS แต่ก็มักสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ได้รับบ่อยครั้ง จากผลการวิจัยพบว่าทัศนคติที่มีต่อโฆษณาทาง SMS จากกลุ่มคนที่ได้รับโฆษณาประเภทนี้ 98% ยังมองว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 16% คิดว่าเป็นสื่อที่แตกต่างจากสื่ออื่น แต่ก็มีถึง 29% ที่คิดว่า SMS เป็นสื่อน่ารำคาญ (ข้อมูลจาก นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2340)
รูปแบบของการโฆษณาบนมือถือในปัจจุบันมีหลากหลาย ด้วยปัจจัยที่เสริมกัน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของตัวเครื่องโทรศัพท์ (Handset) ความเร็วของเครือข่าย (Operator) และเทคโนโลยีการโฆษณา (Provider) ซึ่งนอกจาก SMS/MMS แล้วยังมี Video, Mobile Site และ QR Code รูปแบบโฆษณาดังกล่าวที่สามารถลิงค์ไปยังเว็บไซต์ ที่สามารถเข้าไปชมได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ ประมาณ 100 ล้านราย ซึ่งในจำนวนนี้มากกว่า 60% ที่เข้าเว็บไซต์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือเป็นประจำ (สถิติจากบริษัทรีเสิร์ช ออน เอเชีย กรุ๊ป)
Video นอกจากการดูวิดีโอผ่านเว็บไซต์ จะเป็นกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตที่คนทั่วโลกทำมากที่สุดแล้ว พฤติกรรมนี้จะยังเคลื่อนตัวมาบนมือถือด้วย เพราะความเร็วของอินเทอร์เน็ตในยุค 3G จะเอื้อให้การดู Video ผ่านมือถือเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารอ ภาพไม่กระตุก ซึ่งนี่เป็นหนึ่งของโอกาสในการโฆษณาช่องทางใหม่ๆ ในอนาคต
Mobile Site เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาในยุคที่ 3G ครองเมือง เพราะความเร็วของอินเทอร์เน็ตบนมือถือช่วยกระตุ้นให้คนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือกันมากขึ้นและบ่อยขึ้น เจ้าของสินค้าใดที่มีเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุค Hispeed Mobile รวมถึงการเข้าไปจับจองเนื้อที่โฆษณาของเว็บไซต์บนมือถือก็เป็นสิ่งสำคัญในอนาคตอันใกล้นี้
QR Code จากที่เคยเปิดตัวมาแล้วในเมืองไทยเมื่อ 2 ปีก่อนแต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากข้อจำกัดหลายๆ อย่างโดยเฉพาะเรื่องความเร็วของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของมือถือ แต่ในยุคของ 3G สิ่งนี้จะเริ่มกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายๆโดยไม่ต้องพิมพ์ url ยาวๆ ให้เสียเวลา แค่ Scan QR Code ที่ติดอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น สิ่งพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งบิลบอร์ด ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เราต้องการนำเสนอสู่ผู้บริโภคได้ง่ายๆ
โฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศบ้านเราจะกลายเป็นสิ่งสามัญธรรมดาในอนาคต เนื่องจากการเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีโทรศัพท์รุ่นที่ 3 (3G) ขณะที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีปริมาณคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่มีตัวเลขระบุที่แน่ชัด เพราะคนไทยเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือด้วยการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายปกติ (GPRS/EDGE) เป็นจำนวนกว่า 7 ล้านคนต่อเดือน (จากข้อมูลประมาณการของ AIS และ DTAC) และการใช้งานผ่าน Wi-Fi ซึ่งในกรณีนี้ไม่สามารถวัดข้อมูลการใช้งานได้
ถึงเวลาที่นักการตลาดและนักโฆษณา อาจต้องให้ความสำคัญกับโฆษณาผ่านมือถือมากขึ้น นอกจากจะเป็นสื่อที่มีความรวดเร็วและใกล้ชิดมากที่สุดแล้ว ยังวัดผลได้ชัดเจน ซึ่ง เดวิด เทอร์เช็ตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ 21 คอมมิวนิเคชั่นส์ บริษัทการตลาดที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือ ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือว่าได้ยกตัวอย่าง การโฆษณาผ่านอีเมล จะมีอัตราการเปิดชม (Open Rate) เพียง 20-30% ของจำนวนอีเมลที่ส่งไปทั้งหมด ขณะที่โฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือมีอัตราการเปิดชมสูงถึง 95%