ปัญหาของคนขับรถส่วนใหญ่ก็คือการขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลรักษาเครื่องยนต์กลไกต่างๆ ทำให้เมื่อเกิดปัญหาในการขับขี่ มีความจำเป็นต้องนำรถยนต์ที่ขัดข้องเข้าซ่อมในอู่ที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงมักจะถูกช่างเครื่องหัวหมอ บวกค่าแรงค่าอะไหล่ที่แพงเกินความจริง บางครั้งยังยุให้เปลี่ยนอะไหล่ (ที่ยังไม่ทันจะเสีย) ด้วยการแสดงถึงผลกระทบที่ดูโอเวอร์ ทำให้คนขับรถอย่างเราๆ เกิดอาการขยาดอู่ซ่อมรถโนเนมไปในทันที ก่อนจะเอารถไปซ่อมแต่ละครั้งจึงต้องค้นหาข้อมูล สอบถามคนรู้จักกันให้วุ่นวายเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างในเรื่องของยางรถยนต์ก็เช่นกัน คนขับรถส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ารถของตนเองนั้นต้องเติมลมยางเท่าไหร่ เติมไนโตรเจนกับเติมลมธรรมดาต่างกันตรงไหน ถ้าจอดรถไว้นานๆ สองสามเดือนโดยไม่ได้ใช้งานจะส่งผลเสียยังไงต่อยางยาง แก้มสูงกับยางแก้มเตี้ยแบบไหนดีกว่ากัน ฯลฯคำถามเหล่านี้เป็นตัวเช็คง่ายๆ ว่าคุณเองใส่ใจกับการดูแลยางรถยนต์ที่ขับขี่มากน้อยแค่ไหน
แต่ที่ GRIP ศูนย์บริการยางรถยนต์แบบครบวงจร เข้าใจถึงปัญหาดังกล่าวของผู้ใช้งานเป็นอย่างดี จึงได้สร้างศูนย์บริการยางที่ได้มาตรฐาน โดดเด่นด้วยเครื่องมือตรวจเช็คที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาใช้ พร้อมทีมช่างผู้มีประสบการณ์และความชำนาญ ด้วยบรรยากาศการให้บริการที่อบอุ่นเป็นกันเอง และที่สำคัญคือการสร้างความมั่นใจให้กลุ่มลูกค้าด้วยการรับประกันคุณภาพ เพราะไม่ว่ายางของคุณจะ “บาด บวม แตก ตำ” มาจากที่ไหน ก็สามารถเคลมได้ภายในระยะเวลา 60 วัน ทาง GRIP ยินดีบริการเปลี่ยนให้ท่านฟรี! ทันที (ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันที่ทางบริษัทฯ กำหนด)
ภายในศูนย์บริการ GRIP ยังมียางรถยนต์ครบทุกเซ็กเมนต์ ในท้องตลาดพร้อมให้บริการ ตั้งแต่ ECO Tire ไปจนถึง Ultra High Performance Tire ทั้งสำหรับรถยนต์ รถ SUV รถกระบะ รถตู้ และรถอีกหลากหลายประเภท ภายใต้แบรนด์ยางรถยนต์นำเข้าคุณภาพสูงจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น TOYO TIRES, NITTO TIRE และ KUMHO TIRE โดยยางแต่ละแบรนด์จะมีจุดขายที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับบน ไม่ว่าผู้บริโภคจะต้องการยางแบบไหน “กริพ” คือคำตอบที่คุณวางใจ โดยปัจจุบันศูนย์บริการยางครบวงจร GRIP เปิดให้บริการเกือบ 40 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนที่จะขยายไปอีก 200 แห่ง ภายใน 10 ปีที่จะถึงนี้
นายอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด และศูนย์บริการยางครบวงจร GRIP ได้มีการวางแผนการตลาดและกลยุทธ์การสื่อสารทั้งในส่วนของสื่อ Above the line และ below the line ไว้อย่างครบถ้วน โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งและคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากในปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการรับสื่อจากทิศทางต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัว ซึ่งนอกจากช่องทางการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิตอลต่างๆ ที่บริษัทฯ เป็นผู้นำในการทำการตลาดไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์แล้ว ทางบริษัทฯ ยังทำการปล่อยคลิปไวรัลของศูนย์บริการยางครบวงจรแบรนด์คนไทยรายแรกออกมา เพื่อเป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ในการสร้างการรับรู้และความเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างการจดจำแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการใช้บริการศูนย์เปลี่ยนยางแบบครบวงจรที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
และจากแผนการตลาดและกลยุทธ์ต่างๆ ที่บริษัทฯ วางไว้ จึงมั่นใจได้ว่าภาพลักษณ์ของ GRIP จะมีการเติบโตและสามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยหวังว่าจะสามารถการเข้าถึงผู้บริโภคในฐานะผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถและดูแลรักษายางได้เป็นอย่างดี เป็นสัญลักษณ์ของความคุ้มค่าน่าเชื่อถือได้อย่างปลอดภัย และเป็นเพื่อนร่วมทางของผู้ขับขี่ไปตลอดการเดินทางตามสโลแกนที่วางไว้ “กริพ” ที่เดียวจบเรื่องยาง
ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ของ GRIP ได้ที่ https://www.facebook.com/GripThailand/