บริการสตรีมมิ่งวิดีโอออนไลน์ดาวรุ่ง “เน็ตฟลิกซ์” (Netflix) ประกาศนับถอยหลังฐานสมาชิกสู่หลัก 100 ล้านรายในสัปดาห์นี้ ถือเป็นสถิติน่าสนใจ เพราะ Netflix สามารถเพิ่มสมาชิกได้เกิน 5 ล้านรายในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ขีดเส้นจบเดือนมีนาคม ด้วยยอด 98.7 ล้านรายใน 190 ประเทศ
รีด แฮสติงส์ (Reed Hastings) ซีอีโอ Netflix แสดงความเชื่อมั่นว่า การขยายฐานผู้ใช้สู่ 100 ล้านรายถัดไปของ Netflix จะใช้เวลาเร็วกว่า 100 ล้านรายแรกที่บริษัททำได้ โดยบอกว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Netflix เติบโต คือ ความนิยมในการชมวิดีโอ และความแพร่หลายของอินเทอร์เน็ต ทำให้ Netflix กลายเป็นที่นิยมของคนอเมริกันส่วนใหญ่ และเริ่มขยายสู่ผู้ใช้ในประเทศอื่นมากขึ้น
Netflix เปิดเผยว่า ผู้ใช้ราว 51 ล้านรายเป็นผู้ใช้ในสหรัฐฯ ขณะที่อีก 48 ล้านรายเป็นผู้ใช้จากต่างประเทศ (สถิติมีนาคม 2560) จุดนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่า ผู้ใช้ Netflix จากต่างประเทศจะมีจำนวนมากกว่าฐานผู้ใช้ในสหรัฐฯ บ้านเกิดช่วงปีนี้
ฐานผู้ใช้ที่เติบโตทำให้ Netflix มีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นฉุดไม่อยู่ โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทสามารถเพิ่มฐานผู้ใช้ได้มากกว่า 72 ล้านคน ล่าสุด มูลค่าหุ้น Netflix พุ่งขึ้นอีก 1.90 เหรียญสหรัฐ ปิดที่ 149.15 เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดมากกว่า 6.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม Netflix ยังถูกมองว่า อ่อนด้อยกว่าบริการทีวีที่ต้องเสียค่าบริการอย่างเอชบีโอ (HBO) ซึ่งมีฐานสมาชิกมากกว่า 134 ล้านรายทั่วโลก
นอกจากนี้ Netflix ถูกนักวิเคราะห์มองว่า มีแนวโน้มขึ้นค่าบริการในอนาคต เนื่องจาก Netflix มีค่าใช้จ่ายมหาศาลรออยู่ โดยฐานค่าบริการสมาชิกของ Netflix คงที่มาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งหากไม่มีการเพิ่มค่าบริการ Netflix จำเป็นต้องโกยสมาชิกใหม่ให้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ จึงจะมีกำไรมากขึ้น
สำหรับไตรมาสล่าสุด Netflix สามารถทำกำไรสุทธิ 178 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6.1 พันล้านบาท) มีรายได้รวม 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้ว
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000039221
