การจัดประกวดแผนการตลาด โดยให้นิสิตและนักศึกษาส่งผลงานเข้ามาประชันกัน ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นอกจากจะทำให้แบรนด์ได้ไอเดียดีๆ มาใช้ในงานด้านการตลาดซึ่งเข้ากับความต้องการของคนรุ่นใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างแบรนด์ผ่านคนเหล่านี้ และยังได้นักการตลาดรุ่นใหม่มาร่วมงาน
เช่นโครงการ “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม” ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในการเป็นเวทีในการปั้นนักการตลาดรุ่นใหม่ และยังมีโอกาสเข้าทำงานในลอรีอัลได้ทันที โดยผ่านทางโครงการ “Management Trainee” ที่โดยปกติจะรับเฉพาะผู้ที่จบปริญญาโทเท่านั้น
โครงการนี้ได้จัดขึ้นครั้งแรกโดยบริษัท ลอรีอัล กรุ๊ป ในปี พ.ศ. 2535 จัดมา 25 ปี ปัจจุบันมีนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันในโครงการมาแล้วกว่า 95,000 คนทั่วโลก จากกว่า 360 มหาวิทยาลัย ใน 58 ประเทศ สำหรับประเทศไทยได้จัดโครงการนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14 แล้ว มีนักศึกษาจำนวนกว่า 237 คน จาก 6 มหาวิทยาลัย เข้าร่วมแข่งขันในโครงการนี้ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมฟอร์ด และวิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ในปีนี้ได้ปรับวัตถุประสงค์ของโครงการให้เป็น “Project & Talent Incubator” สนับสนุนโครงงานและผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด และเปิดกว้างให้กับนักศึกษาในทุกระดับชั้นโดยไม่จำกัดสาขา
โจทย์ในปีนี้เป็นคอนเซ็ปต์ “Disrupt Men’s Grooming with Life-Changing Innovation หรือการสร้างนวัตกรรมเพื่อพลิกโฉมการดูแลตนเองสำหรับผู้ชายผ่านแบรนด์ L’Oreal Men Expert”
โดยให้นักศึกษาออกแบบนวัตกรรมสินค้าใหม่ และวางกลยุทธ์การตลาดให้กับแบรนด์ L’Oreal Men Expert จับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลอายุ 18-25 ปีเป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยและกลุ่มเริ่มทำงาน โดยโปรเจกต์นี้จะต้องครอบคลุมเรื่องการใช้นัวตกรรมด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลพร้อมกับเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม สินค้าหรือแผนการตลาดใครเข้าตาก็จะนำมาพัฒนาเป็นสินค้าจริงในอนาคต
ในรอบสุดท้ายได้มีนักศึกษาผ่านเข้ารอบทั้งหมด 5 ทีม จาก 5 ไอเดีย
1. ทีม Chemirical มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (รางวัลชนะเลิศ)
ผลงานชื่อว่า The Ultimate Refreshing Bullet เป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบทรีอินวัน สามารถใช้ทั้งหน้า ผม และตัว เป็นเม็ด Bullet สีเขียว และสีดำ วิธีการใช้ นำเม็ด bullet มาผสมน้ำ ปริมาณการใช้ก็คือ 1 เม็ดสำหรับล้างหน้า 2 เม็ดสำหรับสระผม และ 3 เม็ดสำหรับอาบน้ำ
ทางทีมได้ทำรีเสิร์ชหลายอย่างพบว่า ผู้ชายกลุ่มมิลเลนเนียลในยุคนี้ 81% ชื่นชอบการออกกำลังกาย และ 88% ชื่นชอบการท่องเที่ยว มีความถี่ในการเที่ยว 1-3 ครั้ง/ปี แสดงว่ามีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟและต้องการความสะดวกสบาย จึงคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่รวบรวมสินค้าไว้ครบทุกความต้องการตั้งแต่หัวจรดเท้า และพกพาง่าย สามารถพกพาไปเที่ยวหรือเข้าฟิตเนสออกกำลังกายได้
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดทีมนี้ได้ครอบคลุมเรื่องเว็บไซต์ รีวิว ช้อปออนไลน์ โฆษณาผ่านวิดีโอออนไลน์ รวมถึงมีเรื่องของเกม และเทคโนโลยี iBeacon เพื่อเอ็นเกจกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และเป็นการทำการตลาดโดยตรงกับผู้บริโภค
- ผลงาน : The Ultimate Refreshing Bullet
- กลุ่มสินค้า : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย
- Big Idea : คิดค้นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ 3 in 1 สามารถใช้ทั้งล้างหน้า สระผม และอาบน้ำ ลักษณะเป็นเม็ด Bullet สีเขียวและสีดำ เพื่อในการใช้งานที่สะดวกพกพาง่ายสามารถพกไปฟิตเนสหรือเที่ยวได้
2. ทีม pH 5.5 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รองชนะเลิศอันดับ 1)
ผลงานชื่อว่า Trinity Men Series เป็นสินค้าที่คิดค้นมาเพื่อใช้กับจุดซ่อนเร้นของผู้ชาย มีสินค้าทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ โฟมล้างหน้า, มอยเจอร์ไรเซอร์ และกระดาษทิชชูแบบเปียก
ที่มาของโปรเจกต์นี้ที่เลือกเซ็กเมนต์ของผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น เพราะว่าในตลาดยังไม่มีสินค้าสำหรับผู้ชายที่ดูแลจุดซ่อนเร้นอย่างจริงจัง และจากที่ทางทีมได้สำรวจตลาดก็พบว่า ผู้ชายไทยกลุ่มมิลเลนเนียลก็พบกับปัญหาเรื่องกลิ่น หรืออากาศร้อน เหงื่อออกเยอะ จนเกิดความไม่มั่นใจ อีกทั้งในตลาดก็มองภาพของตลาดนี้ในเชิงเรื่องเพศมากเกินไป ทำให้มุมมองผู้บริโภคกับตลาดนี้ไม่ค่อยดีนัก
ทางทีม pH 5.5 เลยมองว่า ถ้าทางลอรีอัลทำสินค้าเพื่อจุดซ่อนเร้นสำหรับผู้ชายอย่างจริงจัง จะตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างตรงจุดมากขึ้น ด้วยความที่แบรนด์ได้รับความเชื่อถืออยู่แล้วด้วย
- ผลงาน : Trinity Men Series
- กลุ่มสินค้า : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสำหรับผู้ชาย
- Big Idea : ผู้ชายยุคนี้มีความกังวลเรื่องความสะอาดของจุดซ่อนเร้น แต่ยังไม่มีแบรนด์ไหนทำอย่างจริงจัง จึงพัฒนาเป็นนวัตกรรมสินค้าทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสำหรับผู้ชาย รวมถึงสินค้าเพิ่มความสดชื่น มีสินค้าทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ โฟมล้างหน้า, มอยเจอร์ไรเซอร์ และกระดาษทิชชูแบบเปียก
3. ทีม Bravjofan มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (รางวัล CSR Award)
ผลงานชื่อ 3 in 1 Styling เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผม เป็นแบบ 3 in 1 รวม เซรั่ม, แว็กซ์ และแฮร์คูชั่น คอนเซ็ปต์ก็คือทำให้ผมหนาเป็นแบบ Set & Go ใช้เวลาในการแต่งผมไม่นาน เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้ชายมิลเลนเนียล สินค้าจะมีส่วนประกอบของสารที่ชื่อว่า Stemoxydine ที่มาจากลอรีอัลเป็นผู้คิดค้นขึ้นมาเอง แต่ส่วนใหญ่มีขายอยู่ในร้านทำผมแบบโปรเฟสชั่นนัล มีราคาสูงประมาณ 1,400 บาท ทางทีม Bravjofan จึงนำส่วนผสมนั้นมาพัฒนาในราคาย่อมเยามากขึ้น เพื่อจับกลุ่มมิลเลนเนียลที่ยังไม่มีกำลังซื้อมาก
จากผลสำรวจที่ทางทีมได้ไปศึกษาพบว่า ผู้ชายไทยมีการใช้แว็กซ์หรือเจลในการจัดแต่งทรงผม และแว็กซ์ที่มีอยู่ในตลาดที่มีราคาไม่แพงมากจะมีส่วนผสมของสารเคมี แต่ถ้าแว็กซ์ที่มีไม่มีสารเคมีจะราคาสูง ส่งผลให้ผู้ชายไทยในกลุ่มวัยเริ่มทำงานเริ่มมีปัญหาผมร่วง หรือผมบางลง จึงพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่ครอบคลุมทั้งหมด บำรุง จัดแต่งทรง และเพิ่มแฮร์คูชั่นที่เป็นเหมือนปกปิดรอยขาวบนหนังหัวเพื่อให้ผมดูหนา เป็นเทรนด์ใหม่ที่มาจากเกาหลี เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น
สาหุตที่เลือกสินค้าประเภทผมเพราะมองว่า สินค้าประเภทสกินแคร์ของลอรีอัลดังแล้ว แต่สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ผมยังไม่ได้ดังมาก เลยพยายามผลักดันสินค้ากลุ่มผมขึ้นมา เหมือนเป็นบลูโอเชียนที่ยังไม่มีใครทำ
ที่ทีมนี้ได้รับรางวัล CSR Award เพราะว่าได้เลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่สามารถรีไซเคิลได้ ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
- ผลงาน : 3 in 1 Styling
- กลุ่มสินค้า : ผลิตภัณฑ์ดูแลผม
- Big Idea : ผู้ชายยุคใหม่มีการเซตผม จัดแต่งทรงผมกันเยอะ แต่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาดมีสารเคมี ทำให้หลายคนมีปัญหาผมร่วง และผมบาง จึงเป็นไอเดียผลิตภัณฑ์ดูแลผมแบบ 3 in 1 รวม เซรั่ม, แว็กซ์ และแฮร์คูชั่น เพื่อสะดวกในการพกพาและใช้งาน
4. ทีม CU-Charisma จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลงานชื่อว่า Ready Set Go เป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมครีมอาบน้ำผสมกับครีมกันแดดไว้ด้วยกัน มาจากอินไซต์ที่ว่าผู้ชายชอบทำอะไรเร็วๆ จบในขั้นตอนเดียว ครีมกันแดดเหมือนเป็นสินค้าที่เป็นขั้นตอนพิเศษในชีวิตประจำวัน เลยเอามารวมกับครีมอาบน้ำ เขาก็ได้อาบน้ำพร้อมกับมีกันแดดในตัว ไม่ต้องทาอะไรเพิ่ม
สาเหตุที่เลือกสินค้าของครีมอาบน้ำ และครีมกันแดด เพราะว่าไปเจองานวิจัยน่าสนใจ คนต่างประเทศเขาพบว่าแสงแดดมีอันตรายมาก สามารถทำให้ผิวไหม้ได้ เป็นมะเร็งผิวหนังได้ แต่คนไทยคิดแค่ว่าอยากจะขาวขึ้น ไม่อยากโดนแดด เลยคิดในมุมที่ว่าถ้าลอรีอัลทำสินค้าตัวนี้ เหมือนเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ให้ความสำคัญเรื่องกันแดดก็จะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ขึ้นมา และสินค้านี้สามารถเจาะตลาดคนเอเชียได้ ดูมีโอกาสมากกว่าตลาดอื่นๆ สินค้าแบบนี้ในตลาดยังไม่มี ส่วนใหญ่อาจจะเจอสบู่ที่มีสารกันแดดบ้าง แต่เฉพาะกลุ่มมาก ไม่มีใครรู้จักเท่าไหร่
- ผลงาน : Ready Set Go
- กลุ่มสินค้า : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย และครีมกันแดด
- Big Idea : ผู้ชายไทยยังให้ความสำคัญกับการดูแลผิวจากแสงแดดน้อย เพราะไม่ชอบทำอะไรที่มีขั้นตอนเยอะ ไอเดียจึงออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมครีมอาบน้ำผสมกับครีมกันแดดไว้ด้วยกัน สามารถทำได้จบในขั้นตอนเดียว
5. ทีม Racing Pigs มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานชื่อว่า The Accelerator เป็นคอนเซ็ปต์ที่ว่าช่วยให้หนุ่มๆ มิลเลนเนียลไปถึงความฝันของตนเองได้ เป็นเซตที่รวม 4 สินค้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ โฟมล้างหน้า, ที่โกนหนวดแบบไม่ต้องล้างออก, หวีเซตผม และมอยเจอร์ไรเซอร์แบบฉีด
ทางทีมได้ทำผลสำรวจแล้วถามผู้ชายมาว่าความดูดีคืออะไร ผู้ชายตอบว่าต้องดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า จึงทำสินค้าแบบเซต 4 อย่าง ให้ครบทุกขั้นตอนการแต่งตัวของเขา และกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย หรือวัยเริ่มทำงาน เริ่มมีเป้าหมายของตัวเอง คอนเซ็ปต์เลยเป็น Accelerator ช่วยให้เขาไปถึงเป้าหมายให้เร็วมากขึ้น
- ผลงาน : The Accelerator
- กลุ่มสินค้า : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย
- Big Idea : ต้องการคิดผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความดูดีของผู้ชายตั้งแต่หัวจรดเท้า จึงคิดค้นผลิตภัณฑ์เป็นเซตที่รวม 4 สินค้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ โฟมล้างหน้า, ที่โกนหนวดแบบไม่ต้องล้างออก, หวีเซตผม และมอยเจอร์ไรเซอร์แบบฉีด