กว่าจะมาเป็นยาดมหนึ่งแท่งต้องผ่านขั้นตอนมากมายขนาดนี้เชียวหรือ?

คุณรู้มั้ย ถ้าเราดมยาดมที่ไม่มีคุณภาพ ก็เหมือนกับเราดมมลพิษ ดมเชื้อรา ดมสารเคมี พอดมกันนานๆ ดมกันจนชิน แล้วผลกรรมจากการเอาจมูกเราไปดมสิ่งเหล่านั้น จะไปตกที่ตรงไหน?

วันนี้ Positioning มาบุกโรงงานเป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ พาดูกระบวนการผลิตที่เจาะลึกและได้มาตรฐาน เมื่อรู้แล้วต้องอึ้ง เพราะกว่าจะได้ยาดมคุณภาพสักแท่งต้องนำไปผ่านกระบวนการมากมายและได้มาตรฐานจริงๆ ซึ่งการใส่ส่วนผสมที่ไม่ได้มาตรฐาน มากเกินกว่าที่รูจมูกอันเซนสิทีฟของเราจะรับได้ ส่งผลเสียหลายอย่างต่อร่างกายของเราอย่างไม่ทันจะนึกถึง โดยเฉพาะปริมาณของการบูรที่กฎหมาย FDA ของสหรัฐอเมริกา แนะนำเอาไว้ว่าไม่ควรใส่เกิน 11 เปอร์เซ็นต์แต่ด้วยคุณสมบัติในการเพิ่มกลิ่นดึงกลิ่นของเมนทอลและส่วนประกอบอื่นให้โดดเด้งขึ้นมาช่วยลดต้นทุนได้มากเพราะราคาของการบูรนั้นค่อนข้างถูก เราจึงเห็นการใส่การบูรเกินมาตรฐานอยู่บ่อยๆ

เมื่อเราดมยาดมที่อัดแน่นไปด้วยการบูรเราก็จะรู้สึกในแว่บแรกว่า โอ้โห!! ยาดมยี่ห้อนี้มันสุดยอดมากเลยเพื่อน ดมปื้ดแรกก็สดชื่นเร็วทันใจ แต่ในความจริงแล้วมันเป็นแค่ความสดชื่นแบบหลอกๆ ไม่ได้เกิดจากความสุขสดชื่นอันเที่ยงแท้จากภายใน ผลเสียของการสูดดมยาดมที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นเวลานานๆ นี้ จะทำให้หัวใจบีบตัวและเต้นเร็วมากขึ้น ส่งผลให้หายใจถี่ขึ้น เยื่อบุจมูกถูกทำลาย เป็นหวัดและภูมิแพ้ได้ง่าย

หลังจากได้เห็นผลของการดมดีได้ดี ดมชั่วได้ชั่วแล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะพาไปชมโรงงานการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลกของบริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิต “ยาดมเซียงเพียว” และ “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์” ว่ายิ่งใหญ่และถูกต้องตามมาตรฐานมากแค่ไหน

ในส่วนของ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ นั้น เป็นยาดมที่ให้กลิ่นหอมอะโรมาติก จากส่วนประกอบของเมนทอล และ Peppermint Oil เป็นหลัก กลิ่นที่ได้จะหอมละมุน ดมแล้วสดชื่น สมองโปร่ง เพราะเป๊ปเปอร์มิ้นท์จะช่วยลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่ปอด ช่วยให้ระบบหายใจดีขึ้น

ส่วน ยาดมเซียงเพียว ใช้เมนทอลและน้ำมันยูคาลิปตัส ทำให้กลิ่นหอมแรง โล่งถึงใจ ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันยูคาลิปตัสที่โดดเด่นในเรื่องการบรรเทาหวัดคัดจมูก

มาตรฐานและความปลอดภัยที่โรงงานแห่งนี้ได้รับก็คือ ‘ระดับ GMP PIC/S’ ซึ่งถือว่าถูกต้องตามมาตรฐานการผลิตยาระดับสูง โดยภายในโรงงานจะแบ่งพื้นที่ทำงานออกเป็น 2 โซน ได้แก่ Clean Room และ Packing Area ซึ่งพนักงานที่จะเข้าไปทำงานในแต่ละโซนต้องแต่งตัวตามขั้นตอนอย่างถูกต้องเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดเชื้อเมื่อต้องสัมผัสกับตัวยาต่างๆ งั้นมาเริ่มกันที่โซนแรกดีกว่า

1 Clean Room เป็นห้องที่ใช้ระบบอากาศปลอดเชื้อ Class 100,000 มีเครื่องวัดอนุภาคฝุ่นผงเพื่อควบคุมฝุ่นในบริเวณนั้นให้ไม่เกิน 1 แสนหน่วยต่อตารางฟุตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอากาศในบริเวณนี้จะมีการสัมผัสกับยาจึงต้องมีการควบคุมมาตรฐานความสะอาด โดยเป็นมาตรฐานสำหรับยากินและยาใช้ภายนอก ห้องนี้จึงใช้สำหรับชั่งน้ำหนักวัตถุดิบ ผสม แปรสภาพวัตถุดิบและบรรจุยา

2. Packing Area โซนนี้เป็นบริเวณที่ใช้ในการบรรจุหีบห่อ ยิงฉลาก ทำแพ็กเกจของสินค้าต่างๆซึ่งจะมีเครื่องจักรทันสมัยมากมายที่ทำงานอยู่ในส่วนนี้ โดยมีวิศวกรที่มีความชำนาญคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ตลอด

ด้านการตรวจสอบคุณภาพ ก็มีห้อง LAB ที่ได้มาตรฐานและคุณภาพระดับโลก เริ่มที่ห้องแรก ห้องชั่งและวิเคราะห์วัตถุดิบ ที่เราเห็นโดยทั่วไปอย่างเช่น เมนทอล แค่สูดดมกลิ่นและมองด้วยตาเราจะไม่สามารถแยกความแตกต่างของคุณภาพได้ต้องมีการแยกด้วยเครื่องบิดระนาบของแสงโดยเปลี่ยนเมนทอลเป็นสารละลายแล้วทำการวัดผลออกมา ว่าเมนทอลต้องมีฤทธิ์ในการรักษา ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น ขยายหลอดเลือดฝอยในโพรงจมูกลดการคัดจมูก และบรรเทาอาการแมลงสัตว์กัดต่อย

เอกลักษณ์ของทางโรงงานก็คือกลิ่น ‘เป๊ปเปอร์มิ้นท์’ ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถวัดด้วยเครื่อง Refractometer แสดงค่าของกลิ่นเป็น Range จะทำให้ช่วยควบคุมมาตรฐานในเรื่องของกลิ่นให้มีความสม่ำเสมอได้เป็นอย่างดีในทุกๆล็อตการผลิต

หลังจากผ่านห้องแรกก็ต่อด้วย ห้องวิเคราะห์เคมี มีการสุ่มสินค้ามาตรวจเพื่อสกัดดูเปอร์เซ็นต์ของยา ตรวจสอบการปนเปื้อน และแยกสารด้วยแก๊สผ่านเครื่อง Gas Chromatography โดยต้องเทียบกับค่ามาตรฐานขององค์การอาหารและยา (อย.) ต้องผ่านที่ 90-100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าได้ค่าต่ำกว่ามาตรฐานก็ต้องกลับไป Re-Check กระบวนการผลิตตั้งแต่ขั้นตอนแรกรวมไปถึงวัตถุดิบทุกตัวอีกครั้งเพื่อหาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับยา โรงงานเป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ก็ได้มีการตั้งมาตรฐานของโรงงานเอาไว้เองด้วยซึ่งตั้งเอาไว้สูงถึง 98-100 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ยาออกมามีคุณภาพมากที่สุด

ห้องวิเคราะห์ทางจุลชีววิยา จะทำการตรวจสอบการปนเปื้อนของเชื้อทั้งในภาชนะบรรจุ น้ำที่ใช้ในการผลิตและสภาพแวดล้อมในการผลิตว่าได้มาตรฐาน Class 100,000 หรือไม่ รวมถึงต้องมีการวัดปริมาณอนุภาคและปริมาณเชื้อให้ไม่เกินที่สากลกำหนดเอาไว้ด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ผมนี่ถึงกับลุกขึ้นยืนปรบมือให้แก่ทุกคนที่มีส่วนร่วมในโรงงานนี้โดยไม่รู้ตัว เพราะกว่าจะมาเป็นยาดม ยาหม่องน้ำ ที่เราสูดดมแต่ละอันนั้น ต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนอันเข้มงวดมากมาย เพื่อให้คงมาตรฐานทั้งความสะอาดและปลอดภัยสำหรับการส่งออกไปขายทั่วโลก แน่นอนว่า ก่อนจะดมยาดมครั้งหน้า ผมก็จะไม่ลืมคว้าฉลากมาอ่านก่อนเป็นอันดับแรก ว่ายาดมที่กำลังจะควักเงินซื้อนั้น มีส่วนผสมของการบูร (Camphor) เกินกว่า 11 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ เพื่อให้รูจมูกของผมรักษาประสิทธิภาพในการสูดดมอยู่เคียงคู่สังคมไทยไปอีกนาน