หลังจากปล่อยหนังโฆษณาทีวี K-SME เครดิต “ฟรีดอก ปลอดต้น” เรียกเสียงหัวเราะจากคนดู ด้วยเนื้อหาเข้าถึงชาวบ้านแบบง่ายๆ โดยมีต๋อยเบเกอรี่ เป็นตัวเอกของเรื่องนำร่องไปไม่กี่วัน เคแบงก์จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญสินเชื่อเอสเอ็มอีอย่างเป็นทางการ
สถานที่จัดงานแถลงข่าวจัดขึ้นง่ายๆ บนชั้นสอง สำนักงานพหลโยธิน แต่ด้วยรูปแบบของแคมเปญเชิงรุกสามารถเรียกความสนใจจากผู้สื่อข่าวได้ไม่น้อยทีเดียว ยิ่งในช่วงที่ปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการปรากฏตัวบนเวที ด้วยการนั่งเก้าอี้ติดแผงไฟระยับ หมุนตัวออกมาดูราวกับเวทีลูกทุ่ง ก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าเคแบงก์เอาจริงกับตลาดเอสเอ็มอีมากเพียงใด
การออกแคมเปญนี้ของเคแบงก์ครั้งนี้ กลุ่มเป้าหมาย คือ เจ้าของกิจการขนาดเล็กและขนาดย่อมที่มียอดขายไม่เกิน 50 ล้านบาท หากขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 31 ธันวาคม 2551 จะได้รับสิทธิปลอดภาระการผ่อนชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือนแรก
แคมเปญนี้จะทำให้ธนาคารมียอดสินเชื่อผู้ประกอบขนาดเล็กและขนาดย่อมประมาณ 116,000 ล้านบาท และคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 20% และทำให้เคแบงก์มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 27%
ปกรณ์ บอกว่า ตัวเลขผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีอยู่ประมาณ 2.1 ล้านราย ในจำนวนนี้มีความสามารถในการกู้ 8 แสนราย ซึ่งมีทั้งที่ยังไม่เคยกู้เงินแบงก์มาก่อน หรือกู้นอกระบบ และบางส่วนใช้บริการสินเชื่อของแบงก์อื่นอยู่ ล้วนแต่เป็นลูกค้าเป้าหมายของเคแบงก์ทั้งสิ้น
นอกจากจูงใจด้วยกู้ปลอดดอกและต้นแล้ว เคแบงก์ยังได้เพิ่มรูปแบบการให้สินเชื่อ โดยใช้เวลาพิจารณาสินเชื่อภายใน 3 วัน และรับเงินภายใน 7 วัน และมีระยะเวลาการผ่อนชำระนานถึง 10 ปี ให้วงเงินสินเชื่อถึง 150% ของมูลค่าหลักประกัน จะเป็นแรงจูงใจให้มีลูกค้ามาใช้สินเชื่อ ซึ่งเคแบงก์คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 8,700 ล้านบาท
ที่มั่นใจถึงเพียงนี้ เพราะเคแบงก์ทำการบ้าน ศึกษาลูกค้าเหล่านี้มาเป็นอย่างดี เชื่อว่า แคมเปญ เร็ว ยาว เยอะ จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี่ได้ดีที่สุด
“การทำธุรกิจของลูกค้าเอสเอ็มอีเขาไม่ได้วางแผนธุรกิจมากมาย พอได้ออเดอร์จากลูกค้ามาเขาก็อยากรู้ว่าจะกู้ได้หรือเปล่า ซึ่งที่ผ่านมาสินเชื่อของแบงก์ใช้เวลาเป็นเดือน แต่ของเราสั้นมากแค่ 3 วันก็รู้แล้ว และรับเงินภายใน 7 วัน ส่วนวงเงินสินเชื่อ แบงก์ส่วนใหญ่มักจะได้แค่ 50% ของวงเงินที่ขอกู้ แต่เคแบงก์จึงอนุมัติสินเชื่อให้ถึง 150%” ปกรณ์บอก
ลูกค้าเอสเอ็มอียังคงเป็นตลาดอันหอมหวนสำหรับเคแบงก์ ที่หลังจากเดินเกมรุกกวาดลูกค้ามาได้จนมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อย แต่การแข่งขันจากแบงก์ด้วยกัน และไฟแนนซ์ที่เริ่มขยับมาบุกลูกค้าเอสเอ็มอี เคแบงก์บอกว่า ปีหน้าจะเป็นช่วงของต้องรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ให้อยู่หมัด ส่วนกลยุทธ์จะมัดใจแค่ไหน ต้องติดตาม