รีแบรนด์ให้ชัดต้องยกเครื่องร้าน

แม้การรีแบรนด์ครั้งใหญ่ของเดอะ บอดี้ ช็อป ที่เกิดขึ้นทั่วโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี แต่กลับไม่ได้แตะต้องหรือเปลี่ยนแปลงโลโก้เดิมแต่อย่างใด โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ Brand Philosophy หรือปรัชญาแบรนด์ เพื่อตอกย้ำความเป็นเครื่องสำอางจากส่วนผสมธรรมชาติ เป็น Nature’s way to beautiful ซึ่งถ่ายทอดผ่านการตกแต่งร้านใหม่ เพื่อให้ร้านเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดลุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เดอะ บอดี้ ช็อป รีแบรนด์ เพราะการแข่งขันในผลิตภัณฑ์ความงามที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ล้วนพูดใน Messege เหมือนๆ กัน ล็อคซิทาน เจอร์ลีค หรือแม้แต่โอเรียนทอล ปริ้นเซส แบรนด์ไทยแท้ๆ ก็แทบไม่หนีห่างกันมากนัก

จตุพร เหล่าทรงจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอิร์ธแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงการรีแบรนด์ที่เน้นการสื่อสารผ่านตัวร้านว่า “จะบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังผลิตภัณฑ์มากขึ้น ผ่านทาง In-store Displays ซึ่งรูปภาพที่นำมาใช้ตกแต่งในร้านจะเป็นแบบ Visual Lifestyle ของนางแบบและส่วนผสมผลิตภัณฑ์ จากเดิมที่พรีเซนต์ผ่าน Product Shot

นอกจากนี้ยังเซต Lighting ใหม่ รวมถึงเปลี่ยนโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ภายในร้านจากเดิมที่ดูอึมครึมให้เป็นเอิร์ธโทนที่สว่างมากขึ้น” ขณะที่ Store Font ต้องดูเป็นธรรมชาติ พลิ้วไหว ไม่ดูแข็งกร้าน และดูเป็นมิตรมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ผ่านก๊อบปี้ที่สะท้อนถึง CSR ของเดอะ บอดี้ ช็อป ที่บอกเล่าอย่างจงใจผ่านทาง Visual Lifestyle

เมื่อเดอะ บอดี้ ช็อปจะดำรงตนเป็น “แบรนด์นักบุญ” การทำดีแบบปิดทองหลังพระ ไม่เป็นผลดีเอาเสียเลย เพราะอาจทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับข้อเท็จจริงจากแบรนด์อย่างเพียงพอ และอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกว่าแบรนด์ทำดีแบบครึ่งๆ กลางๆ อันจะส่งผลทำให้เกิดภาพลบต่อแบรนด์ไปเสียอีก

ดังนั้น สรรพสิ่งที่เดอะ บอดี้ ช็อปทำมา ทั้งการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและการไม่ทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ และอื่นๆ อันเป็น CSR อย่างต่อเนื่อง จะถูกเปิดเผยอย่างกระจ่างแจ้งต่อลูกค้าผ่านทางดิสเพลย์ต่างๆ

ขณะเดียวกัน เพื่อสื่อสารถึงการรีแบรนด์ให้มากขึ้น จึงเสริมด้วยกิจกรรมโรดโชว์ เวิร์คช็อป และนิตยสารแฟชั่นผู้หญิง โดยใช้งบในปีนี้ 10 ล้านบาท

ไม่เพียงเท่านี้ ยังเพิ่มหมวดสินค้าใหม่ คือ Well-being และ Natures Mineral ช่วยตอกย้ำ Positioning ของเดอะ บอดี้ ช็อป ให้เด่นชัดและแตกต่างมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันมีสมาชิกที่แอคทีฟทั้งสิ้น 60,000 ราย มีลูกค้าหลัก คือ ผู้หญิงวัย 18-35 ปี และเพื่อรักษาฐานที่มีจึงต้องเร่งทำ CRM อย่างจริงจัง “เน้น Benefit Differentiation ให้กับแต่ละกลุ่มลูกค้าซึ่งมีพฤติกรรมในการซื้อและความถี่ในการช้อปแตกต่างกัน”

นอกจากนี้ เดอะ บอดี้ ช็อป ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อออกผลิตภัณฑ์ Food Supplement หรืออาหารเสริมซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากกระแสรักสุขภาพที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจัด Category by age ก็ชัดเจนมากขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ Anti-aging เพื่อเติมเต็มความต้องการของทุกช่วงวัย

Did you know?

Mineral เป็นเทรนด์ร้อนสำหรับผลิตภัณฑ์ Make up ทั่วโลก เพราะปราศจากน้ำหอม และเป็นการเปิดตลาด Make up ให้กว้างขึ้น และรีครูทสาวๆ หน้าใหม่ที่ไม่แต่งหน้าเพราะกลัวเกิดอาการแพ้และเป็นสิว

สัดส่วนยอดขาย เดอะ บอดี้ ช็อป (by category)
Skin care 32%
Make up 28%
Body care, Fragrance & Hair 40%