งานพาร์ทไทม์ในฝันที่หนุ่มสาวมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นอยากทำที่สุดประจำปี 2017

เมื่อย่างเข้าเดือนพฤษภาคม ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่หลายๆ คนเริ่มชินกับวิถีชีวิตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตนักศึกษาใหม่ พนักงานบริษัทใหม่ สำหรับเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นก็น่าจะเป็นช่วงที่หลายคนเริ่มมองหางานพิเศษ หรืองานพาร์ทไทม์กันแล้ว ซึ่งสำหรับนักศึกษาแล้ว การทำงานพิเศษในระหว่างเรียน เปรียบเสมือนเป็นการเก็บประสบการณ์และ connection เพื่อก้าวสู่การทำงานอย่างเต็มตัวในอนาคต เราไปดูกันดีกว่าว่างานพิเศษอะไรที่นักศึกษาชาวญี่ปุ่นอยากทำกันมากที่สุด

งานพิเศษ・งานพาร์ทไทม์ที่นักศึกษาญี่ปุ่นอยากทำมากที่สุด

อันดับ 1 Starbucks Coffee
อันดับ 2 Tokyo Disney Resort
อันดับ 3 Universal Studios Japan
อันดับ 4 McDonald’s
อันดับ 5 Lawson
อันดับ 6 Seven Eleven
อันดับ 7 MUJI
อันดับ 8 Family Mart
อันดับ 9 Aeon
อันดับ 10 Uniqlo

สำหรับแบรนด์ที่มีนักศึกษาอยากไปทำงานด้วยมากที่สุดก็คือ Starbucks Coffee ส่วนอันดับ 2・3 เป็นสวนสนุกชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นอย่าง Tokyo Disney Resort และ Universal Studios Japan โดยมี 3 อันดับจากทั้งหมด 10 อันดับเป็นแบรนด์ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ นอกจากนั้นก็มี McDonald’s และ Aeon เข้ามาติดอันดับด้วย

เหล่านักศึกษาให้ความสำคัญกับ「พวกพ้อง」และ「การเติบโต」

เมื่อลองถามเกี่ยวกับเงื่อนไขที่เหล่านักศึกษาให้ความสำคัญเวลาเลือกงานพิเศษทำก็พบว่ามีคีย์เวิร์ด 3 อย่าง คือ “เวลา” “ค่าแรง” “สถานที่” ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เหล่านักศึกษาให้ความสำคัญกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ในอดีต แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีคีย์เวิร์ดอย่าง “เนื้อหาของงาน” “สภาพแวดล้อม” “เพื่อนร่วมงาน” ที่เหล่านักศึกษาให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน สำหรับอันดับ 1 และ 2 อย่าง Starbucks และ Tokyo Disney Resort ทั้งสองมีภาพลักษณ์ว่าเป็นสถานที่ทำงานที่ให้เงินดี นอกจากนี้เหล่านักศึกษาก็ยังให้ความสำคัญกับเนื้อหาการทำงานและเพื่อนร่วมงานอีกด้วย

ในปัจจุบันเหล่านักศึกษาก็มองว่าการทำงานพิเศษหรืองานพาร์ทไทม์สัมพันธ์กับการเติบโตขึ้นในอนาคต แถมยังเป็นสถานที่ที่ช่วยเป็นสื่อกลางในการพบปะกับเพื่อนร่วมงานที่จะเข้ามาร่วมกันทำงานให้สำเร็จลุล่วง และนั่นเป็นเหมือนผลพลอยได้จากการทำงานที่ไม่ได้มีแค่ตัวเงินเท่านั้น เห็นแบบนี้แล้วขอยกนิ้วให้กับเหล่านักศึกษาญี่ปุ่นเลย ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานกันแบบนี้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org

ที่มา : http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000052172