iPod Touch เปลี่ยนจากฟังเพลงมาเล่นเกม

Apple เพิ่งจะเปิดตัว iPod ใหม่พร้อมกันถึง 4 รุ่นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือ iPod Shuffle , iPod Nano, iPod Classic และ iPod Touch โดยไม่เพียงแต่จะเพิ่มเฉดสีมากขึ้น ใส่ภาษาไทยเข้าไปใน iPod ทุกรุ่น แต่ยังกลับมาพร้อมฟังก์ชั่นบางอย่างที่ Apple ถึงกับประกาศว่า “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับวงการ iPod”

โดยเฉพาะ Positioning ใหม่ของ iPod Touch ที่ Apple พยายามให้เป็น “The funnest iPod ever” โดยพยายามจะวางให้เป็นมากกว่าเครื่องเล่นเพลง แต่หวังให้ภาพลักษณ์นับจากนี้เป็นเครื่องเล่นเพื่อความบันเทิง หรือ Entertainment Device

นอกจากรูปลักษณ์และฟังก์ชันจำพวกความสามารถในการพลิกหน้าจอไปมาแล้ว จอภาพเปลี่ยนไปตามการพลิกทำให้เล่นเกมได้สะดวก ด้านข้างเพิ่มปุ่มเพิ่มและลดเสียง มีลำโพงในตัว เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ มีบราวเซอร์ Safari ติดตั้งมาด้วยพร้อมกับ Google Map และตัวรับสัญญาณ iPod Nike

Apple ยังเปิดตัว “App Store” เว็บพอร์ทัลสำหรับดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นในการใช้งานบน iPod Touch โดยเฉพาะ และสามารถทำสถิติยอดดาวน์โหลดกว่า 100 ล้านดาวน์โหลดหลังจากเปิดตัวเพียง 60 วัน โดยมีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดกว่า 3,000 แอพพลิเคชั่น โดยเกือบ 1 ใน 3 ของแอพพลิเคชั่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดกลับเป็นเกมที่ใช้เล่นแทบทั้งสิ้น

หากใครมีโอกาสได้เห็นโฆษณาชิ้นใหม่ของ iPod Touch ซึ่งนำเสนอในรูปแบบของการเล่นเกมโดย iPod โดยเปลี่ยนรูปแบบของเกมไปเรื่อยๆ และใช้งานร่วมกับฟังก์ชันการพลิกจอหรือขยับจอไปมาที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ คงเข้าใจถึงความต้องการของ Apple ได้ดียิ่งขึ้นว่า Apple คงอยากจะให้คนเข้าใจว่า iPod Touch จะไม่ได้เป็นเครื่องเล่นเพลงรุ่นไฮเอนด์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

iPod Touch
เวอร์ชั่นใหม่ออกแบบให้ขอบเรียบสม่ำเสมอระหว่างพื้นโลหะ ด้านข้างเพิ่มปุ่มเพิ่มและลดเสียง มีลำโพงในตัว หมุนจอพลิกไปมาได้ และภาพพลิกตาม เล่นเกมได้ โดยดาวน์โหลดผ่านพอร์ทัลไซต์ของ Apple โดยเกมแต่ละเกมสามารถใช้งานร่วมกับระบบของการพลิกจอได้ด้วย เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ มีบราวเซอร์ Safari ติดตั้งมาด้วยพร้อมกับ Google Map และตัวรับสัญญาณ iPod

iPod shuffle
Apple เพิ่มสีฟ้า เขียวและชมพูให้เลือกมากขึ้น และวาง Positioning ให้ iPod Shuffle เป็น “The world’s most wearable digital music” เพราะ iPod รุ่นนี้ยาวแค่1.6 นิ้ว น้ำหนักเบาและยังมาพร้อมกับบิวท์คลิปอีกด้วย

iPod Nano
รุ่นใหม่มาพร้อมกับการดีไซน์ใหม่ ทั้งตัวทำด้วย Aluminum บางเพียง 0.62 มิลลิเมตร มีส่วนโค้งเว้า ไม่เว้นแม้กระจก หน้าจอใหญ่ 2 นิ้ว แถมยังเป็นแนวตั้ง ต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่เป็นแนวนอนและสว่างขึ้น แสดงภาพได้สวยงามยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่เรียกว่า “Accelerometer” เมื่อพลิกจอ ภาพก็จะแสดงให้เห็นอีกแนวหนึ่งทันที รวมถึงเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนเพลงต่อไปด้วยการ “เขย่า”

iPod Classic
ในปี 2544 iPod Classic เคยเก็บเพลงได้ 1,000 เพลง ตอนนี้ Apple เพิ่มความจุของ iPod ชนิดนี้เป็น 120 กิกะไบต์ จากเดิมสูงสุดมี 80 กิกะไบต์ และมีสีให้เลือกสองสีคือ silver และ ดำ เก็บเพลงได้ราวๆ 30,000 เพลง

iPod เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2544 จนถึงวันนี้กินเวลาไป 8 ปีเต็ม แต่ Apple กลับถูกโจมตีจากลูกค้าในไทยมาตลอดระยะเวลาว่าไม่เคยหันมาเหลียวแลเลย โดยเฉพาะกับการตัดสินใจใส่ภาษาไทยเข้าไปใน iPod ทุกรุ่นที่วางขาย แต่ดูเหมือน Apple จะเพิ่งรู้ตัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ยอดขายในไทยดีขึ้นหรือเสียงบ่นดังไปถึงหูเบื้องบนมากเกินไป สุดท้าย iPod ทุกรุ่นที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็รองรับภาษาไทยในตัวเป็นครั้งแรกโดยไม่ต้องไปนั่งเสียเวลาหาซอฟต์แวร์ข้างนอกมาอัพเดตเอง

ว่าด้วยสถิติของ iPod
– นับตั้งแต่ iPod เปิดตัว มียอดขายไปแล้วกว่า 160 ล้านเครื่องทั่วโลก
– มี Accessories ที่หลายๆ ค่ายผลิตออกมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับ iPod ทุกรุ่นกว่า 5,000 ชนิด และเรียกเหมารวมว่า “iPod eco-systems”
– ใน iTune Store มีเพลงที่เปิดให้ดาวน์โหลดมากถึง 8.5 ล้านเพลง เปิดบริการให้ดาวน์โหลดเพลงแบบเก็บเงินแล้วกว่า 22 ประเทศ