โน้ตบุ๊กยุคใหม่…ต้อง Mix & Match

ตั้งแต่อินเทลแนะนำเน็ตบุ๊กสู่ตลาด ก็ทำให้ยอดขายเน็ตบุ๊กกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าจับตาของตลาดเครื่องพกพาที่ทำเอาทั้งตลาดโน้ตบุ๊กและมือถือสมาร์ทโฟน ต้องเจอคู่แข่งไปพร้อมๆ กัน ความแรงของเน็ตบุ๊กไม่ได้หยุดแค่รูปลักษณ์และการใช้งานที่ตอบสนองสนองไลฟ์สไตล์ On the Go ได้อย่างถึงใจ แต่จะพกไปไหนก็ต้องช่วยส่งเสริมหน้าตาผู้ใช้ หรืออย่างน้อยก็ปรับตัวให้เข้ากั๊น…เข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์ ซึ่งกลายเป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้และคาดว่าจะเป็นปัจจัยเร่งยอดขายสินค้ากลุ่ม Portable PC ทั้งโน้ตบุ๊ก และเน็ตบุ๊กให้แรงขึ้นอีกในปีนี้

โดยเฉพาะเมื่อทั้งโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กยุคนี้ ถูกกำหนดโพสิชันนิ่งให้เป็นคอมพิวเตอร์พกพาเครื่องที่ 2 กันแล้ว สำหรับคนมีกำลังซื้อก็คงต้องการเลือกรูปแบบที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองที่สุดมากกว่าเหตุผลเรื่องความจำเป็น ซึ่งคงถูกตัดทิ้งตั้งแต่ซื้อเครื่องแรกไปแล้ว

HPMini 1000 NetBook ต้องครบเครื่อง

เจ้าตัวนี้ถือว่ามีความมั่นใจมาแต่แรก เพราะไม่ว่าจะเป็นเน็ตบุ๊กที่ประกาศตัวว่าชั้นคือโน้ตบุ๊กขนาดมินิที่ครบเครื่องกว่าใคร แต่สุดท้ายแล้วก็ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของตัวเครื่องเป็นที่สุด ในรุ่นใหม่ที่เปิดตัวแม้จะมีการลดขนาดคีย์บอร์ดจาก 100% มาเหลือที 92% ก็ไม่ได้กระทบความรู้สึกของผู้ใช้ในแง่ของประสิทธิภาพการใช้งาน

จอภาพขนาด 10.2 ที่ใหญ่กว่าเน็ตบุ๊กส่วนใหญ่แสดงภาพในอัตราส่วน 16:9 ให้ภาพคมพร้อมระบบเสียงที่ดีไซน์มาเพื่อความบันเทิง เพราะมีการอัพเกรดระบบออดิโอและวิดีโอที่โหลดไว้ดูได้ รุ่นนี้ยังคงใช้ชิปอะตอมขออินเทล และมีให้เลือกความจุทั้งแบบ 8GB 16GB และ 60 GB ตามต้องการ

ถึงแม้เน็ตบุ๊กจะเป็นตลาดใหม่ที่เพิ่งเกิดไม่นาน แต่ความต้องการของผู้บริโภคที่มีประสบการณ์จากคอมพิวเตอร์พกพามานาน ล้วนมีความต้องการการใช้งานเครื่องที่ให้ได้ทั้งแอพพลิเคชั่นที่ครบครัน และรูปลักษณ์ที่พัฒนาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล จนเป็นที่เชื่อกันว่าการพัฒนาแฟชั่นของเน็ตบุ๊กจะได้รับการขยายและลงลึกถึงความต้องการของผู้ใช้แต่ละกลุ่มอย่างรวดเร็ว

แม้เน็ตบุ๊กรุ่นนี้ของเอชพีจะไม่ได้มีแฟชั่นจี๊ดจ๊าด แต่การเปิดตัวในต่างประเทศหลายงานก็เลือกใช้ธีมของสินค้าแฟชั่นไอทีในการเปิดตัว เพื่อดึงกลุ่มผู้ใช้ไอทีที่ใส่ใจในเรื่องแฟชั่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวในประเทศจีน หรือในงานซีอีเอส 2009

เรียกว่าหวือหวาที่งาน ขณะที่ชิ้นงานของดีไซน์เรียบๆ เจาะกลุ่มใหญ่ๆ ไว้ก่อน การดีไซน์ตัวเครื่องเอชพีจึงใช้วิธีพิมพ์ลายลงในโมล์ด เฉดสีดำเงาบนพื้นผิว ซึ่งเท่านี้ก็ทำให้เอชพี มินิ 1000 โดดเด่นออกมาจากสินค้าแฟชั่นนับพันและยังดึงดูดสายตาได้ด้วย

ASUS Bamboo โลกสีเขียวกำลังอิน

โน้ตบุ๊กลายไม้ไผ่อาซุส ซึ่งดูจะเป็นวัสดุที่หลายคนมองข้ามสำหรับการนำมาเป็นชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไอที แต่การนำโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ออกแสดงพร้อมกับประกาศแผนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็ทำให้โน้ตบุ๊กที่ส่วนผสมของชิ้นส่วนจากไม้ไผ่ทั้งตรงคีย์บอร์ดและเคสมีเรื่องเล่าที่ดึงดูดความสนใจมากขึ้นในทันที

โน้ตบุ๊กไม้ไผ่ที่นำออกมาโชว์ ยังเป็นเครื่องต้นแบบ แต่ก็คาดว่าจะเริ่มขายได้จริงในยุโรปแบะอเมริกาในอีกไม่นานนี้ รุ่นนี้อาซุสให้ชื่อว่า U6V Series คาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นบาท ใช้จอขนาด 12.1 นิ้ว ใช้ Intel Core 2 T9400 processor 2.53GHz ความจุ 6MB ฮาร์ดไดร์ฟ 320GB บลูทูธ ไวเลส ครบครัน

Dell Studio โน้ตบุ๊กสั่งตัด

หลังจากขยับขยายตลาดคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊กมากขึ้นในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ทำให้เดลล์ต้องเพิ่มสีสันให้กับตัวเองเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการออกโน้ตบุ๊กสีสดกระชากใจวัยรุ่น พร้อมกับการการนำเสนอที่ฉีกไปจากการใช้โน้ตบุ๊กเพื่อการทำงานในแนวถนัด
เดลล์ สตูดิโอ เป็นซีรี่ส์โน้ตบุ๊กที่เดลล์ใช้ทำตลาดที่เน้นดีไซน์ ขนาดกะทัดรัด เน้นสีสันสะดุดตาให้เลือกหลากสี มีให้เลือกทั้งแบบ 15 นิ้ว และ 17 นิ้ว แถมด้วยรุ่นขนาด 9 นิ้ว ตามเทรนด์เน็ตบุ๊ก

ซีรี่ส์สตูดิโอแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพในตัว ชุดควบคุมการใช้งานมัลติมีเดีย ไดร์ฟและช่องเสียงอุปกรณ์ต่อเชื่อมครบถ้วน หน้าจอ LED แบบปลอดสารปรอท พิเศษตรงที่เมื่อเดลล์ใช้เครื่องรุ่นนี้เจาะเข้าหากลุ่มคอนซูเมอร์ จึงมีลูกเล่นมากมายที่คิดว่าจะตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้เต็มที่

เริ่มจากสีสันของตัวเครื่องจากรุ่นแรกที่มีให้เลือก 5 สี พร้อมคุณสมบัติพื้นฐานของโน้ตบุ๊กแล้ว ยังเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้ ในการจัดโปรแกรมจัดการไฟล์ทั้งภาพและเพลง รวมทั้งการสร้างคอนเทนต์สำหรับหน้าเว็บด้วยตัวเอง และอุปกรณ์เสริมอย่างไดรฟ์บลูเรย์ดิสก์ก็ติดตั้งเพิ่มเติม

จากเครื่องพีซีและโน้ตบุ๊กแบบสั่งประกอบ เดลล์ถือได้ว่าเป็นผู้ตอกย้ำตลาดประกอบตามสั่งขึ้นมาอีกครั้ง โดยลูกค้าสามารถระบุสเป็กที่ต้องการได้พร้อมบริการหลังการขาย ซึ่งจะว่าไปก็คือการนำเรื่องที่มีอยู่มาทำให้ชัดขึ้น

ก่อนจะเริ่มให้บริการสั่งตัด เดลล์ มีการรวบรวมสำรวจความต้องการของผู้บริโภคมาก่อนแล้วจากเว็บไซต์ของเดลล์ และจากฟอรั่มต่าง ฃๆ ทางอินเทอร์เน็ต จนเชื่อว่าจะมีคำตอบที่พร้อมสำหรับดำเนินตามคำสั่งเพื่อให้ผู้ใช้โน้ตบุ๊กเดลล์เชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายดังใจ

จากสั่งประกอบตามสเป็ก ต้นปีนี้เดลล์รุกหนักมาถึงรูปลักษณ์ภายนอก ที่ต้องการให้ผู้ใช้เห็นความแตกต่างได้ทันที โดยเดลล์มีการออกแบบลายโน้ตบุ๊กโดยศิลปินทั่วโลกให้ลูกค้าเลือกมากกว่า 100 แบบ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้ และจะเป็นการช่วยเพิ่มบุคลิกเฉพาะตัวของผู้ใช้ให้โดดเด่นขึ้น แต่ถ้าอยากได้ลายที่แตกต่างเหล่านี้ผู้ใช้ต้องจ่ายเพิ่มคนละ 75 เหรียญสหรัฐ

ว่ากันว่า ถ้าเอชพีเป็นผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊กที่ได้รับความนิยมที่สุด แต่เดลล์กำลังจะเป็นผู้เปลี่ยนทิศทางแฟชั่นโน้ตบุ๊กที่พัฒนาได้สอดคล้องกับบุคลิกของผู้ใช้ได้มากกว่า

เดลล์กำหนดเป้าหมายไว้ว่าอยากเป็นแบรน์ที่มีแฟชั่นที่เข้ากับบุคลิกเฉพาะตัวของผู้ใช้มากขึ้นกว่าเดิม Michael Tatelman รองประธานฝ่ายขายและการตลาดเดลล์คอนซูเมอร์ทั่วโลก บอกว่า การมีดีไซน์เฉพาะที่หลากหลายของเดลล์ มาจากการสร้างสรรค์และเน้นการดีไซน์ภายใต้วัฒนธรรมที่แตกต่าง ซึ่งเชื่อว่าจะมีดีไซน์สักแบบที่เข้ากับบุคลิกของผู้ซื้อ และจะทำให้ผู้ซื้อไม่ลังเลที่จะตอบรับสินค้าที่สามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองนี้อย่างแน่นอน

อย่างน้อยสำหรับ Tatelman เองแล้ว เขาเชื่อว่า ชีวิตก็เหมือนกับสมุดสเกตช์ภาพ และก็เหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยและทำให้ผู้ใช้ ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารความเป็นตัวตนที่ชัดเจน

Sony VAIO P จะเรียกโน้ตบุ๊กอีกดีไหม

ความสำเร็จระดับตำนานอย่างหนึ่งของโซนี่คือการทำให้ Walkman กลายเป็นคำทั่วไปสำหรับเครื่องฟังเพลงแบบพกพา และความสำเร็จนี้ยังคงเป็นฝันที่โซนี่อยากจะทำให้เกิดขึ้นกับซับแบรนด์อีกหลายตัว รวมทั้ง VAIO ซับแบรนด์สำหรับผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์พกพาหรือโน้ตบุ๊กด้วย

ถ้าใครสักคนจะเลือกโน้ตบุ๊กโซนี่ คงไม่ต้องเอาเหตุผลเรื่องคุณสมบัติของเครื่องมาอ้างอิง เพราะแบรนด์ไหนก็มีเหมือนกัน หรืออาจจะเหนือกว่าในราคาที่เท่ากัน แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเมื่อตัวเลือกโน้ตบุ๊กใหม่เป็นไวโอ้ ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นความสวยและโดดเด่นที่ถูกนำเสนอออกมา

การเปิดตัว Sony VAIO P ในงาน CES 2009 ด้วย รูปแบบของโน้ตบุ๊กที่ไม่ต่างจากกระเป๋าสตางค์ใบโตของสาวๆ เลยกลายเป็นข่าวที่ผู้ชื่นชอบเทคโนโลยีไม่ยอมพลาด แถมครั้งนี้ไวโอ้ยังทำให้จุดด้อยของเน็ตบุ๊กเรื่องคีย์บอร์ดเล็กพิมพ์ไม่ถนัด กลายเป็นจุดแข็งด้วยดีไซน์ของแป้นคีย์บอร์ดที่สวยเฉี่ยว ดูไฮเทคเสียจนมองข้ามเรื่องการใช้งานว่าดีไม่ดีไปเลย แถมบางคนพยายามจะให้เครดิตโดยบอกว่านี่คือการปฏิวัติเทคโนโลยีเสียอีก

สเป็กอื่นๆ ก็อยู่ในระดับมาตรฐาน เริ่มจากจอ LED แบ็กไลต์ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 1600×768 อินเทลโพรเซสเซอร์ 1.33GHz มาพร้อมกับ Windows Vista Home Premium หรือจะเลือกระบบปฏิบัติการพื้นฐาน ฮาร์ดไดรฟ์ 60GB

บทสรุปที่ชัดที่สุดจากการนำเสนอทั้งแบบใส่มาในซองจดหมาย หรือจะพกมาในกระเป๋ากางเกงยีนส์ งานนี้ก็เลยทำให้ ไวโอ้ ได้ชื่อว่าเป็นแฟชั่นพกพาที่โดดเด่นที่สุดตัวหนึ่งของยุคไปครอง

เทรนด์สินค้าไอทีจากงาน CES 2009
– Software
– Windows 7 ที่หน้าตาต่างจาก Vista ไม่เท่าไหร่
– Web OS ระบบปฏิบัติการของ Palm ที่เน้น Web App. เหมือน Android ของ Google
– Memory Card
– SDXC เพิ่มความจุ เพิ่มความเร็วจาก SDHC
– MS Expanded Format เพิ่มความจุของ Memory Stick เดิม
– LCD Monitor
– เน้นจอบางลงด้วยเทคโนโลยีใหม่ (ส่วนใหญ่เป็น OLED)
– จอที่รองรับ Display Port เริ่มมีมากขึ้น
– Gadget
– ปี 2009 น่าจะเป็นปีของ “กรอบรูปดิจิตอล”
– แทนชาร์จแบบไร้สาย
– Gadget เล็กน้อยๆ ราคาถูกจะมีให้เลือกเยอะขึ้น
– Camera
– กล้องรุ่นใหม่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ในตัว
– Computer
– Notebook เริ่มมีขนาดเล็กและเบาลง
– ระบบควบคุมแบบหน้าจอสัมผัสจะได้รับความนิยม (ทั้งใน PC และ Notebook)
– Netbook ยังคงได้รับความนิยม และมีรุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ออกอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: www.techxcite.com

5 กฎแฟชั่นที่ต้องมีในเน็ตบุ๊ก
หนึ่ง-ต้อง Unique
สอง-บางและเบา
สาม-ลวดลายดึงดูด
สี่-แต่ต้องไม่ลืมความสะดวกของการใช้งานคีย์บอร์ดแบบฟูลไซส์
ห้า-ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ที่ได้มาตรฐาน