ซัมซุงคืนชีพ ! รายได้ไตรมาส 2 คาดทะลุ 4.1 แสนล้านบาท

ซัมซุงกำลังถูกจับตามองอีกครั้ง หลังจากที่ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสที่ 2 นั้นคาดว่าจะเติบโตกว่า 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จะมีรายได้ทั้งสิ้น 12,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 412,610 ล้านบาท

จากตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลให้ซัมซุงกลายเป็นบริษัทที่สามารถทำกำไรได้สูงที่สุดประจำไตรมาส 2 ของปี และยังแซงหน้าแอปเปิล (Apple) ที่คาดการณ์ว่าจะมีกำไรในไตรมาสนี้เพียง 10,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 361,460 ล้านบาทได้ด้วย

ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบสามปี ที่ซัมซุงสามารถทำรายได้ต่อไตรมาสเหนือกว่าแอปเปิล และถือเป็นการกลับมาอย่างสวยงามจากความล้มเหลวเมื่อปีก่อนหน้าที่สมาร์ทโฟน แกแล็กซี่ โน้ต 7 ทำเอาไว้

โดยปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการในปีนี้ของซัมซุงพุ่งทะยานก็คือ ราคาเมมโมรีชิปที่เพิ่มขึ้น และการเปิดตัวสมาร์ทโฟนสุดล้ำอย่าง แกแล็กซี่ เอส 8 (Galaxy S8) และ เอส 8 พลัส (S8+) นั่นเอง

สำนักข่าวรอยเตอร์ เผยด้วยว่า การเติบโตในตลาดเมมโมรีชิปนี้ทำให้ซัมซุงใกล้จะได้บันทึกชื่อตนเองในฐานะบริษัทที่มีส่วนแบ่งในตลาดเมมโมรีชิปสูงที่สุดในโลกแซงหน้าอินเทล (Intel) แล้ว ซึ่งบริษัทมีกำหนดการจะแถลงผลประกอบไตรมาสที่ 2 ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ จึงคาดว่าในวันดังกล่าวจะเป็นที่จับตาของสื่อต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดชิปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซัมซุงยังได้ออกมาประกาศว่าจะขยายการลงทุนในธุรกิจชิป และสมาร์ทโฟน โดยจะลงทุนเพิ่มอีก 17,700 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2021 เพื่อขยายและอัปเกรดกระบวนการผลิตของโรงงานใน Pyeongtaek และ Hwaseong และบริษัทก็มีแผนจะขยายโรงงานการผลิตชิป NAND ในเมืองซีอาน ประเทศจีน เพื่อสนองความต้องการของตลาดโลกที่ต้องการเมมโมรีชิปไฮเอนด์นี้เพิ่มมากขึ้นด้วย

ส่วนตลาดในสหรัฐอเมริกา ซัมซุงได้ลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเซาท์แคโรไลนา และว่าจ้างแรงงานอเมริกันชนอีกประมาณ 1,000 คน เพื่อพัฒนาเครื่องใช้ภายในบ้าน (Home Appliances) กลุ่มพรีเมียม เช่น เครื่องซักผ้า โดยการจ้างงานนั้น จะจ้างงานคนอเมริกันในตำแหน่งวิศวกร โอเปอเรเตอร์ ช่างฝีมือ เป็นหลัก

นโยบายลงทุนสร้างโรงงานของซัมซุงในสหรัฐอเมริกาได้รับการตอบรับด้วยดีจากรัฐบาล โดย Wilbur Ross เลขาธิการด้านการค้าของสหรัฐอเมริกาได้มาปรากฏตัวในการเซ็นสัญญาของซัมซุงกับรัฐเซาท์แคโรไลนา รวมถึงกล่าวชื่นชมซัมซุงในการตัดสินใจครั้งนี้อย่างมาก


ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000069483