ฝ่ายการผลิตของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหรูสัญชาติอังกฤษ “เวอร์ทู” (Vertu) กำลังตัดสินใจปิดตัวลง หลังจากบริษัทไม่สามารถผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการได้สำเร็จ คาดว่าการโบกมือลาครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 200 ตำแหน่ง ด้านโชว์รูม Vertu สาขาเกษรพลาซ่า มีแนวโน้มอาาจปิดตัวลงในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ทำให้มีการทำโปรโมชันลดราคาลง 20% ขณะที่สาขาสยามพารากอนยังเปิดทำการปกติ
ฝ่ายการผลิตของแบรนด์มือถือหรูสัญชาติอังกฤษมีชื่อเต็มว่า เวอร์ทูคอร์ปอเรชัน (Vertu Corporation Limited) หรือ VCL ผลงานหลักของบริษัทคือการผลิตโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนสำหรับมหาเศรษฐี เพราะการเลือกใช้วัสดุเหมือนเครื่องประดับราคาแพงอย่างไทเทเนียมและแซฟไฟร์ สนนราคามีให้เลือกตั้งแต่ระดับ 10,000 ปอนด์ถึง 280,000 ปอนด์ (ราว 4 แสนบาทถึง 12 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรุ่นฝังเพชรหลายกะรัต
รายงานระบุว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Vertu คือ มูรัต ฮากาน อัซอาน (Murat Hakan Uzan) นักธุรกิจผู้เกิดที่ตุรกีแต่ลี้ภัยมายังปารีสได้พยายามหาทางซื้อบริษัทในรูปแบบ Pre Pack Administration ซึ่งเป็นรูปแบบการซื้อขายธุรกิจที่มีหนี้สินล้นพ้นให้กับกรรมการที่มีอยู่ นักธุรกิจ หรือบุคคลที่ 3 แต่แผนดังกล่าวไม่เป็นผล โดยข้อมูลจากศาลสูงอังกฤษระบุว่า VCL เป็นบริษัทที่ขาดดุลทางบัญชีมากกว่า 128 ล้านปอนด์ ซึ่งมูลค่านี้แตกต่างกับเงินที่เจ้าของแบรนด์ Vertu ต้องการชำระเพียง 1.9 ล้านปอนด์เท่านั้น
ความเห็นล่าสุดของแบรนด์ Vertu ขณะนี้ คือโฆษกแบรนด์ออกมายอมรับว่าความหวังในการขายกิจการแบบ pre-pack administration นั้นล้มเหลว เนื่องจากไม่สามารถบรรลุการเจรจาด้านการเงินได้ ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทไม่มีโอกาสฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง
เบื้องต้น โฆษก Vertu ย้ำว่า ส่วนธุรกิจอื่นของกลุ่มจะไม่ได้รับผลกระทบใดจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น เท่ากับแบรนด์ Vertu จะยังไม่หนีหายไปไหนง่ายๆ แต่ควรรู้กันว่าสมาร์ทโฟน Vertu อาจจะไม่ได้ผลิตจากโรงงานเดิมอีกต่อไป
สำหรับตลาด Vertu ประเทศไทย วันนี้ Vertu ยังมีโชว์รูม 2 สาขาที่ห้างเกษรพลาซ่าหรือ “เกษรวิลเลจ” และสยามพารากอน โดยราคาเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนในร้านคือ 150,000 บาทสำหรับรุ่น Aster ซึ่งใช้วัสดุผ้าหรูหรา จุดนี้หากเป็นรุ่นวัสดุหนังราคาเริ่มที่ 265,000 บาท ด้านรุ่นที่ออกแบบให้เข้ากับรถไฮโซ Bentley ราคาเริ่มต้นในประเทศไทยคือ 630,000 บาท
ผู้สนใจสามารถรับส่วนลด 20% ที่ Vertu เกษรพลาซ่า ก่อนที่ร้านอาจปิดตัวลงในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ (ข้อมูลยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ) โดยสาขาสยามพารากอนคาดว่าจะยังให้บริการตามปกติต่อไป
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000071381