สมาร์ทโฟนใกล้จุดอิ่มตัว-แบรนด์จีนตีตลาด โจทย์ที่ท้าทายของ “ซัมซุง”

ไม่บ่อยครั้งที่จะได้เห็นผู้บริหารระดับสูงของ “ซัมซุง” บินมาประเทศไทย ถึงแม้จะมีการบินลัดฟ้ามาประชุมในทุกๆ ปี แต่ปีนี้ “ดีเจ โกห์” ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้เปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกถึงความ้ทาทาย และการทำตลาดในประเทศไทย

ตลาดประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดสำคัญอย่างมากของซัมซุง เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากประเทศอินโดนีเซีย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มาเยือนในปีนี้และผลักดันตลาดอย่างเต็มที่

ดีเจ บอกว่า ความท้าทายที่สุดของซัมซุงในตอนนี้ก็คือ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกกำลังถึงจุดอิ่มตัว ดังนั้นจะให้แค่สมาร์ทโฟนแก่ผู้บริโภคไม่เพียงพอแล้ว ต้องนำเสนอประสบการณ์ใหม่ เรื่องนวัตกรรม หรือกล้องถ่ายรูปต้องต่อยอดขึ้นไปอีก ให้คนใช้ได้สะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับในประเทศไทยเองก็ใกล้ถึงจุดอิ่มตัวแล้วเช่นกัน ในปีที่ผ่านมาตลาดสมาร์ทโฟนในไทยมียอดจำหน่ายราว 18-20 ล้านเครื่อง และมีอัตราการเข้าถึงเกือบ 100% แล้ว แสดงว่าคนไทยมีการเข้าถึงสมาร์ทโฟนเกือบทุกคน บางคนอาจจะพกสองเครื่องด้วย

อย่างไรก็ดี อีกความท้าทายหนึ่งของซัมซุงก็คือการแข่งขันในตลาด ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนตีตลาดไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยก็มีบทบาทมากขึ้น อย่าง ออปโป้ หัวเว่ย วีโว่ และได้ดังพรีเซ็นเตอร์ตัวท็อปของวงการบันเทิงมาดึงดูดด้วย

การต่อสู้ของซัมซุงยังคงเน้นสร้างแบรนด์ กาแลคซี่ ที่เป็นแบรนด์แฟล็กชิพระดับไฮเอนด์ มี 2 รุ่นในตลาดคือกาแลคซี่ เอส และกาแลคซี่ โน้ต เน้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้ใช้งานได้สะดวกอย่าง ซัมซุง เพย์ เป็นเทรนด์การชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน

การต่อสู้กับแบรนด์จีนก็ใช้สมาร์ทโฟนในระดับกลางราคาย่อมเยาในการตีตลาด ยังคงใช้จุดแข็งที่มีสมาร์ทโฟนในทุกระดับ

ทั้งนี้ ดีเจ โกห์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนกันยายนผู้บริโภคจะได้สัมผัส Galaxy Note 8 ที่จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่สร้างปรากฏการณ์ให้แก่ตลาด มากกว่าตอนที่เปิดตัว Galaxy S8 และ S8 Plus ก่อนหน้านี้

ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาของซัมซุง ถือว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้มากกว่าเดิม

ในประเด็นของ Samsung Galaxy Note 7 ที่มีปัญหาแบตเตอรี่ก่อนหน้านี้ ซัมซุง ยอมรับว่าถือเป็นข้อผิดพลาดที่สำคัญ และบริษัทจะเรียนรู้จากเรื่องดังกล่าว และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้

เรื่องแผนการนำ Samsung Galaxy Note FE ขยายออกมาทำตลาดนอกเกาหลีใต้ ยังไม่มีแผนในตอนนี้ เพราะรุ่นดังกล่าวถือว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อให้แฟน Note 7 ได้ใช้งาน ไม่ได้เป็นเครื่องเก่านำมาเปลี่ยนแบตแต่อย่างใด