ดัชมิลล์ ฝ่าวิกฤตเมลามีน “ซีอีโอมาเอง”

แม้ ธีรยุทธ ฉายสว่างวงศ์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด จะบอกว่า ปัญหานมผงปนเปื้อนเมลามีนครั้งนี้ไม่ใช่วิกฤตของดัชมิลล์ เพราะเมลามีนเป็นเรื่องเล็กๆ เมื่อเทียบกับเชอร์โนบิลระเบิดที่รัสเซียเมื่อปี หรือ กว่าปีที่แล้ว แต่ครั้งนั้นดัชมิลล์ยังเป็นบริษัทเล็กๆ เพิ่งตั้งไข่ ไม่ใช่บริษัทที่มียอดขายกว่า 5,000 ล้านบาทเช่นปัจจุบันนี้

กระนั้นการเงียบเฉยคือหนทางสู่ความล้มเหลว ธีรยุทธจึงเลือกที่จะสื่อสารในสถานการณ์วิกฤตแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการแถลงข่าวครั้งแรกเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าวที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2551 ต่อด้วยการจัด Press Trip ชมโรงงานเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2551 และผ่านสื่ออื่นๆ ที่มีอยู่ในมือ

ที่ผ่านมา ธีรยุทธคนเดียวกันนี้เองแทบจะไม่เคยพบปะกับสื่อมวลชนเลย กลับปรากฏตัวและรอต้อนรับสื่อมวลชนที่โรงงานแดรี่พลัส อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ เขายอมรับว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาต้องการทำตัว Low Profile แต่เมื่อเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น แน่นอนว่าในฐานะเจ้าของและผู้นำสูงสุดขององค์กรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องออกมาชี้แจงและให้รายละเอียดกับสื่อมวลชน องค์การอาหารและยา ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ

เนื่องจากทุกครั้งที่มีการแถลงข่าวประจำปีของดัชมิลล์จะเป็นหน้าที่ของ พรชัย สุขสบชัยสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ

“ผมอยากอยู่ในถ้ำ อยากอยู่ในหลืบมากกว่า” ธีรยุทธบอกทีเล่นทีจริง แต่อะไรบางอย่างในน้ำเสียงบอกว่านั่นคือความต้องการที่แท้จริงของเขา

คิธ แอนด์ คิน พีอาร์เอเยนซี่ ถูกเรียกเข้ามารับงานด่วนนี้ จากนั้นไม่นานทริปชมโรงงานก็เกิดขึ้น เกมตั้งรับปัญหาเมลามีนของดัชมิลล์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่นมผงซึ่งดัชมิลล์นำเข้าจากจีน

ดัชมิลล์ยอมรับว่านำเข้านมผงจากจีนจริง แต่ไม่ใช่ 22 บริษัทที่จงใจเติมเมลามีนลงไปในนมผง และดัชมิลล์ก็ได้ทำการส่งนมผงคืนกลับไปยังจีนแล้ว แต่กระนั้นทาง อย. กลับไม่ยอมรับการกระทำดังกล่าว เพราะขั้นตอนการส่งคืนวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศใดๆ จะต้องมีใบรับรองสินค้าจาก อย. และศุลกากรทุกครั้ง จึงจะสามารถถอนการอายัดและส่งสินค้าออกจากท่าเรือได้ การตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนปนเปื้อนในอาหารต้องเป็นการตรวจวิเคราะห์จาก ห้องแล็บของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ส่วนผู้ผลิตสินค้าที่นำผลตรวจจากแล็บเอกชนอื่นมายืนยัน ทาง อย. จำเป็นต้องส่งตัวอย่างตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง เช่นเดียวกับกรณีการนำเข้านมผงจากจีนของดัชมิลล์

เมื่อผลออกมาชัดเจน อย. จึงมีหนังสือด่วนที่สุดถึงดัชมิลล์เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551ว่าผลิตภัณฑ์นมจำนวน 11 รายการของดัชมิลล์ ซึ่งได้มีการสุ่มเก็บตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนนั้นปรากฏว่ามีความปลอดภัยต่อการบริโภค สามารถจำหน่ายต่อไปได้

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ที่ สธ 1005/5/16985 ถูกนำขึ้นปกวารสารฟ้าดัชมิลล์ ฉบับที่ 22 ประจำเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2551 เพื่อชี้แจงกับผู้บริโภคทันที

นอกจากนี้ดัชมิลล์ยังระดมการสื่อสารทุกช่องทาง ทั้ง www.ducthmill.co.th เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของดัชมิลล์ เปลี่ยนหน้าเว็บเพจแรกเป็นประกาศรับรองความปลอดภัยจาก อย. ซึ่งเป็นประกาศฉบับเดียวกันกับที่นำไปใช้เป็นปกวารสารฟ้าดัชมิลล์ วารสารขององค์กรที่พิมพ์แจกสำหรับลูกค้าจำนวน 10,000 ฉบับ

รวมถึงการให้พนักงานสาวดัชมิลล์ซึ่งเป็นช่องทาง Direct Sale ของดัชมิลล์กว่า 6,000 คน เป็นผู้ชี้แจงโดยตรงกับผู้บริโภคชนิดประชิดติดตัวกันเลยทีเดียว

ธีรยุทธสามารถแก้เกมนี้ได้สวย แม้การเยี่ยมชมโรงงานจะไม่เปิดเผยให้เห็นกระบวนการผลิตอื่นๆ นอกเหนือจากการติดฉลากโปรโมชั่น การบรรจุกล่องนมลงกล่องกระดาษ ก็ตามที

“ไม่เคยคิดว่าเป็นอุปสรรค ทุกอย่างเป็นเรื่องที่พระเจ้าต้องการทดสอบเราว่าสมควรจะอยู่ต่อหรือเติบโตต่อไปหรือไม่”

จากแบรนด์ที่ไม่เคยมีใครรู้จัก จากผู้ชายที่เดินสายเจรจากับเอเย่นต์มาทั่วประเทศ บางแห่งต้องเทียวไล้เที่ยวขื่อถึง 16 ครั้งกว่าจะได้รับการยอมรับ แม้ในวันที่ถูกนมของตัวเองปาใส่หน้า เขาก็เลือกที่จะสู้ต่อโดยไม่ท้อถอย

วันนี้ดัชมิลล์เติบใหญ่อย่างมั่นคง แต่ก็ต้องเผชิญปัญหาเมลามีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ธีรยุทธจะบอกว่าทุกอย่างผ่านไปด้วยดีก็ตาม แต่บทเรียนที่ไม่คาดคิดนี้น่าจะย้ำเตือนให้ดัชมิลล์ดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้

เป็นที่น่าเสียดายว่า เมลามีน ทำให้ดัชมิลล์ส่งท้ายปีแบบเหนือความคาดหมาย ทั้งๆ ที่ปีนี้เป็นปีที่ดัชมิลล์จะฉลองครบรอบ 25 ปี ในวันที่ 10 ธันวาคม 2551 นี้ อย่างไรก็ตาม งบการตลาด 50-60 ล้านบาท และกิจกรรมโปรโมชั่นมากมายจะยังคงดำเนินต่อไป

ขณะที่งบที่ใช้ในการแก้เกมเมลามีนครั้งนี้ แม้จะไม่เป็นที่เปิดเผยตัวเลข โดยธีรยุทธบอกเพียงว่า เป็นงบส่วนกลางที่มีอยู่แล้วแต่ทั่วไปแล้วไม่ค่อยได้ใช้ จะปัดเป็นค่าใช้จ่ายของแคมเปญปกติ ไม่ใช่งบพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาแต่อย่างใด

“พวกเรากินก็ไม่จุ นั่งรถมาอีกต่างหาก ไม่แพงหรอก” ธีรยุทธตอบคำถามอย่างติดตลกขณะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังมื้อเที่ยง ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่นครสวรรค์

ในวันเปิดโรงงานต้อนรับสื่อมวลชน เขามีสีหน้าดูเหน็ดเหนื่อย แต่ภาพของสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจกับกระบวนการผลิต ดูจะทำให้ธีรยุทธสบายใจได้ หลังการเยี่ยมชมโรงงานเสร็จสิ้นลง ธีรยุทธถ่ายภาพยืนยันความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกครั้ง ด้วยการดื่มนมเปรี้ยวดัชมิลล์รสองุ่นโชว์

แม้เมลามีนจะยังเป็นของแสลงใจผู้บริโภค เขามั่นใจว่าดัชมิลล์ได้สื่อสารทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างเต็มที่แล้ว ขณะที่ก้าวต่อไปคือการโกอินเตอร์เพื่อปักหลักในต่างแดน โดยเฉพาะการเปิดโรงงานที่อินเดียภายใน 3 ปี และการรุกตลาดใหม่ที่เต็มไปด้วยกำลังซื้ออย่างตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้

“ดัชมิลล์ตั้งใจจะโกอินเตอร์ อยากให้เต็มแผนที่โลก”

ก่อนจากธีรยุทธยอมให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาแก่สื่อมวลชนอย่างง่ายดาย พร้อมสำทับว่ามีอะไรสอบถามให้โทรมาพูดคุยเพิ่มเติมได้

ต้องขอขอบคุณเมลามีน ที่ทำให้เราได้รู้จักเจ้าของและผู้บริหารสูงสุดของดัชมิลล์ กรุ๊ป มากขึ้น