เนสท์เล่ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

วิกฤตไม่ใช่แค่สร้างความเสียหายมหาศาลให้กับผู้เพลี่ยงพล้ำทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่ยังสามารถสร้างโอกาสให้กับผู้ที่รู้จักฉกฉวยเอาไว้ในมือได้ “เนสท์เล่” ก็พยายามคว้าโอกาสนี้ไว้จาก “วิกฤตเมลามีน” ท่ามกลางความคลุมเครือสับสนของผู้บริโภคที่ต่างไม่มั่นใจในผลิตภัณฑ์นมผงเด็กว่าปลอดภัยจากสารปนเปื้อนเมลามีนหรือไม่

“นมผงตราหมี” หนึ่งในผลิตภัณฑ์นมผงเด็กของเนสท์เล่จึงรุกตลาดอย่างหนัก เพื่อผลักดันให้ผลิตภัณฑ์เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้

โรแลนด์ สไตเกอร์ ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์นม และครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมผงตราหมี แอดวานซ์ และนมผงตราหมี โพรเท็กซ์ชัน บอกว่า การตัดสินใจทุ่มงบเพิ่มเติมอีก 50 ล้านบาทในช่วงที่เหลือของปี เพื่อตอกย้ำความมั่นใจ และขอบคุณความไว้วางใจที่ผู้บริโภคมีต่อนมผงตราหมีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ภายใต้แนวคิด “75 ปีแห่งความไว้วางใจในนมผงตราหมี”

เพื่อให้คีย์เวิร์ด “ความมั่นใจ” ส่งไปยังผู้บริโภคอย่างเข้าถึงมากที่สุด เนสท์เล่จึงได้เลือก 3 คนดังมาช่วยส่งสารในฐานะของตัวแทนผู้บริโภค ผ่านภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง

เรื่องแรกใช้คอนเซ็ปต์ “ยิ่งนานวัน ยิ่งผูกพัน” โดยมี บัญชา ชุมชัยเวทย์ นักวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจ พูดถึงความมั่นใจในนมผงตราหมี เติบโตมากับนมผงตราหมี ติดตามพัฒนาการของแบรนด์มาตลอด และถ้ามีลูกก็จะให้ลูกดื่มนมผงตราหมีด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องราวภายใต้แนวคิด “ยิ่งนานวัน ยิ่งอบอุ่น” โดยมี ดวงใจ หทัยกาญจน์ นักแสดงมาฝีมือ ซึ่งรู้จักและผูกพันกับนมผงตราหมีมาอย่างยาวนาน และเลือกนมผงตราหมีสำหรับลูกๆ และเมื่อเห็นการเติบโตอย่างสมบูรณ์ของลูกก็ยิ่งรู้สึกดี

และภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่ 3 ด้วยแนวคิด “ยิ่งนานวัน ยิ่งมั่นใจ” มี ศรัยฉัตร จีระแพทย์ พิธีกรชื่อดัง ซึ่งเป็นคนพิถีพิถัน และใส่ใจรายละเอียด มีการวางแผนอย่างรอบคอบ กล่าวถึงความมั่นใจในนวัตกรรมของนมผงตราหมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีศูนย์วิจัยของเนสท์เล่รับประกันในคุณภาพมาตรฐาน

แม้ว่าเนสท์เล่จะะเป็นผู้นำทางด้านอาหารและโภชนาการระดับโลก แต่สำหรับผลิตภัณฑ์นมผงเด็กแล้วยังเป็นรองดูเม็กซ์อยู่หลายช่วงตัว เนสท์เล่จึงคาดหวังว่าการสร้างความมั่นใจในสินค้าในช่วงภาวะวิกฤตจะช่วยให้เนสท์เล่สามารถตีตื้นคู่แข่งสำคัญในตลาดนมผงสำหรับเด็กโตที่มีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาทได้