ต้องยอมรับว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงที่ท้าทายอย่างมากของ “เซ็ปเป้” จากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยดี และตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งก์ที่ไม่มีการเติบโต อีกทั้งยังติดลบหนักมา 2-3 ปีแล้ว เทรนด์ดูแลสุขภาพทำให้ผู้บริโภคหันไปดื่มเครื่องดื่มอย่างอื่นแทน ทำให้ต้องมีการปรับกลยุทธ์ และแก้เกมกันยกใหญ่ เพื่อที่จะทวงบังลังก์ผู้นำตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งก์กลับมาให้ได้ หลังจากที่เสียตำแหน่งให้ “แมนซั่ม” มานานหลายปี
ทำให้ได้เห็นเซ็ปเป้มีการเคลื่อนไหวอย่างมาก ทั้งการปรับองค์กรภายใน รีเฟรชแบรนด์ให้ทันสมัย ยิ่งในปีนี้มีการเคลื่อนไหวอย่างหนักตั้งแต่ต้นปี ได้ออกสินค้าใหม่เพื่อสร้างสีสันในตลาด จัดทัพพรีเซ็นเตอร์ และโฟกัสตลาดออนไลน์ รวมถึงการบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพราะตลาดในไทยไม่เติบโต
ในปีนี้เซ็ปเป้ได้อานิสงส์จากไวรัล “เซ็ปเป้ขวดฟ้า” หรือสูตรแอคทีฟ ฟอร์ซ และสูตรรีแล็กซิ่ง คาล์ม เป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ ที่ดื่มแล้วอารมณ์ดี สามารถกระตุ้นยอดขายให้เซ็ปเป้ได้อย่างดี ประกอบกับในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาได้ปล่อยแคมเปญใหญ่ ‘เซ็ปเป้คาราวาน: ภารกิจมอบมง แซ่บ เป๊ะ ปัง’ ทำให้ในปีนี้คาดว่ายอดขายรวมจะสามารถเติบโต 10% ได้ตามเป้า
ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเติบโตได้ดีด้วยปัจจัยจากตลาดส่งออกขยายตัวได้ดี จากปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศทุกภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างประเทศจีนและอินโดนีเซียที่มีอัตราเติบโตที่ดี หลังจากบริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมมุ่งเน้นการดูแลด้านโลจิสติกส์ในร้านค้าปลีกเพื่อให้ ณ จุดขายมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา และขยายช่องทางขายใหม่ๆ เพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซีย ส่วนตลาดในประเทศจีนนั้น บริษัทฯ ได้พยายามเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทางการขายร้านค้าปลีกรายย่อยและซูเปอร์มาร์เก็ตตามหัวเมืองใหญ่มากขึ้น รวมถึงการจัดวางสินค้าเพื่อเพิ่มความโดดเด่นสามารถดึงดูดลูกค้าได้ดีขึ้น
ขณะที่ตลาดในประเทศ โดยภาพรวม มีแนวโน้มประสบความสำเร็จได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ หลังจากบริษัทฯ ได้ทำแคมเปญใหญ่ พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของ เซ็ปเป้ บิวติดริ้งค์, เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ เป็นคนแรกก็คือโทนี่ รากแก่น รวมถึงออกสินค้าใหม่ ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ สูตรแอคทีฟ ฟอร์ซ และสูตรรีแล็กซิ่ง คาล์ม, เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ กลิ่นแอปเปิล สูตรน้ำตาลน้อย เพื่อตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและความงาม
รวมถึงได้ปรับเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายสินค้าเพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ รองรับความต้องการซื้อสินค้าของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น จึงส่งผลดีต่อภาพรวมยอดขายสินค้า
ส่วนแผนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เซ็ปเป้มีแผนเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ในตลาดต่างประเทศกว่า 6 รายการ ได้แก่ โมกุ โมกุ ทู โก , โมกุ โมกุ 4 รสชาติ และเซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ สูตรน้ำตาลน้อย เพื่อรุกขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม
ขณะที่ตลาดในประเทศนั้น บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา เซ็ปเป้ บิวติดริ้งค์ ผ่านช่องทางออนไลน์ในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อสร้างกระแสไปยังผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 10% โดยมีสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศ 65% และตลาดในประเทศ 35%