นิตยสารเฮลท์แอนด์ควิซีน (Health & Cuisine) ในเครืออมรินทร์พริ้นติ้ง ประกาศตีพิมพ์ฉบับ ที่ 199 เป็นฉบับสุดท้าย เดือนสิงหาคม 2560 นี้ โดยจะหันไปสื่อสารผ่านโลกออนไลน์และแฟนเพจแทน
“นิตยสาร” ยังคงเป็นสื่อได้รับผลกระทบจาก พฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไปเสพสื่อออนไลน์ ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาของนิตยสารยังคงลดลงต่อเนื่องทุกเดือน ทำให้นิตยสารต้องลาแผง หันไปสู่แพลตฟอร์มกันเป็นแถว
โดยนีลเส็น ประเทศไทย รายงานในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 งบโฆษณาที่ลงในนิตยสาร 1,103 ล้านบาท ลดลงไปถึง 36.72% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนในเดือนกฎาคม 60 ทำเม็ดเงินโฆษณา 134 ล้านบาท เกือบจะน้อยที่สุดในบรรดาสื่อทั้งหมด โดยติดลบไปถึง 38.53 เมือเทียบกับ ก.ค.ปี 59
ส่งผลให้ นิตยสาร ซึ่งมีรายได้หลักจาก “โฆษณา ต้องทยอยปิดตัวลง ล่าสุด นิตยสารเกี่ยวกับอาหารอย่าง เฮลท์แอนด์ควิซีน (Health & Cuisine) ในเครืออมรินทร์ ก็ประกาศตีพิมพ์เป็นฉบับสุดท้ายในเดือนสิงหาคม 2560 โดยจะหันไปสื่อสารผ่านโลกออนไลน์และแฟนเพจแทน
“ตั้งแต่ฉบับปฐมฤกษ์ กุมภาพันธ์ 2544 ถึงฉบับสิงหาคม 2560 ฉบับนี้ รวมเฮลท์แอนด์ควิซีนได้ 199 ฉบับแล้ว ที่ส่งต่อความรู้ ทั้งเรื่องสุขภาพ สูตรอาหาร และร้านอาหารอร่อยๆ ถึงคุณผู้อ่านทุกเดือน มาถึงบรรทัดนี้ ดิฉันจำต้องบอกลาคุณอย่างเป็นทางการแล้ว … Health & Cuisine ฉบับในมือคุณนี้ จะเป็นฉบับสุดท้ายแล้วค่ะ ด้วยสถานการณ์และเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างในปัจจุบัน ทำให้บริษัทจำเป็นต้องยุติการทำนิตยสารแบรนด์นี้ลง และโปรดติดตามเนื้อหาดีๆ ของ Health & Cuisine ได้ในโลกออนไลน์นะคะ” แสงปทีป แก้วสาคร บรรณาธิการบริหารของเฮลท์แอนด์ควิซีนระบุในบทบรรณาธิการ
ทั้งนี้ เฮลท์แอนด์ควิซีนจะยังมีการผลิตเนื้อหาต่อไปผ่านเฟซบุ๊ก แฟนเพจ GoodLifeUpdate.com ซึ่งมีการรวบรวมเอาเนื้อหาด้านอาหารและสุขภาพจากนิตยสารในเครืออมรินทร์อย่าง ชีวจิต และ Secret เข้าไปด้วย
สำหรับนิตยสารเฮลท์แอนด์ควิซีน ของ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นนิตยสารเกี่ยวกับอาหารวางจำหน่ายเป็นรายเดือนในราคาเล่มละ 90 บาท โดยจากข้อมูลผลประกอบการครึ่งปีแรก 2560 ที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ ระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ระบุว่าครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในการลดผลขาดทุนสุทธิได้อย่างมีนัยสำคัญ และหวังว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจของบริษัทหลังจากที่ช่อง AMARIN TV สามารถไต่อันดับขึ้นมามีเรตติ้งเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 7 ของจำนวนช่องฟรีทีวีทั้งหมดได้
ที่มา : manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9600000083199