ฮานามิยุคนี้ต้อง “มาริโอ้”

งานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของ “ฮานามิ” แปลกกว่าทุกครั้งที่เคยมีมา งานนี้นอกจากมีหนุ่มมาริโอ้ และนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง Friendships เป็นพรีเซ็นเตอร์กลุ่มครั้งแรกแล้ว ยังมีหมอดูชื่อดัง “นนทวัฒน์ ตั้งวีระเกียรติ” มาทำนายดวงของหนุ่มโอ้ บอกถ้าอายุครบ 28 เมื่อไหร่ดังกว่านี้แน่…ฟันธง!!!

“ที่ผ่านมาใช้พรีเซ็นเตอร์ที่มาจากค่ายเพลง เพราะสามารถต่อยอดกิจกรรมได้ไม่ว่าจะเป็น Music Marketing หรือ Event Marketing แต่การเลือกพรีเซ็นเตอร์ยุคนี้ต้องดูที่ Rating ว่าใครดัง คำตอบที่ได้คือ มาริโอ้” สุรเดช นภาพฤกษ์ชาติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท สยามร่วมมิตร จำกัด ให้เหตุผลในการเลือกพรีเซ็นเตอร์

ถึงแม้มาริโอ้จะถูกเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้ามามาก แต่ผู้บริหารของฮานามิมองว่าตัวของมาริโอ้ ซึ่งเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องเฟรนด์ชิพ ตรงกับ Concept ของฮานามิ ที่ใช้สโลแกนว่า “ข้าวเกรียบรวยเพื่อน” ทุกอย่าง Synchronize ลงตัวกันหมด

โจทย์ใหญ่ของฮานามิอยู่ที่การอยู่ตลาดไทยมาแล้ว 32 ปี หนังโฆษณาทุกๆ ปีของฮานามิ จึงต้องให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูสดใสและเด็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายหลักอายุตั้งแต่ 15-25 ปี

การทำตลาดโดยใช้พรีเซ็นเตอร์ของ “ฮานามิ” ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ไม่ว่าจะใช้แดน บีม หรือโฟร์ มด ที่สามารถดันยอดขายได้ถึง 25% ในปีที่ผ่านมา ส่วนความคาดหวังในตัวของ มาริโอ้ สุรเดชบอกว่า “จะช่วย Push ยอดขายได้มากถึง 30%”

ปัจจุบันตลาดขนมขบเคี้ยวมีมูลค่ารวมมากถึง 13, 000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตกว่า 10% แต่คู่แข่งที่มากขึ้น ฮานามิ ต้องหันมามุ่งเน้นสร้างพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมากินข้าวเกรียบกุ้ง และต้องไปให้ถึงจุดที่ว่า “ถ้านึกถึงข้าวเกรียบกุ้งต้องนึกถึง ฮานามิ” ด้วยการBrand Building และ Brand Awareness เพื่อตอกย้ำและสร้างการรับรู้ของแบรนด์ เพราะคนกิน Snack กินเพราะ Emotional ไม่ได้กินที่ Function

นอกจากการใช้พรีเซ็นเตอร์แล้ว จากผลวิจัยของฮานามิ พบว่า เพลงและกราฟิกสามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้ง่าย หนังโฆษณาของฮานามิจะใช้ใช้เพลงและกราฟิกเป็นหลักในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย

เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ช่องทางจำหน่ายที่ฮานามิจะให้น้ำหนักมากยิ่งขึ้น คือโรงภาพยนตร์ ซึ่งจะทำให้ฮานามิสามารถโฆษณาและขายด้านหน้าโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะอยู่ในเครือของ Major, EGV, Paragon และSF Cinema นอกเหนือจากช่องทางเดิมอย่าง ยี่ปั้ว ซาปั้ว และ Modern Trade ซึ่งมีสัดส่วน 50/50

ตลาดรวมของขนมขบเคี้ยว 13,000 ล้านบาท (by segment)
ปลาเส้น 10%
มันฝรั่ง 30%
ขนมขึ้นรูป 40%
ข้าวเกรียบกุ้ง 10%
ถั่ว 10%

ตลาดข้าวเกรียบกุ้ง (by brand)
ฮานามิ 65%
รวยเพื่อน 15%
คาลบี้และอื่นๆ 20%

ผลงานของมาริโอ้ เมาเร่อ
หนังโฆษณา
โรลล์ออนเอ็กซิท, เดอะพิซซ่าคอมปานี, มันฝรั่งทอดกรอบ แจ๊กซ์, กูลิโกะ โคลอน,โฟมล้างหน้า ทรอส, ซูกัส, นมยูเอชที โฟร์โมสต์, รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ ใหม่, เป๊ปซี่, แป้งเบบี้มายด์, ดัชมิลล์,โทรศัพท์มือถือโซนี่ อีริคสัน, ฮานามิ
มิวสิกวิดีโอ
กุญแจที่หายไป (ปาล์มมี่), ปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ (มีล่า), บอกให้รู้ว่ารักเธอ (ดัง พันกร), ให้ฉันรักเธอ (ยุ้ย ณพอาภา), ได้ยินไหม (ดา เอ็นโดรฟิน), คิดถึงเธอ (มีล่า), อยากเกิดเป็นผู้ชาย (มีล่า), จะได้เจออีกไหม (ตรัย ภูมิรัตน์)
อัลบั้มเพลง
PsyCho & Lil’Mario : Dem Crazy Boyz ในนามศิลปิน PsyCho & Lil’Mario
ภาพยนตร์
พ.ศ. 2550 รักแห่งสยาม พ.ศ. 2551 เฟรนด์ชิพ เธอกับฉัน, ฝัน-หวาน-อาย-จูบ