เปิดแผน จีเอ็มเอ็ม25 หลังได้ ”ตระกูลสิริวัฒนภักดี” ถือหุ้น

หลังจากการประกาศการได้ผู้ถือหุ้นของบริษัท อเดลฟอส จำกัด ที่มี ฐาปน และ ปณต สิริวัฒนภักดี 2 ทายาท เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้เข้ามาถือร่วมถือหุ้นในบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง จำกัด ในสัดส่วน 50% คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้ทีวีดิจิทัลช่องจีเอ็มเอ็ม25 เป็นอีกช่องที่จะมีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามา อนาคตของช่องนี้จะเป็นอย่างไร

พี่ฉอดสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ซีอีโอ สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าว ว่า การเข้ามาของ “อเดลฟอสนั้น จะเน้นการลงทุนเป็นหลัก และจะส่งคนเข้ามานั่งในบอร์ดของบริษัท ส่วนการดำเนินธุรกิจจะเป็นของผู้บริหารและทีมงานเดิม 

ปรับโครงสร้างธุรกิจ

การปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง จำกัด จะเป็นบริษัทหลัก ที่จะถือหุ้นโดยทั้งสองฝั่ง คือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และอเดลฟอส ฝ่ายละ 50%

จากนั้นจะนำบริษัทที่ทำเกี่ยวเนื่องและเกื้อกูลกัน ประกอบไปด้วย 1. จีเอ็มเอ็ม แชนแนล (จีเอ็มเอ็ม ช่อง 25) 2. จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ซึ่งมี เอทีไทม์ มีเดีย และเอไทม์ ทราเวิลเลอร์ อยู่ภายใต้อีกที และ 3. บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี ซึ่งเป็นคอนเทนต์ โพรไวเดอร์ผลิตรายการ มาอยู่ภายใต้บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง อีกที

นำบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้อง คือ บริษัท เอ็กแซ็กท์ บริษัท ซีเนริโอ ซึ่งเคยผลิตคอนเทนต์ป้อนให้กับทีวีช่องต่างๆ แยกไปอยู่ภายใต้ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ รวมทั้งทีนทอล์คไม่ได้ดำเนินธุรกิจ และบลิสที่ได้ปิดกิจการไปแล้ว แยกออกไป

ขยายคอนเทนต์และกลุ่มเป้าหมาย

เงินลงทุนที่ได้มาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นใหม่ ส่วนใหญ่แล้วจะนำมาใช้ในการลงในช่อง GMM25 เป็นหลัก เพราะธุรกิจทีวีดิจิทัลต้องใช้เงินลงทุนสูง โดยจะนำมาใช้ผลิตคอนเทนต์เพิ่มขึ้น ทั้งละครและรายการต่างๆ 

โดยที่เราจะขยายไปพร้อมกัน ทั้งทีวีและวิทยุ อีเวนต์ต่างๆ ทั้งออนไลน์ออนแอร์และออนกราวด์จะถูกขยายไปพร้อมๆ กัน กรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด ทุกอย่างจะต้องถูกขยายไปด้วยกัน

การขยายคอนเทนต์ในครั้งนี้มีเป้าหมาย เพื่อต้องการขยายฐานคนดูไปในต่างจังหวัดมากขึ้น และจะเน้นไปที่กลุ่ม Gen C เป็นคนรุ่นใหม่ นิยมความทันสมัย ไม่ได้บริโภคสื่อจอเดียว ซึ่งเป็นคาแร็กเตอร์” เดียวกับช่อง โดยไม่จำกัดอายุและพื้นที่ ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นกลุ่มคนดูที่กว้างไม่ได้เล็กแล้ว 

กลุ่มเป้าหมายดั้งเดิมของช่องที่วางไว้แต่แรกคือ คนอายุ 15-34 ปี แต่ต่อไปเราจะไม่จำกัดอายุ และจะไปขยายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นกลุ่มแมส ที่อยู่จังหวัดไกลๆ

เรตติ้งทีวีไม่ใช่คำตอบเดียว

ตลอด 3 ปีที่ทำมา เรตติ้งของช่อง GMM25 (คนดูอายุ 15-34) จะอยู่ที่ .15 ปีนี้ (2560) ขยับมาอยู่ที่ .18 ซึ่งถือว่าน้อยมาก 

ดังนั้น วิธีการขายโฆษณาของช่องจึงต้องทำเป็น แพ็กเกจเป็นการซินเนอยี่กัน ระหว่างมีเดีย วิทยุ ทีวี พร้อมทั้งขายการไทอินสินค้าในรายการรวมถึงการใช้ เรตติ้ง” คนดูทีวีควบคู่ไปกับสถิติคนดูในโลกออนไลน์ ทั้งในยูทิวบ์และเฟซบุ๊ก

พี่ฉอด ยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้ ทำให้จีเอ็มเอ็ม25 แตกต่างไปจากการขายของช่องอื่นๆ และจัดการบริหารต้นทุนได้ดี

ถึงแม้ว่าช่องจีเอ็มเอ็ม25 จะมีเรตติ้งน้อยมาก ห่างไกลกับช่องเบอร์ต้นๆ มาก แต่ถ้าเราใช้เรตติ้งอย่างเดียว เราก็ไม่รอด เพราะเวลานี้คนดูสดและย้อนหลังออนไลน์ ผ่านมือถือ ซึ่งสถิติตรงนี้บอกชัดเจน เมื่อนำมาผสมกับรูปแบบการขายเป็นแพ็กเกจ ทำให้เราเติบโตไปได้

พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา

แม้ช่องยังขาดทุนอยู่และมีหลายสถานการณ์ที่เข้ามา ต้องเผชิญปัญหาที่ควบคุมไม่ได้สูงมาก แต่การได้ผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาก็น่าจะเห็นผลในปีหน้า

หลายคนมองว่า มีความยากลำบาก แต่การที่จีเอ็มเอ็ม25 สามารถหาผู้ลงทุนเข้ามาได้เป็นตัวสะท้อนว่า ด้วยรูปแบบการทำธุรกิจของเราทำให้ผู้ถือหุ้นใหม่มองเห็นโอกาสในการเติบโต และจะก้าวไปข้างหน้าได้อีกจึงเข้ามาลงทุน”