บริษัทวิจัย “โธธ โซเชียล” (Thoth Zocial) นำเสนอผลงานวิจัย การใช้ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว (cosmetic and personal care industry) ประจำปี 2560 พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเน้นการโพสต์เกี่ยวกับเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวในช่วงเวลาที่หลากหลายตลอดทั้งสัปดาห์ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก
ขณะที่ในช่องทางอินสตาแกรม จะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า คือส่วนใหญ่จะเน้นโพสต์กันในวันธรรมดา โดยช่วงเวลาที่สาวๆ จะขยันโพสต์กันมากที่สุด อยู่ในช่วง 17.00-18.00 น. วันจันทร์–วันพฤหัสบดี เป็นช่วงเวลาใกล้เลิกงาน เป็นไปได้ว่าคุณสาวๆ อาจต้องการเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองมากที่สุด ก่อนเดินทางกลับบ้าน
5 อันดับแรกของ “เครื่องสำอาง” ที่ได้คะแนน “โซเชียล สกอร์” สูงสุดประจำปี 2560 จากการจัดอันดับของ โธธ โซเชียล ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า คิวเพรส นำมาเป็นอันดับที่ 1 มี 51 คะแนน อันดับที่ 2 เมย์เบลลีน 42 คะแนน อันดับที่ 3 อีฟ แซงต์ โรรองต์ 39 คะแนน อันดับที่ 4 บิวตี้ บุฟเฟ่ต์ ช็อป 31 คะแนน และอันดับที่ 5 อาร์ทิสตี้ 30 คะแนน
ขณะที่ 5 อันดับแรกของ “ของใช้ส่วนตัว” ได้แก่ อันดับที่ 1 เคลียร์ 42 คะแนน อันดับที่ 2 แพนทีน 36 คะแนน อันดับที่ 3 เฮด แอนด์ โชลเดอร์ส 35 คะแนน อันดับที่ 4 ซันซิล 34 คะแนน และอันดับที่ 5 จอห์นสัน เบบี้ 31 คะแนน
เมื่อส่องดูเวปดังอย่าง “พันทิป” พบว่า หัวข้อเกี่ยวกับเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว ถูกโพสต์มากถึง 647,512 กระทู้ โดยแท็ก 5 อันดับแรกที่อยู่ในความสนใจมากที่สุด ได้แก่ อันดับที่ 1 #สุขภาพกาย อันดับที่ 2 #ความงาม อันดับที่ 3 #สกินแคร์ อันดับที่ 4 #สิว และอันดับที่ 5 #คลีนิคความงาม
โดยสาวๆ ในพันทิปต่างให้นิยามความสวยความงามว่า ความสวยและเครื่องสำอางต้องไปด้วยกันถึงจะเติมเต็มความสวยที่แท้ทรูได้ และมีไม่น้อยที่แสดงความเห็นว่าการมีรูปร่างที่ดีถึงแม้โครงหน้าอาจจะไม่เลอเลิศแต่ก็ช่วยขับความสวยให้มีออร่า
คำถามที่น่าสนใจคือแล้วทำไมผู้หญิงถึงอยากสวยกันล่ะ? คำตอบที่พอเดาได้คือ นอกจากสร้างความมั่นใจให้ตัวเองแล้ว การดูดีในสายตาเพศตรงข้ามก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน กลัวแฟนรักน้อยลง กลัวถูกต่อว่าว่าอ้วน กลัวถูกล้อเลียน และสารพัดความกลัว ถ้าตัวเองยังสวยไม่พอ
ผู้หญิงเข้าไปเกาะกุมพื้นที่ในเฟซบุ๊กมากกว่าผู้ชาย 1 เท่าตัว โดยผู้หญิงขยันโพสต์เกี่ยวกับเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว 66% ส่วนผู้ชายโพสต์เพียง 34%
เมื่อศึกษาต่อไปว่า ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่เขาเสิร์ชอะไรกันในยูทูป พบว่า ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผม 5 อันดับแรกที่อยู่ในความสนใจมากที่สุดคือ ทรงผม, วิธี, ทำผม, ผมม้าหน้าเต่อ และผมสั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งหน้า 5 อันดับแรกที่ผู้บริโภคไม่ยอมพลาดก็คือ รีวิว, เมคอัพ, แป้ง, fifty shades darker (หนังภาคต่อของ fifty shades of grey-เอ๊! ยังไง?) และสอนแต่งหน้า
ของรักของหวงของคุณสาวๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่นำโด่งมาเป็นอันดับที่ 1 คือ ลิปสติก รองลงมาคือ แป้ง, รองพื้น, ครีมบำรุงและเขียนคิ้ว
โดยสีโปรดของผู้หญิง ได้แก่ สีแดง 68.4% สีน้ำตาล 20.6% และสีพีช 11%
ส่วนคุณสมบัติของของใช้ส่วนตัวที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญคือ ชุ่มชื่น 51.0% กระจ่างใส 38.8% และ นุ่มลื่น 4.3%
3 อันดับแรกของร่างกาย ที่คนสนใจดูแลมากที่สุด ได้แก่ ผิว 75% ผม 11% และ หน้า 5%
เวลาผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกเครื่องสำอางหรือของใช้ส่วนตัว 3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือ แบรนด์ 42.5% แพง 26.8% ความหอม 20.3%
เวลาพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางจะมีมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค โดยแบรนด์มักจะชอบพูดถึงโปรโมชั่นราคาและการซื้อ ขณะที่ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับอารมณ์ความชอบมากกว่า
แต่ถ้าเป็นของใช้ส่วนตัวจะมีมุมมองที่ไปด้วยกันได้มากกว่าระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่จะพูดถึงคุณสมบัติของสินค้าการแก้ปัญหาและผลลัพธ์ที่ได้
ชาวโซเชียลนิยมแท็กและค้นหากลุ่มคำในหมวดเครื่องสำอางโดยหัวข้อที่อยู่ในความสนใจมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ ความงาม, แต่งหน้า, สกินแคร์, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และแฟชั่น โดยกระทู้ที่ได้รับการแชร์มากที่สุดคือ ความงาม ความสำอาง 7,106 แชร์ แต่งหน้า 4,635 แชร์ และสกินแคร์ 4,279 แชร์
ผู้บริหารระดับสูงทางด้านดิจิทัล บริษัท เจ.วอลเตอร์ ทอมป์สัน เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจโฆษณา ชี้ว่า ทุกวันนี้กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณามาจาก 3 องค์ประกอบหลักคือ 1. ข้อมูลเชิงลึกจากบิ๊กดาต้า 2. ความคิดสร้างสรรค์ และ 3. เทคโนโลยี
“ข้อมูลเชิงลึกจะนำไปสู่การสร้างสรรค์ไอเดียที่บรรเจิด เพราะไอเดียคือแหล่งทำเงิน เป็นหัวใจของการทำธุรกิจโฆษณา ท่ามกลางบทบาทของเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนจากสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ฉะนั้นแล้วความเคลื่อนไหวทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนสื่อสังคมออนไลน์วันนี้ มันไม่ใช่แค่การโพสต์ การกดไลค์ หรือการแชร์บอกต่อกันอีกต่อไป แต่สามารถเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้”
และสำหรับนักการตลาดในแวดวงเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวแล้ว การทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านหลากหลายมุมมองเล็กๆ แต่มากมายบนโลกโซเชียล ถือเป็นบิ๊กดาต้าชั้นดีที่สามารถนำมาสกัดให้เป็นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จทางธุรกิจ