‘เฮลซ์บลูบอย’ วันวานยังหวานอยู่

คงมีคนไม่น้อยที่เติบโตมากับน้ำหวาน ‘เฮลซ์บลูบอย’ หลากสีในขวดแก้วใสทรงสูง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไม ? น้ำหวานหลากสียี่ห้อนี้ ยังคงรักษามาตรฐานขวดแก้วเดิมๆ ไม่เปลี่ยนตัวเองไปตามสมัยนิยม แถมยังยืนหยัดอยู่ท่ามกลางน้ำอัดลม น้ำผักผลไม้ น้ำชาเขียว นม และอีกสารพัดน้ำ ที่เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย

ประยุทธ พัฒนะอเนก ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 2 กลุ่มของน้ำหวาน ตรา “เฮลซ์บลูบอย” ถอดรหัสนี้กับ “ผู้จัดการ SME ว่า อย่างแรก ความยากของการถนอมรักษาความหวานนั้น อยู่ที่การควบคุมคุณภาพของ “น้ำตาล” การใช้ขวดแก้วจะทำให้คุณภาพของน้ำตาลอยู่ได้คงทนกว่าขวดพลาสติก โดยขวดแก้วนั้นจะเก็บรักษาความหวานไว้ได้นานสูงสุด 2-5 ปี ขณะที่ขวดพลาสติกเก็บไว้ได้เพียงแค่ 1 ปี

ประยุทธ พัฒนะอเนก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นทายาทรุ่น 2 ของน้ำหวาน ตรา “เฮลซ์บลูบอย”

ตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เฮลซ์บลูบอย จำหน่ายสินค้าเพียงแค่ 2 ชนิดเท่านั้น คือ น้ำหวาน กับ น้ำตาลก้อน โดยน้ำหวานจะมีด้วยกัน 9 กลิ่นอมตะนิรันดร์กาล คือ สละ ครีมโซดา สับปะรด องุ่น สตรอเบอร์รี่ แคนตาลูป ซาสี่ มะลิ และกุหลาบ ไม่มากไปกว่านี้ และไม่น้อยไปกว่านี้

“เรามีสินค้าแค่ 2 ประเภท เพราะเป็นสินค้าที่เราถนัด ความมีน้อยชิ้นทำให้บริษัทสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงและแบรนด์ก็แข็งแรงเพราะสะสมความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนานจนลูกค้าจดจำได้เมื่อนึกถึงน้ำหวานก็นึกถึงเฮลซ์บลูบอย”

ทำไมเฮลซ์บลูบอยถึงอยู่คู่สังคมไทย ? คำตอบเรียบง่ายก็คือ น้ำหวานเป็นสินค้าบริโภคในครัวเรือน กำไรต่อหน่วยน้อย ยอดขายก็ไม่ได้หวือหวามากนัก พวกธุรกิจขาใหญ่จึงไม่ค่อยให้ความสนใจ ส่วนใหญ่ไปผลิตกันเป็นล็อตใหญ่ส่งป้อนโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้การแข่งขันในธุรกิจน้ำหวานไม่รุนแรงและแทบจะไม่มีรายใหญ่ลงมาชิงชัย ขณะที่ทางเฮลซ์บลูบอยเองก็ไม่มีความถนัดในการทำตลาดสินค้าอุตสาหกรรมเท่ากับสินค้าอุปโภคบริโภค จุดยืนที่ชัดเจนในตลาดที่หวือหวา ทำให้แบรนด์นี้สามารถส่งต่อความเชื่อมั่นจากรุ่นสู่รุ่น

เฮลซ์บลูบอยกำหนดบทบาทตัวเอง เป็นสินค้าต้นทางที่สามารถนำไปประยุกต์เมนูเครื่องดื่มต่างๆ ได้หลากหลาย จึงจับตลาดได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ร้านน้ำแข็งไสริมทาง ราคาหลัก 10-20 บาท จนถึงปังเย็นภูเขาไฟ ภูเขาไฟบราวนี่ ปังเย็น และอีกสารพัดภูเขาไฟที่ใช้น้ำหวานยี่ห้อนี้เป็นส่วนประกอบราคาเฉียดร้อย

รวมถึงเซกเมนต์ขนมหวาน เบเกอรี่ และเครื่องดื่มผสมโซดา ดูเผินๆ เหมือนธุรกิจน้ำหวานจะเป็นตลาดเล็กๆ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วน้ำหวานขวดใสทรงสูงนี้ สามารถไปเกณฑ์ส่วนแบ่งในธุรกิจของหวานได้แบบใสๆ เย็นๆ

การขยายตัวอย่างรวดเร็วของห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เฮลซ์บลูบอยผลิตขายแทบไม่ทัน แผนการไปโตต่างประเทศจึงต้องพับไว้ก่อน แต่ไม่กี่ปีมานี้เมื่อการขยายห้างเริ่มถึงจุดอิ่มตัว ทำให้บริษัทหยิบเอาแผนขยายไปต่างประเทศมาศึกษาต่อ โดยเริ่มส่งออกไปยังตลาดอเมริกาและยุโรปในปี 2558 แล้วมาขยายตลาดใกล้บ้านแถบอาเซียนและจีนในปี 2559 มาปีนี้ 2560 ก็ทดลองขยายตลาดไปอินเดีย โดยชูธงว่าเป็นน้ำหวานอันดับ 1 ของเมืองไทย (Number 1 syrup in Thailand)

พร้อมกับตั้งเป้าว่า ที่ใดต้องการน้ำหวาน เฮลซ์บลูบอยจะไปเปิดตลาด จะขายได้มากได้น้อยไม่เป็นไร ขอให้คนได้รู้จักแบรนด์ และรับรู้ว่ามียี่ห้อนี้เป็นอีกทางเลือก

นำไปวางขายในร้านสินค้าไทยในประเทศสหรัฐฯ

เฮลซ์บลูบอย เป็นธุรกิจ low profile high profit ผู้บริหารชอบทำตัวติดดิน ไม่อยากเป็นข่าว และไม่ชอบเห็นตัวเองออกสื่อ แนวทางการทำธุรกิจแบบอนุรักษ์นิยม เน้นปลอดภัยไม่โลดโผน

“ปรัชญาการทำธุรกิจของครอบครัวคือซื่อสัตย์ยุติธรรมและมีคุณธรรมแต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ต้องทำให้ได้จริงและอยู่ในสำนึกเสมอในความเป็นจริง ธุรกิจน้ำหวานเป็นตลาดที่มีข้อจำกัด แต่ละปีเติบโตเพียงเล็กน้อย แต่ก็โตไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร จึงเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ” ประยุทธกล่าว

ข้อคิดการทำธุรกิจแบบ small is beautiful สำหรับเฮลซ์บลูบอย คือ ธุรกิจก็เหมือนชีวิต ทุกก้าวจังหวะที่เติบโต เปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ อย่างมั่นคงและแข็งแรง ถ้าคุณพอใจชีวิตแบบนี้ มันก็มีความสุข แต่ถ้าคุณไม่พอใจ อยากโต อยากยิ่งใหญ่ให้ได้มากกว่านี้ เวลาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นมา ก็ต้องกล้ายึดอกแบกรับความเสี่ยง

ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าเฮลซ์บลูบอยจะเอาตัวรอดได้ทุกเรื่อง ช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำมากๆ บริษัทก็เจอผลกระทบไปเต็มๆ แต่ก็พยายามประคองตัว เก็บไว้เป็นบทเรียน และเปลี่ยนวิธีใหม่ เลือกที่จะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ถามว่าเรามีเงินกู้มาขยายกิจการไหม? มี แต่เราเลือกที่จะกู้อย่างมีสติ สมเหตุสมผล เอาเงินมาต่อท่อขยายกิจการจริงๆ ไม่ได้เอามาใช้ผิดประเภท

ทายาทรุ่นที่ 2 กล่าว

จากวันวานทำธุรกิจให้ยังคง ‘หอมหวาน’ อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ มีไม่กี่ธุรกิจที่ทำได้ และ ‘เฮลซ์บลูบอย’ ก็เป็นหนึ่งในนั้น


ที่มา : manager.co.th/Smes/ViewNews.aspx?NewsID=9590000112081