ทำไมกูเกิลต้องขายกล้อง?

จุดเด่นของ Google Clips คือความสามารถจับภาพทุกสิ่งทุกอย่างในมุมมอง ก่อนจะพึ่งพา AI เพื่อตัดสินใจว่าอะไรและใครที่สำคัญกับผู้ใช้ ทำให้ AI รู้ว่าเวลาใดคือเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอ

ไม่ใช่แค่กล้อง แต่คำถามคาใจชาวโลกวันนี้คือทำไมเจ้าพ่อเสิร์ชเอนจิ้นจึงหันมาขายลำโพง สมาร์ทโฟน และหูฟังอย่างจริงจังกว่าเดิม? หนึ่งในคำตอบที่ชัดเจนคือเพราะอุปกรณ์เหล่านี้สามารถทำงานร่วมกับระบบผู้ช่วยส่วนตัว “กูเกิลแอสซิสแทนต์” (Google Assistant) ระบบที่กูเกิลบอกว่าจะใช้เป็นถนนสายหลักในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) มาสู่ทุกคน

กองทัพอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ที่กูเกิลเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา มีทั้งสมาร์ทโฟนใหม่ 2 รุ่น, แล็ปท็อปกึ่งแท็บเล็ต, หูฟังไร้สาย ลำโพงอัจฉริยะ 2 รุ่น และกล้องดิจิทัล ทั้งหมดเป็นสินค้าตระกูลพิกเซล (Pixel) กลุ่มสินค้าไอทีสำหรับผู้บริโภคของกูเกิล ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS หรือ Android

สิ่งที่กูเกิลทำใน Pixel รุ่นใหม่คือการนำปัญญาประดิษฐ์ที่กูเกิลรวมมาจากบริการที่ลือลั่นของตัวเอง ทั้งเครื่องมือค้นหาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย บริการ Gmail, แผนที่, เว็บเบราเซอร์ และบริการอื่น มาใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการพัฒนาสินค้าไอทีหลายชนิด จนเกิดเป็นหูฟังไร้สายที่สามารถแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้ 40 ภาษา กล้องไร้สายที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยถ่ายภาพและวิดีโออัตโนมัติ ทำให้ระบบสามารถสังเกตช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจับภาพ 

ยังมีลำโพงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เล่นเกมกับทุกคนในบ้านได้ รวมถึงแล็ปท็อปใหม่ที่ทำงานร่วมกับปากกาซึ่งมีปุ่มกดเพื่อเปิดระบบผู้ช่วยส่วนตัว และโทรศัพท์ Pixel รุ่นใหม่ที่หลายสำนักวิเคราะห์อาจจะเป็นหนามตำใจ iPhone X ชิ้นโต

กองทัพลำโพง สมาร์ทโฟน กล้องดิจิทัล และหูฟังรุ่นล่าสุดของกูเกิล

จับตา Pixel 2 และ Pixel 2 XL 

เหตุที่ทำให้โลกจับตาดูสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของกูเกิลอย่าง Pixel 2 และ Pixel 2 XL คือเพราะกูเกิลตกลงเงินอัดฉีดธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตัวเองด้วยการใช้เงินจำนวน 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อดูดวิศวกรของเอชทีซี (HTC) กว่า 2,000 รายที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เคลื่อนที่มาสู่กูเกิล โดยกูเกิลยังได้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอื่นไว้ในมือด้วย

สำหรับ Pixel 2 และ Pixel 2 XL แม้ว่าจะได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน แต่โทรศัพท์มือถือ Pixel รุ่นใหม่ของกูเกิลที่มีลำโพงหน้าเครื่อง ก็ถูกมองว่าไม่ได้มีนวัตกรรมใหม่ทั้งหมด เพราะยังเดินตามอุปกรณ์ที่แอปเปิลและแอมะซอนผลิตขึ้น ทั้งหมดนี้ กูเกิลเชื่อว่าบริการของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือพลังของ AI จะทำให้สินค้ากลุ่ม Pixel สามารถมีจุดยืนเหนือคู่แข่งได้

สำหรับ Pixel 2 สมาร์ทโฟน Pixel รุ่นใหม่มีขนาดและการออกแบบไม่ต่างจากรุ่นปีที่แล้ว รุ่นความจุ 64GB เริ่มต้นที่ 649 เหรียญสหรัฐ (ราว 21,700 บาท) ต่ำกว่า iPhone 8 ราว 50 เหรียญ ขณะที่รุ่น 128GB เริ่มต้นที่ 749 เหรียญหรือประมาณ 25,000 บาท 

Pixel 2 ใหม่จะมี 3 สี ได้แก่ ขาวใส, สีดำ และสีฟ้าอ่อน โดยรุ่นสีฟ้าจะมีปุ่มสีฟ้าใสที่ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ทั้งหมดนี้ Pixel 2 มีหน้าจอขนาด 5 นิ้วเทคโนโลยี Amoled มีลำโพงด้านหน้าเครื่อง มีคุณสมบัติชื่อ “active edge” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้บางแอปพลิเคชันด้วยการบีบเครื่อง กำหนดการจัดส่งคือ 17 ตุลาคมนี้

Pixel 2 เทียบกับ Pixel 2 XL
แทนที่จะใช้กล้องสองตัวเพื่อถ่ายภาพบุคคลที่ดีขึ้น กูเกิลเลือกใช้ซอฟต์แวร์ AI ให้ Pixel รุ่นใหม่ปรับภาพอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มระยะใกล้และพื้นหลังเบลอ

ขณะที่ Pixel 2 XL ถูกยกเป็น Pixel 2 ที่มีหน้าจอใหญ่กว่าเป็น 6 นิ้ว คุณสมบัติทุกอย่างใน Pixel 2 XL มีไม่ต่างจาก Pixel 2 มีโหมดถ่ายภาพบุคคลหรือ portrait อีกหนึ่งฟีเจอร์ยอดนิยมบน iPhone 7 และ iPhone 8 ที่เพิ่งเปิดตัว แต่แทนที่จะใช้กล้องสองตัวเพื่อถ่ายภาพบุคคลที่ดีขึ้น กูเกิลเลือกใช้ซอฟต์แวร์ AI ที่ปรับภาพอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มระยะใกล้และพื้นหลังเบลอ

Pixel 2 XL สามารถชาร์จไฟได้รวดเร็ว กันน้ำได้ และมีขอบจอที่เพรียวบางกว่า Pixel 2 มีให้เลือกเพียงสีดำหรือขาว ราคาเริ่มต้นที่ 849 เหรียญ (ราว 28,400 บาท) สูงกว่า iPhone 8 Plus ราว 50 เหรียญ 

หูฟังแปลภาษา

นอกจากสินค้าใหม่อย่าง Google Home Mini ลำโพงสำหรับบ้านอัจฉริยะขนาดเล็กที่มีระบบผู้ช่วยส่วนตัวอยู่ภายใน หรือ Google Home Max ลำโพงรุ่นใหญ่ที่กูเกิลส่งมาตอบโจทย์ตลาดลำโพงอัจฉริยะซึ่งต้องการคุณภาพเสียงสุดยอด กูเกิลยังเปิดตัวหูฟังไร้สายที่เรียกว่า Pixel Buds ซึ่งไม่เพียงถ่ายทอดเสียงจากโทรศัพท์ หูฟังนี้ยังสามารถแปลภาษาพูดได้แบบเรียลไทม์ โดยทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์แปลภาษาที่สร้างขึ้นใหม่

เมื่อ Pixel Buds ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน Pixel ระบบ Google Assistant จะสามารถแปลทั้งภาษาฝรั่งเศส ฟินนิช และอิตาเลียน ผู้ใช้สามารถเอ่ยปากพูดว่า “Help me speak French” (ช่วยฉันพูดภาษาฝรั่งเศสหน่อย) หรือเอ่ยปากพูดคำภาษาอังกฤษใดก็ได้ที่อยากให้ปรากฏเป็นคำบนหน้าจอสมาร์ทโฟน Pixel

เมื่อ Pixel Buds ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน Pixel ระบบ Google Assistant จะแปลภาษาบนหน้าจอสมาร์ทโฟน

ระบบ Google Assistant ยังสามารถทำงานกับคำถามเช่น “OK, Google, how do you say ‘Hello’ in Korean?” (โอเค กูเกิล เราจะพูดคำว่าสวัสดีเป็นภาษาเกาหลีได้อย่างไร?) ด้วย ทั้งหมดนี้กูเกิลถือว่าชนะระบบสิริ (Siri) ของแอปเปิลที่แปลได้เพียง 5 ภาษาเท่านั้นบน iOS 11 ในขณะนี้ เนื่องจากกูเกิลทำได้ 40 ภาษา

ตามเป้าผู้นำ AI

สิ่งที่เราสามารถสรุปได้จากความคืบหน้าล่าสุด คือจุดยืนของกูเกิลเรื่องการเป็นบริษัทที่เน้นทำธุรกิจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์เป็นหลัก ทั้งหมดนี้กูเกิลยืนยันว่า Google Assistant คือหัวใจของการทำให้เป้าหมายนี้เป็นจริง

ดังนั้น Google Assistant จึงไม่ปล่อยให้ใครแซงหน้าไป ด้วยการไล่ตาม Siri ให้บริการเสียงทั้งชายและหญิง ล่าสุดผู้ใช้ Google Assistant สามารถเลือกเสียงตอบเป็นเสียงผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ โดยสามารถตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน Google Assistant จากอุปกรณ์ Android และ iOS เบื้องต้นเสียงผู้ชายจะให้บริการในสหรัฐอเมริกาก่อนในขณะนี้

ยังมี Pixelbook แล็ปท็อปล่าสุดที่สามารถใช้งานได้ 2 แบบแล็ปท็อป-แท็บเล็ตในเครื่องเดียว โดย Pixelbook สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างปากกา Pixelbook Pen ซึ่งบนปากกาจะมีปุ่มสำหรับเรียกระบบผู้ช่วย Google Assistant ทำให้หากผู้ใช้วาดภาพวงกลมรอบสิ่งใดบนหน้าจอขณะที่กดปุ่ม ระบบของกูเกิลจะค้นหาทันทีว่าสิ่งที่ถูกวงกลมไว้นั้นคืออะไร

Pixelbook สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างปากกา Pixelbook Pen ซึ่งบนปากกาจะมีปุ่มสำหรับเรียกระบบผู้ช่วย Google Assistant

ยิ่งถ่ายมาก ยิ่งใช้นาน กล้อง Google Clips จะยิ่งฉลาดขึ้น

อีกสิ่งที่ตอกย้ำว่า กูเกิลต้องการใช้ AI เป็นจุดขายในสินค้าไอทีของตัวเอง คือกล้อง Google Clips กล้องแฮนด์ฟรีที่ผู้ใช้สามารถวางได้ไม่ต้องถือนี้จะถ่ายภาพและวิดีโอโดยอัตโนมัติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บภาพช่วงเวลาที่ประทับใจกับครอบครัว เพื่อน และสัตว์เลี้ยง

จุดเด่นของ Google Clips คือความสามารถจับภาพทุกสิ่งทุกอย่างในมุมมอง ก่อนจะพึ่งพา AI เพื่อตัดสินใจว่าอะไรและใครที่สำคัญกับผู้ใช้ ทำให้ AI รู้ว่าเวลาใดคือเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอ ผู้ใช้กล้องสามารถควบคุมภาพที่ต้องการถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์อื่นหรือแชร์กับคนอื่นได้อย่างสมบูรณ์

กล้อง Clips มีค่าใช้จ่าย 249 เหรียญสหรัฐฯ (8,300 บาท) กำหนดจำหน่ายคือ “เร็ววันนี้” ซึ่งอาจเป็นเร็ววันที่กูเกิลจะส่ง AI มามีอิทธิพลกับโลกได้สำเร็จ.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000102069