เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ที่มี “รายได้” อันดับ 1 ของเมืองไทย ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศแต่งตั้ง “สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์” เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และ “ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล” เป็น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินกลุ่ม
โดย “ไตรทิพย์” เป็นอดีตขุนคลังของ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ส่วน “สุพัตรา” นั้นเป็น “มือดีการตลาด” ที่คร่ำหวอดในแวดวงตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคและเป็นลูกหม้อองค์กรยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “ยูนิลีเวอร์” มาอย่างยาวนาน 22 ปี โดยตำแหน่งสูงสุดที่ได้รับคือ “ประธานกรรมการบริหาร” กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และตำแหน่งล่าสุดก่อนลาออก คือ ประธานที่ปรึกษา บริษัท ยูนิลิเวอร์
เคยผ่านงานทั้งในไทยและในระดับภูมิภาคมาค่อนข้างหลากหลาย ผลงานที่สร้างชื่อให้กับ สุพัตรา คือ การนำ “ไอศกรีมแม็กนั่ม” ให้กลับมาแจ้งเกิดอีกขึ้น ผ่านการใช้เซเลป และโซเชียล มีเดียอย่างเห็นผล และผลักดันให้คนอร์เติบโตรั้ง “เบอร์ 1” ในตลาดรวมถึงการพลิกฟื้นแบรนด์บรีสในประเทศมาเลเซีย จากที่เดินเกมการตลาดผิดพลาดจน “เสียท่า” ขาดทุนให้กลับมาเติบโตและมีกำไรได้อย่างรวดเร็ว
เธอยังได้รับเลือกให้เป็น “นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย” ซึ่งมีนโยบายขับเคลื่อนสมาคมให้รับกับยุคดิจิทัลเต็มสูบ โดยก่อนจะขึ้นมารับตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม สุพัตรา ได้รับเลือกให้ก็ 1 ใน 9 “กรรมบริหาร” ของกลุ่มพฤกษา มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้
การข้ามห้วยจาก “คอนซูเมอร์” เข้ามาสู่ “อสังหาริมทรัพย์” เต็มตัว ครั้งนี้ “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บอกว่า ได้รู้จักและชักชวน “สุพัตรา” มาร่วมงานกับพฤกษาเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมาแล้ว และการตกปากรับคำมาร่วมงานครั้งนี้ ต้องการให้มาดูแลเรื่อง “กลยุทธ์” และ “การสร้างแบรนด์” ให้กับบริษัท
ที่สำคัญคือสร้างองค์กรให้ “เติบโตอย่างยั่งยืน” เป็นองค์กร 100 ปี เฉกเช่น เอสซีจี และยูนิลีเวอร์(87 ปี) ด้วยความเป็นมืออาชีพ มากกว่าจะมองแค่พฤกษา เป็นของ “เถ้าแก่ทองมา” เท่านั้น โดยการทำงานของสุพัตรา จะใกล้ชิดกับและเป็นรองเพียงตนด้วย
“สุพัตราจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนงานด้านกลยุทธ์ การตลาด เรื่องแบรนด์ และความยั่งยืน เพราะวันนี้พฤกษา ได้ปรับโครงสร้างองค์กรเป็นโฮลดิ้ง คัมปะนี มีการขยายธุรกิจที่หลากหลาย จึงต้องการให้องค์กรมีความยั่งยืน ส่วนการดึงไตรทิพย์เข้ามา ก็เพื่อเสริมแกร่งด้านการเงินมากขึ้น”
สอดคล้องกับ “ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ขยายความว่า การเข้ามาของ “สุพัตรา” จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแบรนด์องค์กรหรือCorporate brand
“พฤกษาได้มุมมอง และมิติการทำตลาดใหม่ๆ เพื่อสอดรับกับยุคดิจิทัล และการทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะเป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงต้องการฉีกกฎเดิมๆ (Break through) ในสิ่งที่เป็นปัจจุบันให้ได้ เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว องค์กรต้องทันต่อสถานการณ์หรือ Up to date”
ยิ่งทุกวันนี้ อสังหาริมทรัพย์แข่งขันสูง การสร้างแบรนด์จำเป็นต่อการขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาว เวลานี้ พฤกษา ขยับปรับเปลี่ยนองค์กรเป็น “โฮลดิ้ง” ซึ่งจะมีการรุกธุรกิจอื่นๆมากขึ้น เช่น ธุรกิจโรงพยาบาล ไม่แค่อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงานอีกต่อไป จึงต้องมีการวางแผนการเงินที่รัดคุม พร้อมกับสร้างแบรนด์เข้มข้นขึ้น โดยแต่ละปีพฤกษาใช้งบประมาณในการทำตลาดและสร้างแบรนด์เป็นร้อยล้านบาท
นอกจากนี้ เรื่องการเงิน การตลาด พฤกษายังให้ความสำคัญเรื่องคน เพราะเชื่อว่า ธุรกิจจะเติบโตได้ก็ด้วย “คน” ดังนั้นจึงไม่มองคนเป็น “ทรัพยากร” ที่ใช้แล้วหมดไป แต่มองเป็นทุนหรือ Human capital ที่นำมาต่อยอดสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับองค์กร
สำหรับบมจ.พฤกษา มีรายได้ครึ่งปี 2560 อยู่ที่ 20,621.11 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,425.28 ล้านบาท จากปี 2559 มีรายได้รวม 47,173.24 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,940.29 ล้านบาท
ที่ผ่านมา ผู้บริโภคมักกล่าวถึงแบรนด์พฤกษาใน “แง่ลบ” ค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่พัฒนาที่อย่อาศัยระดับแมส ราคาจับต้องได้ และปริมาณการส่งมอบที่อยู่อาศัยถึงลูกบ้านจำนวนมาก สัดส่วนการถูกผู้บริโภคกล่าวถึงในด้านลบจึงอยู่ในระดับสูงตามไปด้วย ดังนั้น ต้องถือเป็นงานหนักของ “สุพัตรา” ที่จะมานำพาองค์กรแห่งนี้ “ฝ่าโจทย์” ดังกล่าวไปได้แค่ไหน ต้องติดตาม!.