เป็นที่รู้กันในแวดวงสื่อว่ายักษ์ค้าปลักสัญชาติอังกฤษอย่าง “เทสโก้” ไม่เคยเผยตัวเลข “รายได้” หรือยอดขายในประเทศไทยมากนัก แม้กระทั่งอัตราการเติบโตที่เป๊ะๆ
สำหรับ “เทสโก้ โลตัส” เป็นห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ที่ดำเนินการโดย บริษัท เอก–ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด มีห้างค้าปลีกทุกรูปแบบให้บริการประมาณ 1,900 ทั่วประเทศ ครอบคลุม 73 จังหวัดทั่วไทยจาก 77 จังหวัด ทว่า เป้าหมายปี 2560 บริษัทต้องการลุยเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 100 สาขา เพื่อให้ครบ 2,000 สาขาในสิ้นปีนี้
ส่วน “บิ๊กซี” ที่เพิ่งเปลี่ยนมือมาอยู่ใต้อาณาจักรของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” โดยดำเนินงานภายใต้บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด ในเครือ “เบอร์ลี่ ยุคเกอร์” หรือ บีเจซี
การขับเคี่ยวของทั้ง 2 ค่ายโมเดิร์นเทรด ต้องบอกว่า “แลกกันหมัดต่อหมัด” ตลอดเวลา ถ้าเทสโก้ โลตัสปล่อยแคมเปญการตลาด หรือโปรโมชั่นหั่นราคา อีกค่ายก็ลุยแหลกไม่แพ้กัน การตัดคูปองบนหน้าหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้าที่ผ่านมาเรียกว่าดุเดือดกันมาก ค่ายไหนปล่อยโฆษณา อีกค่ายก็ต้องมีให้เห็น “ชิงไหวชิงพริบ” เพื่อ “ชิงลูกค้า” กันทุกจุด
และล่าสุดคงเป็น “อาหารสด” ที่ “เทสโก้ โลตัส” ทำตลาดหนักและเป็นกลยุทธ์ชูโรง อาศัยศักยภาพด้านการพัฒนาซัพพลายเชนวัตถุดิบอาหารสดจากไร่จนถึงมือผู้บริโภคเป็นตัวขับเคลื่อน ฟาก “บิ๊กซี” ก็โฟกัสอาหารสดเช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อการันตีคุณภาพ ยังเดินหน้าขยายสาขาเพิ่ม เพื่อหวังให้การขนส่งสินค้าและขาช้อปปิ้งสามารถมาซื้อสินค้าภายในห้างระยะเวลาสั้นลง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
มาดูกันว่าการแข่งขันที่รุนแรงของทั้ง 2 ฝั่งรายได้ใครเป็นยังไง
“เทสโก้ โลตัส” โดยเอก–ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม ข้อมูล ณ 23 ต.ค. 2560 มีรายได้รวมกว่า 218,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.83% จากปีก่อนมีรายได้รวมกว่า 208,119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.25% จากปี 2558 มีรายได้รวมกว่า207,602 ล้านบาท
ส่วนกำไรสุทธิ ณ 23 ต.ค. 2560 มากกว่า 9,117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.58% จากปี 2559 มีกำไรสุทธิกว่า 8,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.20% จากปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิกว่า 4,695 ล้านบาท ติดลบ 48.34%
ฝั่ง “บิ๊กซี” โดยบิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ ยังไม่แจ้งงบปี 2560 แต่รายได้ปี 2559 มากกว่า 119,979 ล้านบาท ลดลง 10.24% จากปี 2558 มีรายได้รวมกว่า 133,669 ล้านบาท ลดลง 1.20%จากปีก่อนหน้า
ด้านกำไรสุทธิปี 2559 มากกว่า 5,213 ล้านบาท ลดลง 21.19% จากปี 2558 มีกำไรสุทธิกว่า 6,615 ล้านบาท ลดลง 8.29% จากปีก่อนหน้า
แค่ 2 บิ๊กค้าปลีกเรียกว่า “กินรวบ” ตลาดกว่า 3 แสนล้านบาทกันเลยทีเดียว!!.