คงจะดีไม่น้อยถ้าพนักงานหน้าร้านรู้ว่า ลูกค้าที่กำลังเดินเข้ามาเป็นใครมาจากไหน ข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้กำลังจะถูก Facebook อาสาเป็นผู้จัดให้ ผ่านระบบกล้องอัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์ใบหน้า แล้วแสดงรายละเอียดประวัติหรือโปรไฟล์ของลูกค้าให้พนักงานร้านค้าได้ทันที
ต้องบอกว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สะท้อนรูปแบบร้านค้าปลีกในอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนไป เพราะสื่ออเมริกันอย่าง The Times ฟันธงว่า Facebook กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้ร้านค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการลูกค้า ชนิดที่แบรนด์ไม่เคยทำได้มาก่อน
ที่ฟันธงเช่นนี้เพราะ Facebook ใช้วิธีพัฒนาระบบกล้องดิจิทัลที่มีเทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้า ซึ่งจะสามารถจับคู่ข้อมูลใบหน้าของลูกค้า เข้ากับข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้ Facebook ที่มีมากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกในขณะนี้
เบื้องต้น รายงานจาก The Times ใช้คำว่า “high end shops” ซึ่งเป็นร้านค้าระดับหรูหราที่ต้องการยกระดับงานบริการลูกค้าอยู่แล้ว โดยซอฟต์แวร์วิเคราะห์ใบหน้าจะถูกเชื่อมกับระบบกล้องในร้านค้ากลุ่มนี้ เพื่อให้พนักงานสามารถทราบข้อมูลเบื้องลึกของลูกค้ามากขึ้น
ก่อนหน้านี้ Facebook เคยตกเป็นข่าวว่าได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีวัดอารมณ์ผู้ใช้และประเมินทางเลือกของแบรนด์ที่จะทำให้ผู้ใช้พอใจสูงสุด โดยนำข้อมูลโปรไฟล์บน Facebook มาประยุกต์กับเทคโนโลยีการสแกนฝูงชน เพื่อให้เกิดเป็นข้อมูลที่ธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดได้
จุดนี้ รายงานจาก The Times ชี้ว่า Facebook ระบุในเอกสารขอจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีว่าบริษัทต้องการให้ “ผู้บริโภคที่เดินทางไปจับจ่ายในร้านค้าปลีกดั้งเดิม” ได้รับการบริการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าหากทำได้ เทคโนโลยีเหล่านี้จะโดนใจแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก
รายงานนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่า Facebook กำลังพยายามต่อยอดธุรกิจจากเทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้าที่ตัวเองมี โดยข่าวล่าสุดชี้ว่า Facebook กำลังพัฒนาระบบวิเคราะห์ใบหน้าให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินได้ที่ร้านค้าอย่างสะดวก แต่ก็ยังไม่มีการเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการ
สำหรับสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่ Facebook เพิ่งยื่นขอเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา The Times รายงานว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถกำหนด “เป้าหมายผู้ซื้อ” ด้วย “สินค้าเฉพาะทาง”โดยอิงจากกิจกรรมบน Facebook และการแสดงออกทางสีหน้าของแต่ละคน โดยเอกสารยังให้รายละเอียดของเทคโนโลยีการสแกนฝูงชนที่สามารถระบุอารมณ์ ซึ่งจะถูกส่งต่อไปยังผู้จัดการและผู้ช่วยในร้านค้า จุดนี้ในทางทฤษฎี พบว่าจะสามารถแจ้งเตือนพนักงานให้ทราบได้หากลูกค้ากำลังไม่พึงพอใจ หรือต้องการความช่วยเหลือ
ฟังแบบนี้ แบรนด์เตรียมควักกระเป๋าจ่ายเงินตั้งแต่ตอนนี้เลยดีไหม.