5 ไอเดียสร้างแบรนด์ให้สตรองในแบบ Jo Malone

Jo Malone London หนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่สร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์อันสวยงามและเรียบหรูที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันดีจุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่การผสมกลิ่นหอมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมราคาแพง เทียนหรูหราและผลิตภัณฑ์อาบน้ำ

แบรนด์สัญชาติอังกฤษรายนี้มีสาขามากกว่า 22 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต้องยกให้  ผู้ผสมน้ำหอม (Perfumer) ชาวอังกฤษ ที่เชี่ยวชาญด้านกลิ่นหอม แม้จะมีประสบการณ์ด้านการตลาดเพียงเล็กน้อย แต่ โจ มาโลน กลับสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และสร้างแบรนด์สำเร็จถึง 2 แบรนด์ นั่นคือ Jo Malone London และ Jo Loves. S   

โดยที่แม้ไม่มีกลยุทธ์การตลาดใดๆ ในช่วงเริ่มต้น เพียงแค่นำประสบการณ์ที่เคยช่วยคุณพ่อขายของในวัยเด็กมาต่อยอดสร้างแบรนด์ของตัวเอง ภายใต้แนวทางการขายที่แตกต่างออกไปจากแบรนด์อื่น   

เธอเผยเคล็ดลับว่า เรื่องราวและวิธีการขายของนั้นสำคัญไม่แพ้ผลิตภัณท์ที่วางขาย

พร้อมกับเชื่อว่ามีสิ่งสำคัญ 5 ประการที่นักการตลาดต้องจดจำไว้หากต้องการสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จนั่นคือ

5 I ได้แก่ inspiration (แรงบันดาลใจ) innovation (นวัตกรรม) integrity (การสะท้อนคุณค่าที่แท้จริง) ignition (การจุดประกาย) และ instinct (สัญชาตญาณ)โดยมีความหมายในแต่ละส่วน ดังนี้

Inspiration

ไม่ว่าแบรนด์นั้นจะถูกสร้างผ่านเรื่องราวในลักษณะใดก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องราวหรือเนื้อหาที่ถูกสร้างและนำไปสื่อสารต่อไปยังผู้บริโภคนั้น ต้องมีพลังและมีความน่าสนใจพอที่จะก่อเกิดความรู้สึกในด้านบวกและจะมีผลให้ผู้บริโภคเกิดความรักและภักดีต่อสินค้า (Brand Loyalty)

Innovation

การใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาหรือประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ไม่หยุดนิ่ง เพื่อตอบสนองต่อโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป มาโลน คิดว่า หากปราศจากแรงบันดาลใจ (inspiration) และนวัตกรรม (Innovation) ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเยี่ยมและแบรนด์ขึ้นมาได้ 

ตัวอย่างเช่น น้ำหอมทาปาสซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดจาก โจ มาโลน

Integrity

โอปร่าห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey) เคยให้คำแนะนำกับมาโลน เมื่อ 30 ปีก่อนว่า

การสร้างแบรนด์ที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ (Integrity) และความซื่อสัตย์จริงใจ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ฉะนั้นจงเป็นในสิ่งที่คุณเป็น อย่าหลอกตัวเอง

Ignition

มาโลน เชื่อว่า แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จก็ต้องสามารถจุดประกายความคิดและไอเดียใหม่ๆ สู่สินค้า เธอชอบวาดภาพเวลาอยู่บ้านและค้นพบว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจที่รักได้เช่นกัน  จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ Jo Loves มักจะมาพร้อมกับแปรงที่ใช้คู่กับน้ำหอมแทนการฉีดสเปรย์พ่นแบบปกติ

Instinct

สุดท้ายคือ สัญชาตญาณ (Instinct) เธอแนะนำ นักการตลาดต้องพึ่งพาสัญชาตญาณของตัวเองเสมอ เพราะสิ่งที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นสำคัญมาก มันคือตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในอีก10-15 ปีข้างหน้า เพราะฉะนั้นถ้าเมื่อไรที่เห็นว่า แม้ทุกอย่างจะดูถูกต้อง แต่ถ้าตัวคุณรู้สึกว่าไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่.