ถ้าไม่นัดก็ต้องถือว่าเป็นเทรนด์แรงไม่ธรรมดา เมื่อ Coca-Cola ประกาศว่าต้องการเก็บและรีไซเคิลขวดและกระป๋อง Coke ทั้งหมด 100% ภายในปี 2030 คำประกาศนี้เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์เดียวหลังจากยักษ์ใหญ่ฟาสต์ฟู้ด McDonald’s ระบุว่าบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท เช่น ถุง หลอด ถ้วย กระดาษ จะมาจากการรีไซเคิลหรือวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ภายในปี 2025
การที่แบรนด์ใหญ่ประกาศในทางเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมายนี้ แสดงว่านี่คือแนวโน้มที่จะมีผลต่อตลาดอื่นทั่วโลกในอนาคต กรณีของ Coca-Cola เจ้าพ่อเครื่องดื่มน้ำดำต้องการช่วยเก็บและรีไซเคิลขวดรวมถึงกระป๋อง Coke ทุกชิ้นที่จำหน่ายภายในปี 2030 เนื่องจาก CEO James Quincey มองว่า Coke มีหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาบรรจุภัณฑ์ของโลก
หาก Coca-Cola สามารถทำได้ตามเป้า เรื่องการเก็บและรีไซเคิลขวดและกระป๋องน้ำทุกชิ้นที่บริษัทจำหน่ายในอีก 12 ปีข้างหน้า แปลว่าภายในปี 2030 ขวดและกระป๋อง Coke ทั้งหมดทั่วโลกจะสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้แบบ 100% ซึ่งในช่วงระหว่างนี้ บริษัทหวังว่าขวด Coke จะใช้วัสดุรีไซเคิลราว 50% โดยเฉลี่ย
นอกจากนี้ Coke ยังพยายามสร้างขวดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่นการพัฒนาเรซินจากพืช และการลดปริมาณพลาสติกที่ใช้
การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภค ที่เริ่มเรียกร้องให้บริษัทอาหารเครื่องดื่มดำเนินการแก้ปัญหาขยะอย่างจริงจังและยั่งยืน Coke และบริษัทเครื่องดื่มอื่นจึงไม่สามารถอยู่นิ่ง เพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยตรงในฐานะต้นเหตุของปัญหาจากภาชนะบรรจุที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
ก่อนหน้า Coke แบรนด์น้ำแร่ Evian ในเครือ Danone และ PepsiCo ก็ประกาศพันธกิจที่คล้ายกันเพื่อยกระดับการรีไซเคิลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Danone กล่าวว่าน้ำแร่ Evian จะผลิตขวดพลาสติกทั้งหมดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ภายในปี 2025 ขณะที่ PepsiCo ตั้งเป้าหมายในปีที่แล้ว ว่า 100% ของบรรจุภัณฑ์ Pepsi จะสามารถนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ภายในปี 2025 โดยจะร่วมมือกับพันธมิตร ผลักดันให้อัตราการรีไซเคิลเพิ่มขึ้นจริงจัง
สำหรับ McDonald’s เชนฟาสต์ฟู้ดตั้งเป้าหมายว่าจะใช้กล่อง ถุง กระดาษ ถ้วย และหลอดที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอื่นภายในปี 2025 ยกระดับจากปัจจุบันที่ใช้วัสดุทดแทนในอัตราครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ประเด็นของ McDonald’s นั้นพิเศษขึ้นอีกนิด เพราะ McDonald’s ประกาศว่าต้องการให้ร้านอาหาร 100% ทั่วโลกรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อย่างเต็มที่ ถือเป็นภารกิจท้าทายเมื่อเทียบว่ามีเพียง 10% ของร้าน McDonald’s เท่านั้นที่มีกระบวนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ในร้านขณะนี้
ถามว่าทำไมแบรนด์กลุ่มนี้ต้องยืดช่วงปี 2025-2030 เป็นหลักไมล์เพื่อยกระดับรีไซเคิล คำตอบคือข้อจำกัดเรื่องอินฟราสตรักเจอร์ กฎระเบียบ และพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ต่างกัน ทำให้บางพื้นที่ต้องใช้เวลากว่าแบรนด์จะสามารถทำงานจนบรรลุเป้าหมายได้ เรื่องนี้อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ Coke ตั้งเป้าล่าช้ากว่าคนอื่น 5 ปี
นอกจากนี้ วันนี้ความต้องการพลาสติกที่ผ่านการรีไซเคิลยังได้รับผลกระทบจากราคานำเข้าที่เพิ่มขึ้น จากการที่จีนสั่งห้ามนำเข้าวัสดุรีไซเคิล บวกกับราคาน้ำมันที่ต่ำ ทำให้ต้นทุนบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกใหม่มีราคาถูกกว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร McDonald’s ยอมรับว่าพันธกิจรีไซเคิลนี้ถือเป็นคำขออันดับหนึ่งของลูกค้า ที่ต้องการให้แบรนด์ใช้บรรจุภัณฑ์น้อยลง และมีความรับผิดชอบรวมถึงดูแลบรรจุภัณฑ์เหล่านี้หลังจากใช้งาน โดยในสหราชอาณาจักร วันนี้ร้านค้าไม่มีการใช้กล่องโฟมแล้ว และร้านอาหารกว่า 1,000 แห่งมีถังรีไซเคิลสำหรับพลาสติกและถ้วยกระดาษให้บริการ
ทั้งหมดทั้งมวล Coke เผยว่าวางแผนที่จะลงทุนเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิล เพราะหลายตลาดยังมีช่องว่าง ผู้บริโภคทุกคนไม่รู้ว่าอะไรสามารถ และไม่สามารถรีไซเคิลได้ จุดนี้ CEO ของ Coke อย่าง James Quincey กล่าวว่าผู้บริโภคต้องการและคาดหวังให้บริษัทดำเนินการเรื่องรีไซเคิลได้ ทำให้ Coke ลงมือทำและขอเชิญให้แบรนด์อื่นมามีส่วนร่วมกับการเดินทางที่สำคัญนี้.
ที่มา :
- cnbc.com/2018/01/19/coca-cola-wants-to-collect-and-recycle-100-percent-of-its-packages-by-2030.html
- bbc.com/news/business-42704291