เรื่อง : โธธ โซเชียล
เมื่อผู้บริโภคทุกวันนี้ ใช้โซเชียลมีเดียในการอัพเดตข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว คนรู้จัก เรื่องดราม่าในสังคม รวมถึงข่าวสารจากสินค้าหรือบริการที่แต่ละคนสนใจ แบรนด์เองก็ปรับตัวหันมาสื่อสารกับลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้นเช่นกัน เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มที่มีการปรับฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ทั้งภาคธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปอยู่ตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นภาคธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรมกระโดดลงมาสื่อสารผ่านผ่านโซเชียลมีมากขึ้น
โธธ โซเชียล ได้เก็บรวบรวมข้อมูลมาตลอดปี 2560 (1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2560) เพื่อดูสถิติการใช้งานโซเชียลมีเดียผ่าน 4 แพลตฟอร์มหลัก คือ Facebook, Instagram, Twitter และ Youtube ของ 21 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจสายการบิน (Airline)
- กลุ่มธุรกิจยานยนต์ (Automobile)
- กลุ่มธุรกิจธนาคาร (Banking)
- กลุ่มธุรกิจสถาบันความงาม (Beauty Clinic)
- กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Beverage Alcohol)
- กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ (Beverage Non-Alcohol)
- กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า (Consumer Electrics)
- กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง (Cosmetic)
- กลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
- กลุ่มธุรกิจอุปโภคบริโภค (FMCG Foods)
- กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร (Food Retail)
- กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล (Hospital)
- กลุ่มธุรกิจประกัน (Insurance)
- กลุ่มธุรกิจอิเลคทรอนิกส์ (IT & Digital)
- กลุ่มธุรกิจแม่และเด็ก (Mom and Baby)
- กลุ่มธุรกิจสินค้าของใช้ส่วนตัว (Personal Care)
- กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)
- กลุ่มธุรกิจร้านค้าปลีก (Retail Store)
- กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า (Shopping Store)
- กลุ่มธุรกิจรัฐวิสาหกิจ (State & Enterprise)
- กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom)
พบว่าในกล่มธุรกิจเหล่านี้ แบรนด์มีการโพสต์ทั้งหมด 431,296 ครั้ง และเกิดเป็น 2,951,956,953 เอ็นเกจเมนต์ โดยเราจะพาไปดูรายละเอียดในแต่ละแพลตฟอร์มกันครับ
ขอเริ่มที่ช่องทางแรก Facebook ที่มีจำนวนโพสต์เฉลี่ยสูงสุด จำนวน 277,765 ครั้ง เอ็นเกจเมนต์ทั้งหมด 394,816,330
กลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนโพสต์มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า
- กลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- กลุ่มธุรกิจสถาบันความงาม
กลุ่มธุรกิจที่ได้รับ Average Engagement สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร
- กลุ่มธุรกิจธนาคาร
จากสถิติจะเห็นว่า การโพสต์เยอะไม่ได้หมายความว่าจะได้รับเอ็นเกจเมนต์เยอะตามไปด้วย ที่เห็นได้ชัดคือกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า ที่ถึงแม้จะมี Average post สูงที่สุด แต่ได้รับ Average Engagement ต่ำ เป็นไปได้ว่าคอนเทนต์ที่โพสต์ออกไปนั้นยังไม่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งหลังจาก ‘มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ค’ ออกมายืนยันแล้วว่าตั้งแต่นี้ไปเฟซบุ๊กจะเริ่มปรับการแสดงผลบนนิวส์ฟีดใหม่หมด โดยเนื้อหาของเพจต่างๆ จะลดลง ยิ่งทำให้แบรนด์ต้องปรับตัวในการใช้ Facebook สำหรับการสื่อสาร หันมาทำกลยุทธ์คอนเทนต์ให้ดีและปัง ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ต่อกันที่ Instagram มีจำนวนโพสต์ทั้งหมด 61,344 ครั้ง เกิดเอ็นเกจเมนต์ 14,660,871 เอ็นเกจเมนต์
กลุ่มธุรกิจที่จำนวนที่โพสต์มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า
- กลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- กลุ่มธุรกิจสถาบันความงาม
กลุ่มธุรกิจที่ได้รับ Average Engagement ดีที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจสายการบิน
- กลุ่มธุรกิจรัฐวิสาหกิจ
- กลุ่มธุรกิจสินค้าของใช้ส่วนตัว
เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยโดยรวมของ Average post ของ Facebook และ Instagram แล้ว พบว่า ค่าเฉลี่ยบน Instagram อยู่ในสัดส่วนที่น้อยกว่า เป็นเพราะว่าแบรนด์หรือธุรกิจยังคงใช้ Facebook เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับลูกค้าของตัวเองอยู่ ประเด็นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มธุรกิจ 3 อับดับแรกที่ Active มากที่สุดบน Instagram ก็ยังเป็นกลุ่มเดียวกับ Facebook
ตามมาที่ Twitter มีจำนวนโพสต์ 79,301 ครั้ง และ 3,699,008 เอ็นเกจเมนต์
กลุ่มธุรกิจที่จำนวนที่โพสต์มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม
- กลุ่มธุรกิจรัฐวิสาหกิจ
- กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า
กลุ่มธุรกิจที่ได้รับ Average Engagement ดีที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจประกัน
- กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล
- กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โดยภาพรวมแล้ว Average Engagement บนทวิตเตอร์ยังมีจำนวนน้อยกว่า Facebook และ Instagram แต่จากกราฟจะเห็นได้ว่า มีบางกลุ่มธุรกิจที่เริ่มหันมาใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าแล้วด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างกลุ่มโรงพยาบาล ที่ได้รับ Average Engagement บน Facebook ค่อนข้างน้อย แต่ได้รับบนทวิตเตอร์มากเป็นอันดับที่ 2 รองจาก กลุ่มประกันภัย เรียกได้ว่า ทวิตเตอร์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีศักยภาพในการสื่อสารกับผู้บริโภค ใครที่จับทางได้ก่อนก็ได้จะได้ประโยชน์ไปก่อน แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ คาแร็กเตอร์ของผู้ใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มที่อาจจะมีความชำเพาะเจาะจงแตกต่างกันไป ดังนั้น วิธีการสื่อสารและเนื้อหาคอนเทนต์ก็จะส่งผลอย่างมากกับผลตอบรับที่ได้กลับมา
แพลตฟอร์มสุดท้ายคือ YouTube ถือเป็นช่องทางที่มีการโพสต์น้อยที่สุด คือ 12,886 โพสต์ แต่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงสุดคือ 2,538,780,744 เอ็นเกจเมนต์
กลุ่มธุรกิจที่จำนวนที่โพสต์สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม
- กลุ่มธุรกิจธนาคาร
- กลุ่มธุรกิจรัฐวิสาหกิจ
กลุ่มธุรกิจที่ได้รับ Average Engagement ดีที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจสินค้าของใช้ส่วนตัว
- กลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์
กลุ่มธุรกิจที่เห็นได้ชัดว่าทำได้ดี คือ กลุ่มธุรกิจสินค้าของใช้ส่วนตัว, กลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ พบว่า Average Engagement ที่ได้รับต่อโพสต์สูงในขณะที่จำนวนโพสต์น้อย ส่วนกลุ่มรัฐวิสาหกิจกลับทำได้ไม่ดีเท่าไหร่เพราะถึงแม้จะติดอันดับ 3 ที่มีจำนวนโพสต์สูงแต่เอ็นเกจเมนต์น้อยมาก
หน่วยงานทั้งหลายควรจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หรือแบบแผนในการปล่อยคอนเทนต์เพื่อ Performance ที่ดีขึ้น จุดที่น่าสังเกต คือ กลุ่มรัฐวิสาหกิจทำได้ดีในช่องทาง Instagram ยิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของความเข้าใจลักษณะที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งานในแต่ละช่องทาง ซึ่งจะส่งผลถึงการวางแผนและกลยุทธ์ของการสื่อสาร เพื่อให้ได้ Performance ที่ดีที่สุดอีกด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่ภาพรวมของการใช้โซเชียลมีเดียในปี 2560 ของ 21 กลุ่มธุรกิจ ที่จะมีการแจกรางวัล Best Brand performance 2018 ที่งาน Thailand Zocial Awards 2018 ในวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น7 สยามสแควร์วัน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งแบรนด์และกลุ่มธุรกิจสามารถร่วมลุ้นผู้ชนะได้ที่งานครับ และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://thailandzocialawards.com/