ชาว facebook ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 กลายเป็นหลายๆ คน จาก 1 เครือข่ายเป็นหลายๆ เครือข่าย ทำให้ขณะนี้ไม่ว่าจะถามไปยังกลุ่มใดในแวดวงคนรุ่นใหม่ ต่างบอกว่าเป็นชาว facebook บางคนบอกว่าเป็นสิ่งที่ “Must have” และบางคนคือ “เสพติด” ชนิดที่ต้องออนไลน์ตลอดเวลา และที่สำคัญกลุ่มคนเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มคนทำงาน Trend Setter ของสังคมไทย
เสาวนีย์ นพปราชญ์ (บิ๊ก)
ตำแหน่ง Knowledge Manager, Strategy Planning & Research
บริษัท Lowe Worldwide (Thailand)
First Social Network ปี 2006 เริ่มจาก hi5
facebook เริ่มใช้ 2007 รู้สึกว่า hi5 ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน แต่ก็ยังไม่เลิกใช้ทีเดียวเพราะมีเพื่อนบางคนยังใช้ hi5 อยู่
Friends ไม่เกิน 100 คน แบ่งกลุ่มเพื่อนไว้ชัดเจน ทั้งกลุ่มเพื่อนที่มีอายุ 25-30 ปี เป็นเพื่อนรุ่นน้อง ชอบส่งแอพพลิเคชั่นแบบเด็กๆ เช่น เกม กลุ่มที่สองเพื่อนรุ่นเดียวกัน อายุ 30-35 ปี คุยทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว และกลุ่มเพื่อนอายุ 40 ปีขึ้นไปเน้นคุยเป็นทางการเรื่องงานเป็นหลัก แอพพลิเคชั่นไม่ค่อยหวือหวา หรือเป็นลักษณะ Reconnect มากกว่า
Fan ตอนนี้เธอเป็นแฟนตัวยงของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้ได้พูดคุยกับนายกฯ และผู้ว่าฯ ทำให้เธอรู้สึกใกล้ชิดกับทั้งสองท่านมากขึ้น แม้จะเป็นเพียงความรู้สึกก็ตาม
ประทับใจ แอพพลิเคชั่นต่างๆ ดูทันสมัย และเหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง เลือกใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสาร ทั้งงานกับเพื่อนสนิทและคนที่รู้จักในส่วนงานธุรกิจเท่านั้น แบ่งเป็นเรื่องงาน 20% และเรื่องส่วนตัว 80% ความถี่ในการเล่น 1-2 ชั่วโมงทุกๆ วัน และการได้พบเจออีกครั้งกับเจ้านายคนเก่าที่อเมริกาเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทำให้เธอได้กลับมา Reconnect กันอีกครั้ง
***หากใครติดต่อเธอไม่ได้ทางโทรศัพท์มือถือ อีเมล และ MSN ไม่เจอหรือไม่มีการตอบสนอง แต่ใน facebook นี้แหละที่สามารถหาตัวเธอเจอ และติดต่อเธอได้แบบทันทีทันใด
คริสติน่า วชรเนตร (บี๋)
ตำแหน่ง Partner, Client Leadership
บริษัท Mindshare (Thailand)
Fist Social Network 2007 เริ่มต้นใช้ทั้ง hi5 และ facebook
facebook ส่วนมากเน้นแบบส่วนตัวมากกว่าทำงาน Applications มีให้เลือกมากกว่า hi5 ดูเด็กๆ ไปเลย แต่ช่วงนี้ฮิตกันมาก คือ Pet Society ซึ่งเธอก็ไม่พลาดที่จะเลี้ยงลูกหมาตัวน้อย ถือว่าเป็นการฆ่าเวลา สนุกดี ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน
Friends เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนวัยทำงาน และลูกค้า 100 กว่าคน ซึ่งในกลุ่มเพื่อนจะมีช่วงอายุตั้งแต่ 20-35 ปี เป็นส่วนใหญ่ การเลือกรับเพื่อนนั้นเฉพาะคนรู้จักจริงๆ
Fan Gossip G-sere, Nike และสถานที่ท่องเที่ยวสุด Hip
ประทับใจ Update เรื่องราวของตัวเอง และของเพื่อน สามารถ Keep and Touch เพื่อนๆ เป็นสถานที่ให้ติดตามเรื่องราวของเพื่อนตลอดเวลา จากสมัยก่อนที่จะเป็นแบบตัวใครตัวมัน แม้จะอยู่ห่างกันสามารถรับรู้ได้ว่าเพื่อนคนไหนไปทำอะไร ทำให้ความสัมพันธ์ไม่ลืมเลือน และเราเองทำงานในด้านโฆษณา เมื่อมีกระแสนี้มาเราก็ต้องเข้าไปดูและศึกษาอยู่ตลอด และไม่อยากตกข่าว
***ส่วนใหญ่เล่นผ่านโน้ตบุ๊ก และมือถือ ซึ่งเรียกเธอได้ว่า facebook mania เพราะเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ ทุกๆ ชั่วโมงต้องเข้าไปดู Status ของเพื่อนว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไร
ปีเตอร์ ทวีผลเจริญ
ตำแหน่ง Marketing Director
บริษัท Daddy Dough (แด๊ดดี้ โด)
First Social Network ใช้ myspace ตั้งแต่เรียนอยู่ที่อเมริกา
facebook ปี 2005 เปลี่ยนจากใช้ hi5 พร้อมๆ กับการเริ่มใช้ facebook
Friends เพื่อนสมัยเรียนอยู่ที่อเมริกาส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเกือบ 80% มีอยู่ประมาณ 100 คน ซึ่งรู้จักกันทั้งหมด ไม่มีมั่ว
ประทับใจ ได้เจอเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนตั้งแต่ปี 1 ที่ไม่ได้เจอมานาน ทั้งเพื่อนที่อยู่อเมริกา ฮ่องกง จีน เกาหลี ได้ติดต่อกันอีกครั้ง การได้พูดคุยกันในสังคมออนไลน์ จะทำให้ความรู้สึกผูกพันและหวนรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ได้ การ Track รูปเพื่อน สามารถแชร์ประสบการณ์เก่าหรือใหม่ร่วมกันได้
Business เคยเลือกใช้ hi5 มาเกือบปีแล้ว ไว้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นมาเกือบปี แต่สำหรับวัยทำงานหรือกลุ่มคนที่ต้องการสินค้ามีคุณภาพ จะใช้ facebook ในการสื่อสารกับกลุ่มนี้ ยิ่งโปรดักส์เป็นสิ่งไม่มีชีวิต เมื่อเข้าไปอยู่บนโลกออนไลน์ทั้ง hi5 และ facebook ทำให้แบรนด์ดูสดใสและมีชีวิตมากขึ้น และเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้ แม้ไม่สามารถประเมินไปยอดขายได้ก็ตาม
***แม้จะไม่ได้ใช้เวลาอยู่ใน facebook มาก แต่ก็จำเป็นต้องมี เพราะเป็นช่องทางหนึ่งที่ได้ติดต่อและพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ และไม่ได้เจอกันมานาน***
พีรภูมิ ปราบอริพ่าย
ตำแหน่ง National Retail Manager (ผลิตภัณฑ์ไอศกรีม)
บริษัท บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด
First Social Network ปี 2006 ที่ใช้เพราะอยากสร้าง “Reunion Network” ซึ่งเป็น Community เฉพาะในกลุ่มเพื่อนที่อยู่เมืองไทย
facebook ปี 2008 รู้สึกว่า hi5 เริ่มจะไกลตัว พอดีเพื่อนเริ่มทยอยเปลี่ยนเป็น facebook
Friends มากกว่า 50 คน ส่วนใหญ่เลือกไม่ให้ใครมา Add แบบมั่วๆ จนทำให้เสียความเป็นส่วนตัว
ประทับใจ ได้เจอกับกลุ่มเพื่อนสนิทที่ไม่ได้คุยกันมากว่า 10 ปี สมัยที่เรียน High School ที่ Virginia ด้วยกัน มีโอกาสกลับมาคุยกันอีกครั้ง ซึ่งเร็วๆ นี้ก็กำลังจะนัด Reunion กันที่เมืองไทย และยังใช้เป็นที่นัดหมายของเพื่อนๆ ในทีมฟุตบอล ซึ่งทำเป็นในรูปแบบของทีมอย่างชัดเจน เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมอื่นเข้ามาท้าแข่ง และถือโอกาสสร้าง Network ทางธุรกิจได้อีกด้วย เพราะการเล่นกีฬาที่เป็นลักษณะทีมแบบนี้ มันก็คือ Informal Meeting ดีๆ ซึ่งบางครั้งทำให้ได้ Business Partner มาต่อยอด Campaign ต่างๆ ของทางเนสท์เล่ไอศกรีม ทำให้เขาไม่ลืม Sing up ทุกคืนก่อนนอน ไม่งั้นจะนอนไม่หลับ
Business ด้วยหน้าที่การทำงานสามารถใช้ประโยชน์จาก facebook ดูพฤติกรรม Day in life ของคนในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า และตัวแทนจำหน่าย โดยเฉพาะคนทำงาน หรือผู้บริโภคทั่วไป ต้องเข้าใจใน Insight ของกลุ่มนี้ รู้ถึงการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างไร กำลังสนใจเรื่องไหนอยู่ พฤติกรรมการใช้จ่ายเป็นเช่นไร เปิดรับสื่อประเภทไหนบ้าง แม้แต่กระทั่งการ Spending ในเรื่องของเงิน/ค่าใช้จ่ายในแต่ละ Product หรือ Category รวมทั้งอะไรที่เป็น Talk of the town ที่กำลังได้รับความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ และนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกตเหล่านั้นมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับเรื่องงานให้มากที่สุด
****เป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารที่เป็น “Must have” นอกเหนือจากช่องทางสื่อสารอื่นๆ***
อริยะ พนมยงค์
ตำแหน่ง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์-คอนเวอร์เจนซ์
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น
First Social Network hi5
facebook ประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา
Friends ประมาณ 280 คน
Fan Paul Smith , The Capoeira Blog,Tastebuds
ประทับใจ เพราะว่าเกิดที่ฝรั่งเศส และเติบโตต่างประเทศ ทำให้มีเพื่อนต่างชาติจำนวนมาก การใช้ facebook ทำให้ได้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ รู้ความเคลื่อนไหว และไม่เพียงเพื่อนต่างชาติ ยังรวมไปถึงเพื่อนร่วมงาน เป็นการได้คุยกับเพื่อนเช่นเดียวกับเมื่ออยู่ในโลกความเป็นจริง เท่ากับว่าไม่ว่าจะอยู่ในโลก facebook หรือโลกความเป็นจริงก็ได้คุยกันคนที่รู้จักเหมือนกัน ซึ่งทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่เพียงแค่ชอบใช้ facebook เท่านั้น แต่ถึงขั้น Addict เลยทีเดียว ส่วนใหญ่ที่ใช้คืออัพโหลดรูป และรู้สึกได้ว่า ถ้าเราไม่เข้าไปอัพเดต หรือเข้าไปใช้ จะรู้สึกว่า ”หลุด” ไปจากความเคลื่อนไหว สำหรับ ”อริยะ” การไม่อยากหลุดจากเครือข่าย facebook จึงใช้โทรศัพท์มือถือ Blackberry และ iPhone ที่ทั้งสองแบรนด์ได้พัฒนาแพลตฟอร์มให้ใช้กับ facebook ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้เขาออนไลน์ตลอดเวลา และเข้าไปเช็ก facebook วันละ 2 ครั้ง
facebook ให้ความรู้สึกปลอดภัยมากกว่า เพราะสามารถเลือกรับคนที่เรารู้จักเข้ามาในเครือข่ายได้มากกว่า มั่นใจได้มากกว่าเครือข่ายอื่นๆ
มนาเทศ อันนวัฒน์
ตำแหน่ง หัวหน้ากลุ่มธุรกิจสื่อสารการตลาด และองค์กร
บริษัท บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
facebook เพิ่งเริ่มใช้ไม่นานนัก
Friends มากกว่า 50 คน ทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ และยังได้รับการ Add เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ
Fan กลุ่ม Music Christina Aguilar
ประทับใจ ได้ติดตามและแลกเปลี่ยนความเคลื่อนไหวระหว่างเพื่อน ทำให้จากเดิมไม่ค่อยได้ใช้ ขณะนี้เริ่ม
ใช้มากขึ้น และเริ่มติดเช็กทุกคืนก่อนนอน มีการใช้ผ่านทั้งโน้ตบุ๊ก และมือถือของซัมซุง OMNIA แม้ OMNIA จะยังไม่เวิร์คมากนักสำหรับแพลตฟอร์ม facebook ที่มาจากเว็บไซต์ปกติ แต่ ”มนาเทศ” ก็บอกว่าพอใช้งานได้ เพราะ ”มนาเทศ” ใช้ทั้งอัพโหลดรูป เป็นความบันเทิงส่วนตัว และการใช้เพื่อเชื้อเชิญเพื่อร่วมงานในบางอีเวนต์
กล้า ตั้งสุวรรณ
ตำแหน่ง Director
บริษัท duocore.tv
facebook ใช้มานานมากแล้วครับ
Friends 140 คน
Fan เลบริตี้ คนดัง อย่าง Note Udom กลุ่ม อะดาชิ มิซุรุ /กลุ่มทีวีโชว์ ของกลุ่มเว็บไซต์ blognone/กลุ่มเซตัวเอง duocore.tv/กลุ่มเพลง DEPAPEPE ประทับใจ ได้เจอเพื่อน ได้คุยกับเพื่อนหลายกลุ่มที่นี่ ส่วนใหญ่ใน facebook ปัจจุบันเป็นกลุ่มที่คนที่มีความรู้ นักธุรกิจรุ่นใหม่ และกลุ่มที่ชอบการพัฒนา Application ใหม่ๆ เพราะที่ facebook เปิดให้คนทั่วไปใส่ Application เข้าไปได้ ที่ facebook เราจึงได้เจอเพื่อนกลุ่ม Geek อีกด้วย ต่างจาก Social Networking ที่อื่น เช่น ที่ hi5 เราจะเจอกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า สำหรับ “กล้า” มี iPhone เป็นอุปกรณ์ประจำตัวมานาน ทำให้เขาสามารถออนไลน์และเข้า facebook ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว วันละ 2 ครั้งก็น่าจะเพียงพอ