เป็นไปได้แค่ไหน ที่จะนำพลังของ facebook มาช่วยเจ้าของสินค้า หรือเอเยนซี่ทำตลาด หรือสร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์ได้แค่ไหน วฤตดา วรอาคม Director Business Planning บริษัท Mindshare Thailand จำกัด ในฐานะ Media Planner มีคำตอบ
POSITIONING : ทำไม facebook ได้รับความนิยมสูงขึ้นในไทย ?
วฤตดา : 1) มีความเป็นพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น เพราะยังเป็น Social Network ที่ค่อนข้างใหม่
กลุ่ม Friend’s list ของคนที่เล่น facebook นั้น ถือเป็นกลุ่มคนรู้จักที่ค่อนข้างคุ้นเคยกัน หรือถ้ามีคนไม่ค่อยสนิทก็สามารถตั้ง Privacy ได้ เพื่อจะให้ใครเห็นข้อมูลส่วนตัวด้านใดได้บ้าง เพราะฉะนั้นข้อมูลต่างๆ (Photo, Status Update, Comment, etc.) ที่ผู้ใช้นำมาแชร์ก็จะมีความเป็นส่วนตัวและบ่งบอกถึงเป็นตัวตนมากขึ้น
2) Applications ช่วยบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน Self Expression ของผู้ใช้ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น การ Become a fan ของ ดารานักร้อง รายการที่ชอบดู แบรนด์ในดวงใจ / การแต่งตัวแต่งบ้านให้กับสัตว์เลี้ยงในสไตล์ที่ตัวเองชอบ / การโพสต์รูปที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ได้ไปมา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ปาร์ตี้ ท่องเที่ยว คอนเสิร์ต เป็นต้น
3) รูปแบบการใช้งาน Applications ช่วยสนับสนุนการ Socialization ของวัยรุ่นได้อย่างชัดเจน เช่น การส่งของให้กันไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ อาหาร / การไปเยี่ยมสัตว์เลี้ยงของเพื่อน / การเล่นเกมแข่งกับเพื่อน / การเขียน Notes เกี่ยวกับตัวเองและ Tag ให้เพื่อนเข้ามาเขียนของเพื่อนบ้าง และการทำ Quiz ในด้านทัศนคติต่างๆ แล้วเทียบดูว่ามีความเหมือนหรือต่างกับเพื่อนอย่างไรบ้าง เป็นต้น
4) มี Applications ใหม่ๆ มาตลอดเวลา ตอบโจทย์ความต้องการด้าน Personalization เช่น การส่งสิ่งของอินเทรนด์ต่างๆ ที่เลือกได้ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตาBlythe เครื่องประดับแฟชั่นแบรนด์เนม Vivienne Westwood โดนัท Krispy Kr?me ปลูกต้นไม้ช่วยโลกร้อน / การส่งของให้กันตามเทศกาลสำคัญๆ อย่างวาเลนไทน์ ปีใหม่ เป็นต้น
POSITIONING : facebook มีอิทธิพลต่อสินค้าและพฤติกรรมผู้บริโภคแค่ไหน ?
วฤตดา : เห็นได้ชัดในสินค้าในหมวดไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และเอนเตอร์เทนเมนต์ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ปาร์ตี้ คอนเสิร์ต เพลง หนัง ถือเป็น Word of Mouth อย่างหนึ่งก็ว่าได้ เพียงแต่มาในรูปแบบของfacebook โดยวัยรุ่นจะเชื่อความคิดเห็นของเพื่อนมากกว่าสิ่งที่ได้ยินจากสื่อเพียงอย่างเดียว
POSITIONING : แล้ว facebook จะเข้ามาแทนสื่อหลักไหม ?
วฤตดา : facebook จะเน้นเรื่องของ Personal Space และ Socialization เป็นหลัก ในขณะที่สื่ออื่นๆ ใน Internet ก็จะตอบโจทย์ด้านอื่นๆ เช่น pantip.com มีข้อมูลรีวิวสินค้าต่างๆ Bloggang มี Community ของกลุ่มคนที่มีความชอบด้านใดด้านหนึ่งคล้ายๆ กัน sanook.com รวบรวมข้อมูลด้าน Entertainments ต่างๆ เป็นต้น
คิดว่าน่าจะเป็นการต่อยอด มากกว่าการทดแทน เพราะหน้าที่ของสื่อแตกต่างกัน
POSITIONING : facebook ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงหรือ ?
วฤตดา : เป็นการสร้างกระแสการบอกต่อ หรือ WOM (Word of Mount) หรือ Talk ของสินค้าที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และเอนเตอร์เทนเมนต์ มากกว่า และเป็นการเข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้บริโภคมากขึ้น ตอกย้ำให้กลายเป็นสิ่งที่เขาเห็นมากขึ้น แต่การ Control ในเรื่อง Content จะเป็นไปได้ยาก คือ เขาจะชอบหรือไม่ชอบแบรนด์ เขาก็จะพูดไปตามที่เขารู้สึกจริงๆ
POSITIONING : “Key Success” ในการใช้ facebook ?
วฤตดา : เป็นเรื่องของเนื้อหา Content และที่สำคัญคือประเภทสินค้าที่เหมาะกับความเป็น facebook มันต้องเป็น Socialization และ Personal Space ซึ่งเป็นเรื่องของแบรนด์ที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ที่ใหม่ๆ มากกว่าแบรนด์ธรรมดาทั่วๆ ไปหรือดั้งเดิมที่ไม่มีความน่าสนใจแล้ว เพราะสิ่งที่ผู้ใช้ facebook เอามาลงจะมีเรื่องของการแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง จำเป็นต้องมีเรื่องของความดูดี และ In trend ค่อนข้างมาก
POSITIONING : แล้ว facebook กับกลุ่มวัยรุ่นล่ะ ?
วฤตดา : ปัจจุบัน facebook ได้เข้าถึงในกลุ่ม Leading Edge ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในกลุ่มวัยรุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังขยายความนิยมไปสู่กลุ่มอื่นๆ แต่ยังอาจจะต้องใช้เวลาเพราะกลุ่มผู้ใช้ยังติดความคุ้นเคยกับการใช้งาน hi5 ซึ่งเป็น Social Networking อันแรกที่เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นไทยมาเป็นเวลานาน และกลุ่มเพื่อนใน hi5 ค่อนข้างกว้างกว่า คือมีทั้งเพื่อนสนิทและคนรู้จัก ซึ่งอาจจะไม่ได้สนิทกันมากเท่าไรนัก หรือแม้กระทั่งไม่รู้จักกันเลย



