ไม่ปัง ! กอล์ฟหญิง LPGA ไทยแลนด์ 2018 หลังย้ายวิกจากช่อง 7 มาช่อง 9 หวังแค่สร้างแบรนด์ รายได้ไม่มา ฮอนด้างดสปอนเซอร์

มาแบบเงียบๆ สำหรับการแข่งขันกอล์ฟอาชีพหญิงระดับโลก “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” ทั้งๆ ที่เป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับโลก ที่มีนักกีฬาไทย “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวไทยมือ 8 ของโลก และนักกอล์ฟหญิงระดับโลกเข้าร่วมแข่งขันด้วย

เหตุเพราะปีนี้ เปลี่ยนมือจากขาประจำ ”ช่อง 7” เป็นช่อง 9 เข้ามาถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรก แรงโปรโมตยังอัดไม่เต็มที่ จึงทำให้ยังไม่มีกระแสข่าวคราวมากนัก

การแข่งขันกอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เป็นการแข่งขันกอล์ฟสตรีรายการแอลพีจีเอ LPGA-Ladies Professional Golf Association ทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก โดยในทุกๆ ปีนักกอล์ฟหญิงอาชีพที่ได้รับการจัดอันดับจากแอลพีจีเอทัวร์จำนวน 60 คนแรก และนักกอล์ฟดาวรุ่งหญิงไม่จำกัดวัยจำนวน 10 คน จะเข้าร่วมแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 51 ล้านบาท จัดขึ้นในปีนี้ระหว่างวันที่ 22-25 ก.พ.นี้ โดยถือว่าเป็นทัวร์นาเมนต์กอล์ฟสตรีอาชีพในประเทศไทยที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

เดิมทีรายการนี้อยู่คู่กับช่อง 7 ตั้งแต่ปี 2007 ในยุคที่ ”คุณแดง” สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ยังคุมช่อง 7 อยู่ ด้วยความที่คุณแดงชอบเล่นกอล์ฟ และรู้จักผู้ใหญ่ในวงการกีฬามานาน จึงได้ร่วมกับ IMG เจ้าของลิขสิทธิ์รายการกีฬาสำคัญระดับโลก ในการร่วมจัดการแข่งขันและถ่ายทอดสดรายการนี้ มาเป็นเวลา 11 ปี โดยใช้สนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ พัทยา ที่ได้รับการรองรับจากระดับนานาชาติเป็นสนามแข่งขัน

ในฐานะช่องทีวีรายใหญ่ การโปรโมตจึงมีผ่านสื่อของช่องที่มีฐานผู้ชมจำนวนมาก จึงได้ในแง่กระแสการรับรู้ของคนทั่วไป อีกทั้งในปีหลังๆ เมื่อรวมเข้ากับกระแสความฮอตของ โปรเม ที่เคยเป็นอันดับ 1 ของโลกมาแล้ว ทำให้รายการนี้ เป็นที่สนใจของคนทั่วไปมากขึ้น

แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากฝ่ายผู้ถือหุ้นและฝ่ายบริหารของช่อง 7 ในปีที่แล้ว ช่อง 7 จึงตัดสินใจโบกมือลาจากอีเวนต์นี้ ทั้งๆ ที่วงการกอล์ฟหญิงไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับคนในวงการพอสมควร ทั้งๆ ที่ช่อง 7 มีรายได้จากการจัดการแข่งขันรายการนี้ปีละประมาณ 80-100 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากฮอนด้า

ว่ากันว่า มีสาเหตุหลักมา 2-3 ประเด็น คือ ประเด็นแรก ฝ่ายบริหารที่ไม่ได้มี Passion กับกีฬากอล์ฟเหมือนยุคคุณแดง โดยมองว่าเป็นรายการ Niche เฉพาะกลุ่มมากเกินไป

ประเด็นต่อมา คือ เรตติ้งรายการไม่ได้อยู่ในตัวเลขดีมาก เพราะกลุ่มคนดูกอล์ฟไม่ใช่กลุ่มแมสเหมือนกีฬาฟุตบอล หรือมวย ที่เป็นฐานคนดูของช่อง อีกทั้งการถ่ายทอดสดกีฬากอล์ฟต้องใช้เวลามากถึง 4 วัน ในช่วงกลางวัน ซึ่งน่าจะไปจัดรายการอื่นๆ สร้างเรตติ้งให้กับช่องได้มากกว่า

จากข้อมูลเรตติ้ง ของนีลเส็น และสำนักนโยบายวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. การจัดการแข่งขันรายการนี้ในปีที่แล้วของช่อง 7 พบว่าได้เรตติ้งเฉลี่ยจากการถ่ายทอดสดทั้ง 4 วันเพียง 0.557 เท่านั้น โดยเป็นการถ่ายทอดสดในช่วง 14.00-18.00 ในวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์

นอกจากนี้ ในการจัดการแข่งขันมีรายละเอียดและความยุ่งยาก แม้ว่าจะได้เงินจัดการแข่งขันจากสปอนเซอร์หลักอย่าง ฮอนด้า ปีละ 80-100 ล้านบาท แต่ก็ต้องจัดกิจกรรมต่อเนื่องเป็นเวลาล่วงหน้า 3-4 เดือน ที่มีทั้งการโปรโมต และการทำ CSR และเตรียมการถ่ายทอดสด ที่ต้องทุ่มเททั้งคนและพลังจำนวนมาก จนสุดท้ายช่อง 7 ก็ต้องยอมปล่อยออกมา

ช่อง 9 น้องใหม่วงการกอล์ฟ หวังสร้างแบรนด์

เขมทัตต์ พลเดช ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) บอกว่า ด้วยคอนเนกชั่นส่วนตัว ที่รู้จักกับ IMG เจ้าของลิขสิทธิ์ จึงเห็นว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ช่อง 9 จะเข้ามารับการถ่ายทอดสดรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 จึงมีการเจรจากันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนช่อง 9 ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ในรูปแบบ official broadcast เป็นเวลา 2 ปี

อย่างไรก็ตาม รูปแบบการซื้อลิขสิทธิ์ของช่อง 9 มีความแตกต่างจากช่อง 7 เพราะครอบคลุมเฉพาะการเป็นผู้รับสัญญาณการถ่ายทอดสดเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงการจัดกิจกรรม หรืออีเวนต์ต่างๆ เหมือนที่ช่อง 7 เคยได้

ที่สำคัญ อสมท ไม่ได้ “ฮอนด้า” ซึ่งเคยเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับช่อง 7 มาเป็นสปอนเซอร์ให้ จึงทำให้ขาดรายได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังต้องลงโฆษณาให้ในฐานะ “เนมสปอนเซอร์”

“ในฐานะหน้าใหม่วงการนี้ ทีมงานยังใหม่ ต้องใช้เวลาเตรียมงาน เพราะเป็นครั้งแรกที่ อสมท เข้ามาได้ถ่ายทอดสดรายการกีฬาระดับโลก ดังนั้น ปีแรกนี้อาจจะยังไม่มีกระแสมากนักในกลุ่มคนระดับแมส แต่สำหรับคนวงการกอล์ฟถือว่าดีมาก แต่ก็เชื่อว่าปีหน้าจะดีกว่านี้แน่นอน“

เขมทัตต์ ปฎิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของดีลลิขสิทธิ์ครั้งนี้ โดยบอกว่าเป็นราคาไม่แพง และถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงบในการสร้างแบรนด์ ประชาสัมพันธ์ช่อง 9 ที่มีคอนเทนต์ระดับโลก ในรูปแบบพรีเมียมคอนเทนต์ จึงไม่ได้พิจารณาในเรื่องกำไรขาดทุนจากกรณีนี้

ก่อนหน้านี้ อสมท ก็ได้มีการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รายการแข่งขันฟุตบอลลีกของอังกฤษ “คาราบาวคัพ” ฤดูกาลแข่งขัน 2017/2018 มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งทางช่อง 9 และช่อง MCOT Family แต่เนื่องจากเวลาแข่งขันมาช่วงดึกมากสำหรับคนไทย และติดในช่วงพระราชพิธี ในปลายปีที่แล้ว จึงไม่ได้โปรโมตมาก ยังต้องรอฟีดแบ็กอีกครั้ง

เราถือว่า คาราวบาวคัพ เป็นอีกหนึ่ง selective content  ที่เราเลือกมาลงสร้างฐานคนดูกีฬาของช่อง ผสมกับการสร้างแบรนด์ไปด้วย

ทั้งนี้ คาราวคัพ คือ EFL หรือ English Football League Cup ที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ ลีกคัพ ฟุตบอลถ้วยเล็กของอังกฤษ โดยที่คาราบาว บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังของไทย เป็นสปอนเซอร์ชื่อการแข่งขันอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 ปี (Official Title Sponsor) ส่งผลให้บอลถ้วยรายการนี้จะเปลี่ยนชื่อเป็น คาราบาว คัพ (Carabao Cup) ตั้งแต่ฤดูกาลแข่งขัน 2017/2018.