สายมินิมอลเตรียมตัว เปิดประสบการณ์ “Muji Hotel” หลังเปิดครบ 1 เดือน (มีคลิป)

เปิดประสบการณ์จากผู้ได้ไปเยือน “Muji Hotel”  โรงแรมแห่งแรกซึ่ง Muji ประเดิมให้บริการครบ 1 เดือนที่เซินเจิ้น ประเทศจีน แน่นอนว่า ”freebies” หรือของฟรีจากห้องพัก ทั้งแปรงสีฟัน ปากกา กาแฟ และรองเท้าแตะที่ติดชื่อแบรนด์ Muji คือดาวเด่นที่ทำให้ Muji Hotel น่าสนใจ แต่มีอีกหลายประเด็นที่สาวก Muji ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับโรงแรมนี้

ก่อนหน้านี้เรารู้กันเพียงว่า Muji Hotel ปักหลักให้บริการ 3 เมืองแรก คือ ปักกิ่ง เซินเจิ้น และโตเกียว โดย Muji Hotel สาขาแรกที่เซินเจิ้นมีทั้งหมด 79 ห้อง จุดเด่นคือใช้วัสดุรีไซเคิลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์เน้นสีเรียบง่ายอบอุ่น มีการออกแบบให้ปลั๊กไฟมีช่อง USB สำหรับเสียบสายชาร์จอุปกรณ์ได้สะดวก เพิ่งเปิดทำการวันที่ 18 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา

แต่ล่าสุด Johan Nylander นักเขียนของสำนัก Post Magazine บรรยายความรู้สึกจากที่ได้ไปเยือน Muji Hotel วิจารณ์ว่าแม้โรงแรม Muji แห่งแรกในเซินเจิ้นจะเรียบง่ายสมกับเป็นสไตล์ญี่ปุ่น กลับพบว่ายังมีบางจุดที่พลาดในรายละเอียดไป

ข้างในเป็นอย่างไร ?

Muji Hotel แห่งแรกเปิดทำการที่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมไอทีจีน ความคึกคักของเซินเจิ้นทำให้มีฝูงชนพลุกพล่านไปมาบริเวณหน้าป้าย Muji Hotel ขนาดใหญ่เห็นชัดจากระยะไกล

เช่นเดียวกับโรงแรมทั่วไป ล็อบบี้ของ Muji Hotel เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมที่เน้นการออกแบบเรียบง่ายแต่ทันสมัยด้วยวัสดุธรรมชาติ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดี เพลงต้อนรับเป็นเป็นเพลงแบนโจอบอุ่นสไตล์ไอริช ห้องพัก 79 ห้องของโรงแรมกระจายอยู่ในอาคาร 6 ชั้น ภายในมีร้านอาหารและร้านจำหน่ายสินค้า Muji ขนาดใหญ่ และมีห้องสมุดบนชั้น 3 ซึ่งมีหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งภายในและสถาปัตยกรรมให้หยิบยืม

ภาพจาก : hotel.muji.com/shenzhen/ja

ถามว่าภายในห้องพักเป็นอย่างไร ? คำตอบคือเต็มไปด้วยกลิ่นอาย minimalist เฟอร์นิเจอร์ไม้เรียบง่าย งานศิลปะและของตกแต่งที่เน้นออกแบบน้อยแต่มาก รองเท้าแตะหนานุ่ม (ที่ลูกค้าสามารถพกพากลับบ้านได้) ที่ขาดไม่ได้คือสุขภัณฑ์สุขาอัตโนมัติแบบญี่ปุ่น

ลูกค้าโรงแรมที่ติดใจสินค้าใดของ Muji สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Muji Store บริเวณชั้นล่างโรงแรม

ทำไม Muji ต้องทำโรงแรม และทำไมต้องเป็นเซินเจิ้น ?

2 คำถามนี้มีคำตอบ โดยเฉพาะข้อหลังที่ชัดเจนมาก เนื่องจากฐานะของเซินเจิ้นที่ถือว่าเป็นเมืองคู่แข่งซิลิคอนแวลลีย์ ที่กำลังกลายเป็นแหล่งรวมอุตสาหกรรมไอทีของโลกเอเชีย ย่อมทำให้ความต้องการโรงแรมสูงมาก Muji จึงเลือกปักหลักให้บริการโรงแรมในพื้นที่นี้

แล้วทำไม Muji ต้องย้ายเข้าไปเล่นในธุรกิจโรงแรม ? คำตอบคือเพราะ Muji ขายทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เตียงนอน โคมไฟ ไปจนถึงแปรงสีฟัน และชุดนอน ยังมีผลิตภัณฑ์กาแฟและเบเกอรี่ ดังนั้น ความพร้อมนี้อาจเป็นเพียงเรื่องของเวลา ซึ่งในช่วงก่อนเปิดโรงแรม ผู้บริหาร Muji อย่าง Joe Guan ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้จัดการโรงแรม Muji Hotel ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่า “ทำไมเลือกเซินเจิ้น ?” ด้วยการถามกลับว่า ”ทำไมไม่เลือกล่ะ” 

ภาพบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรม Muji Hotel ยังสะท้อนว่า Muji นำสินค้าของตัวเองมาใช้ได้เต็มที่ ทั้งช้อน ถาด จาน ชาม ชนิดไม่ต้องซื้อหาจากซัปพลายเออร์รายใด

ภาพจาก : hotel.muji.com/shenzhen/ja

มีข้อเสียไหม ?

เบื้องหลังภายนอกที่สมบูรณ์แบบ สื่ออย่าง Post บอกว่าโรงแรม Muji Hotel ให้ความรู้สึก “ว่างเปล่าเล็กน้อยและล้มเหลวกับรายละเอียดบางอย่าง”

ไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงแรกที่เพิ่งเปิดให้บริการหรือไม่ แต่ห้องอาบน้ำบางห้องมีข้อผิดพลาดเรื่องน้ำอุ่นน้ำเย็นสลับกัน ขณะที่ฟังก์ชันอย่างการเปิดปิดไฟอัตโนมัติก็ไม่ได้ถูกใจลูกค้าทุกคน เพราะบางคนบ่นว่าไฟทุกดวงในห้องปิดลงเมื่อเดินออกไปอึดใจเดียว ยังมีม่านอัตโนมัติที่ดึงตัวเองปิดในเวลาที่ยังไม่ต้องการ ทั้งหมดนี้สร้างความเดือดร้อน เพราะการค้นหาสวิตช์ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อห้องทั้งห้องมืดลง

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าลูกค้าที่กระหายน้ำ อาจจะต้องเดินออกนอกโรงแรมไปที่ท้องถนน ผ่านร้านค้าและร้านอาหารที่คึกคักด้วยฝูงชนเพื่อรับเครื่องดื่ม จุดนี้ Guan อธิบายว่าร้านค้าและโรงแรมใน Muji Hotel ดำเนินการโดยคนละบริษัท โดย Muji เป็นผู้ดำเนินการร้านค้า ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาจีนอย่าง Shum Yip เป็นผู้ลุยธุรกิจโรงแรม ทำให้บาร์ถูกบริหารร่วมกัน

ที่สำคัญ โรงแรม Muji Hotel ไม่มีสระว่ายน้ำ ซาวน่า หรือสปา แต่มีห้องออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ที่มีอุปกรณ์อย่างลู่วิ่ง โดยเพลงไอริช (ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้) จะติดตามลูกค้าไปทุกที่ เรียกว่าเพลงเดียวกันจะถูกเบ่นวนซ้ำตลอดทั้งวัน แม้กระทั่งตอนเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม

ยังมีเรื่องข้อบกพร่องเรื่องอาหารเช้า แม้ห้องอาหาร “Muji Diner” จะโอ่โถงขนาด 118 ที่นั่ง และมีบริการอาหารรองท้องเช่นซุปมิโซะและผลไม้ แต่หากต้องการรับประทานอาหารจานร้อนเช่นไส้กรอก หรือติ่มซำ ลูกค้าอาจต้องเข้าคิวรอเกือบครึ่งชั่วโมง

แม้ว่าจะไม่ใช่แขกที่โรงแรม แต่ใครที่สนใจก็สามารถสัมผัสแบรนด์ Muji ได้ที่โรงแรมนี้ ทั้งส่วนร้านค้า ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย และห้องประชุมบนชั้น 2 และชั้น 3 ของอาคาร ขณะที่ห้องอาหาร Muji Diner จะให้บริการอาหารตะวันตก อาหารญี่ปุ่น และอาหารจีนในเวลากลางวัน และเปลี่ยนเป็นบาร์สุดฮิปในเวลากลางคืน

ราคาเทียบเท่า Hilton

ราคาเริ่มต้นของ Muji Hotel อยู่ที่ 950 หยวน (ราว 4,800 บาท) สูงสุดคือ 2,500 หยวน (ราว 12,500 บาท) ซึ่งเป็นห้องคู่ที่ใหญ่ที่สุด ราคานี้ใกล้เคียงกับ Hilton หรือ Marco Polo ในเซินเจิ้น แต่ความหลากหลายของอาหารเช้านั้นผิดกัน

สุดท้ายแล้ว Post สรุปว่าโรงแรม Muji Hotel อาจเป็นสวรรค์สำหรับ Instagramer แต่อาจน่าผิดหวังเล็กน้อยสำหรับ “คนธรรมดาปกติ” ที่ต้องการความสะดวกสบายในสไตล์ที่ต่างกัน.

ที่มา :