อิทธิฤทธิ์ “หน้ากาก #The Mask Singer” เวิร์คพอยท์กำไรเพิ่ม 355%

เมื่อวานนี้ (26 ก.พ. 61) บริษัทเวิร์คพอยท์ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สร้างความฮือฮาในวงการทีวีดิจิทัล ที่สามารถทำกำไรได้สูงที่สุดเท่าที่เคยตั้งบริษัทมา โดยมีกำไรในปี 2560 อยู่ที่ 904.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 355% หรือ 705.46 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,852.50 ล้านบาท สูงขึ้น 44% หรือ 1,185.45 ล้านบาท จากปี 2559 ที่อยู่ที่ 2,667.05 ล้านบาท

เวิร์คพอยท์ชี้แจงว่า บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงมาก มาจากรายได้จากกิจการโทรทัศน์ โดยมีรายได้รวม 3,478.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,062.14 ล้านบาท หรือ 44% เมื่อเทียบกับปี 2559

ทั้งนี้รายได้จากกิจการโทรทัศน์นี้ ครอบคลุมถึงรายได้จากการขายโฆษณาในช่องเวิร์คพอยท์, รายได้ออนไลน์การให้เช่าช่วงเวลา, รับจ้างผลิตรายการ และจากการขายลิขสิทธิ์ โดยที่รายได้จากช่องเวิร์คพอยท์เป็นรายได้หลักของกลุ่มนี้ มีรายได้อยู่ที่ 3,208.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 979.72 ล้านบาท หรือ 44% เมื่อเทียบกับปี 2559 

รายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้ มาจากการเพิ่มอัตราค่าโฆษณา และอัตราการขายที่เพิ่มสูงมากขึ้น

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จของการที่เวิร์คพอยท์สามารถสร้างเรตติ้งรายการได้สูงสุด จาก The Maks Singer ซีซั่นแรก ที่เคยได้เรตติ้งชนะละครทุกช่องในช่วงไพรม์ไทม์มาหมดแล้ว 

ในปี 2560 The Mask Singer ซีซั่น 1 ประสบความสำเร็จได้เรตติ้งสูงสุดถึง 13.371 โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 6.55 แซงหน้าละครหลังข่าวช่วงเวลาไพรม์ไทม์ทั้งของช่อง 7 และช่อง 3 ในขณะที่ซีซั่ออกอากาศช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคมปีที่แล้ว แม้เรตติ้งจะลดลงไปบ้าง แต่ก็ได้เฉลี่ยทั้งซีซั่นอยู่ที่ 7.311 และเคยได้สูงสุดอยู่ที่ 9.383 ประกอบกับช่วงนั้นรายการวาไรตี้รายการอื่น ๆ เช่น I can see your voice หรือนักร้องซ่อนแอบ, รายการตระกูล ไมค์ตั้งแต่ ไมค์หมดหนี้ไมค์ทองคำ, ซุปเปอร์หม่ำ และรายการที่ออกในช่วงกลางปีอย่าง We Kid Thailand หรือ เด็กร้องก้องโลก ก็ต่างช่วยเกื้อหนุนให้ภาพรวมทั้งหมดของช่องพุ่งทะยานสูง 

รายได้ออนไลน์พุ่ง 191% 

นอกจากนี้ยังมีสถิติ มีรายได้เพิ่มจากสื่อออนไลน์ มีรายได้รวมอยู่ที่ 237.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.44 ล้านบาท หรือ 191% เวิร์คพอยท์นับเป็นรายแรก ๆ ที่ให้ความสำคัญกับการหารายได้จากช่องทางโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ Facebook, Youtube, Line โดยมีความร่วมมือกับผู้ให้บริการเหล่านี้ในหลากหลายรูปแบบ

ซึ่งรายได้ส่วนออนไลน์นี้ผู้บริหารเวิร์คพอยท์เคยบอกว่า เป็นรายได้ที่สามารถเลี้ยงพนักงานทั้งช่องจำนวนประมาณ 700 คนได้สบาย ๆ มาแล้ว  

บริหารต้นทุน คือ key success  

เวิร์คพอยท์ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่สามารถบริหารจัดการต้นทุนในการผลิตรายการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะมีโรงถ่ายของตัวเองจำนวนมากที่รองรับการผลิตรายการทั้งหมด พร้อมทั้งมีทีมงานซัพพอร์ต สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถทำกำไรได้ในอัตราสูงมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปี 2560 บริษัทมีต้นทุนหลักจากต้นทุนการผลิตจำนวน 1,741.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2559 ที่มีต้นทุน 1,504.75 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนรายการโทรทัศน์ที่สูงขึ้น โดยมีต้นทุนรวม 1,478.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12%

ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน มีค่าใช้จ่ายรวม 859.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% หรือ 36.58 ล้านบาทจากปี 2559 ที่อยู่ที่ 823.04 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่านายหน้าที่สูงขึ้น

จากผลกำไรที่สูงขนาดนี้ เวิร์คพอยท์ได้แจ้งว่า จะปันผลให้กับบรรดาผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.90 บาท  

ไตรมาสขาดทุน 

แม้ว่าดูภาพรวมทั้งปีกำไรพุ่งมหาศาล แต่เป็นที่น่าสนใจว่าผลประกอบการเริ่มมีการขาดทุนในไตรมาสปี 2560 โดยมีตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 22 ล้านบาท อีกทั้งตัวเลขเรตติ้งเริ่มแกว่งในช่วงปลายปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่รายได้บางรายการไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น รายการ X Factor Thailand ที่เป็นรายการที่ทุ่มทุนสร้าง วางเป้าหมายว่าจะเป็นรายการที่มาสร้างเรตติ้งและรายได้ แต่ปรากฏว่ารายการจบลงไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยเพียง 1.309  

จากข้อมูลเรตติ้งของนีลเส็น และสำนักนโยบายวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ กสทช. พบว่าในช่วงปลายปี 2560 เวิร์คพอยท์เริ่มโดนโมโนแซงได้บ้างในบางสัปดาห์ แต่ความแรงของทั้งปี 2560 ทำให้เรตติ้งทั้งปียังสวย อยู่ในอันดับที่  1.001 ยังทิ้งห่างจากโมโนที่ได้ไป 0.702 โดยมีช่อง 7 นำอยู่อันดับ 1 ด้วยเรตติ้ง 2.114 และช่อง 3 ในอันดับ 2 ได้เรตติ้ง 1.348 

เปิดมาปีใหม่ 2561 เวิร์คพอยท์เริ่มรายการใหม่ “The Show ศึกชิงเวทีเป็นอีกหนึ่งรายการที่ตั้งความหวังว่าจะมาแรงในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่จากการออกอากาศ 2 ตอนแรก ได้เรตติ้งเพียง 1.73 และ 1.36 เท่านั้น ในช่วงไพรม์ไทม์นอกเหนือจาก The Mask Singer และ I can see your voice ที่ยังพอประคองตัวได้แล้ว ก็ยังไม่มีรายการอื่นเข้ามาช่วยดึงเรตติ้งได้อีก 

เวิร์คพอยท์จึงเริ่มหันหน้าเข้าหารายการที่สร้างเรตติ้งมหาชนอย่างรายการมวย ที่สร้างเรตติ้งให้กับทุกช่อง อีกทั้งล่าสุด แมตช์ป้องกันแชมป์โลกของแหลม ศรีสะเกษเวิร์คพอยท์ถ่ายทอดสด ยังได้เรตติ้งสูงถึง 3.855 

จึงประกาศจับมือกับ ค่ายมวยใหญ่นครหลวงโปรโมชั่นจัดการแข่งขันรายการ ”WP Boxing“ (Workpoint Boxing) รายการแข่งขันมวยสากล เพื่อคัดเลือกนักมวยสากลสมัครเล่นของไทย เพื่อไปแข่งในเวทีระดับโลก ซึ่งคาดว่าจะออกอากาศในเร็ว ๆ นี้.