ก่อนหน้าที่หนังอินเดียของ JKN จะมั่นคงและสร้างรายได้ได้มหาศาลขนาดนี้ จะมีสักกี่คนที่รู้จักและจำได้ว่า JKN ก็เคยบุกเบิกสื่อใหม่ ๆ ให้กับเมืองไทย อย่างซีรีส์เกาหลีที่เป็นที่นิยมในไทยจนถึงทุกวันนี้
แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้น JKN ไม่ได้ยิ่งใหญ่พอที่จะรักษาผลประโยชน์ให้กับบริษัทของตัวเองอย่างครบวงจรได้ ติดขัดทั้งเรื่องเงินงบประมาณ และการที่บริษัทยังไม่ได้เป็นบริษัทมหาชน ทำให้ JKN ที่ยังเป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่ไม่โดดเด่นเป็นที่รู้จักว่าสามารถส่งคอนเทนต์ให้ช่องต่าง ๆ สร้างเรตติ้งเพิ่มรายได้เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แถมยังถูกกลืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอื่น
แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ถึงกับตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะทำให้บริษัทกลายเป็นผู้แทนจำหน่ายคอนเทนต์อันดับหนึ่งของโลกให้ได้ จึงตั้งใจผลิตผลงานออกเสิร์ฟตลาดกันอย่างขะมักเขม้น จนสร้างเม็ดเงินที่ไม่เพียงจะซื้อบริษัทคืน แต่ยังต่อยอดไปทำโปรเจกต์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
“เมื่อเรามีความพร้อมแล้วอยากจะทำให้ที่เราเคยพลาดมาในอดีต คือการมีศักยภาพมากพอที่จะทำงานอย่างครบวงจร ก็ค่อย ๆ ถูกนำมาทำเป็นธุรกิจ และกิจกรรมอีเวนต์ต่าง ๆ ที่เจเคเอ็นทำในวันนี้
สิ่งที่แอน-จักรพงษ์ทำคือ การจัดหาจัดซื้อจัดผลิตคอนเทนต์ ที่เคยทำมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้วแต่จะเพิ่มเติมในหลาย ๆ ประเทศอย่างหนังฟิลิปปินส์ และนำละครไทยสู่ตลาดโลก
อันดับต่อมาคือ Superstar Marketing โดย JKN หวังสร้างอภินิหารทางการตลาดต่อยอดกระแสซีรีส์อินเดียสร้างเม็ดเงินมูลค่าพันล้านพร้อมกระแสภารตะ จึงนิยามคำว่า Superstar Marketing ขึ้นมาให้ทุกคนเห็นภาพชัดขึ้นในการให้ศิลปินเป็นคนทำการตลาดด้วยตัวเอง พร้อมทั้งดึงศิลปินนักร้องในไทยมากมาย อาทิ ใหม่ เจริญปุระ, เบน ชลาทิศ และแคทรียา อิงลิช มาขับร้องเพลงประกอบซีรีส์อินเดีย อย่าง นาคิน ผลงานที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ด้วย
เมื่อเน้นใช้ศิลปินในการช่วยทำตลาดขนาดนี้ JKN จึงไม่ปล่อยให้ศิลปินที่โด่งดังมาจากการปลูกปั้นของตนเองหลุดไปอยู่ในการดูแลของค่ายหรือบริษัทอื่น แล้วเลือกต่อยอดธุรกิจสู่การเป็น Asia Artist Management หรือการดูแลศิลปิน โดยจับศิลปินที่โด่งดังจากซีรีส์ที่ทาง JKN ซื้อลิขสิทธิ์มาอยู่ในสังกัดการดูแลเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง
ตอนนี้ JKN มีศิลปินร่วม 40 กว่าคนจากทั้งจากซีรีส์อินเดียและดาราดังจากฟิลิปปินส์เซ็นสัญญาแล้ว โดยฝั่งอินเดียหรือภารตะพันล้านมีศิลปินในการดูแลประมาณ 10 คน เช่น Ishant Bhanushali, Nirbhay Wadhwa และ Amit Mehra จากซีรีส์หนุมาน สงครามมหาเทพ, Adaa Khan และ Arjun Bijrani จากซีรีส์นาคิน เป็นต้น ฝั่งฟิลิปปินส์ จากซีรีส์ชุดรักกระชากใจมีศิลปินในการดูแลประมาณ 40 คน เช่น Dingdong Dantes จากซีรีส์ผัวชั่วคราว, Carla Abellana, Tom Rodriquez และ Dennis Trillo จากซีรีส์เพลิงรักสีรุ้ง เป็นต้น
อันดับสุดท้ายคือการต่อยอดไประดับสากล สู่การเป็น International Content Sale ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มรายได้จากต่างประเทศ นอกจากนี้ JKN ยังได้เข้าร่วมงาน Exhibition Booth ในต่างประเทศของ HK Film Mart หรือ ฮ่องกง อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม มาร์ท เพื่อแนะนำลิขสิทธิ์ตามงานเทศกาลภาพยนตร์ชั้นนำทั่วโลกนั่นเอง
ส่วนอีเวนต์ในไทย อย่างงานวันที่ 14 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ทาง JKN ก็ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ฉลองครบ 8 ปีในการเป็นผู้นำกระแสซีรีส์อินเดีย โดยดึงดาราขวัญใจมหาชนจากซีรีส์อินเดียมาร่วมงาน พร้อมเปิดโอกาสให้แฟนคลับจากทั้งประเทศมาเข้าร่วมงานด้วย โดยเนรมิต Emquatier Gallery ให้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความรักสีชมพู ให้เข้ากับธีมหลักของงาน The Influencer เพราะเรารักกัน ไม่มีวันสิ้นสุด เพื่อส่งมอบความรัก ความสุขให้กับผู้ชมที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของช่องตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมาตลอด 8 ปี
ภายในงานก็มีแฟนคลับที่คลั่งไคล้ซีรีส์อินเดียทุกเพศทุกวัยร่วมใจกันใส่ชุดธีมสีชมพูมารอเข้างานกันตั้งแต่เช้าเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นการปลุกกระแสให้กับทาง JKN ไปในตัวด้วย
นับได้ว่าความคิดต่อยอดธุรกิจสู่การบริหารคอนเทนต์ครบวงจรของ JKN จะเป็นได้ด้วยดี ทั้งการจัดเสิร์ฟไปยังต่างแดนที่มากขึ้น การดูแลศิลปินด้วยตนเอง การทำงานอย่างมีคุณภาพและเข้าใจ เข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา JKN จะเติบโตและมั่นคงได้อย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ ต้องนับถือสายตาที่เฉียบคมในการมองตลาดด้านคอนเทนต์ เป้าหมายที่มั่นคง และการลงมือทำทันที ของ แอน จักรพงษ์ ที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนจนถึงทุกวันนี้.