เมื่อประเมินแล้วว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีก 2 เดือนแรก มีสัญญาณการขยายตัวที่ดี ตามภาวะเศรษฐกิจ (จีดีพี) ทั้งช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน ส่งผลให้การเติบโตของดัชนีค้าปลีกอยู่ที่ 3.8 – 4%
สร้างความมั่นใจให้กับเดอะมอลล์ จนต้องตัดสินใจเทงบ 130 ล้านบาท หรือ 30% ของงบการตลาดทั้งปี มาใช้ในการทำตลาดช่วง “ซัมเมอร์” ที่ถือเป็น “ไฮซีซั่น” ของธุรกิจค้าปลีกว่าทำยอดขายเป็นอันดับ 2 รองจากเทศกาลปีใหม่
ด้วยการจัด 8 อีเวนต์ใหญ่ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทั้งกลุ่มครอบครัวและเด็ก คนรุ่นใหม่ และกลุ่มคนโสดวัยทำงาน
อีเวนต์แม่เหล็กปีนี้ คือกิจกรรมสงกรานต์ ที่ขยายไปจัดในห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ บางกะปิ จากปีที่ผ่านมาจัดแค่เดอะมอลล์ นครราชสีมา และเดอะมอลล์ บางแค
“การจัดอีเวนต์มีความสำคัญมากสำหรับช้อปปิ้ง เนื่องจากจะเพิ่มความถี่ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น จากปกติถ้ามาช้อปเฉย ๆ จะมีความถี่ราวสัปดาห์ละครั้ง” “วรลักษณ์ ตุลาภรณ์” กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บอก
แต่ห้างฯ ยุคนี้จัดอีเวนต์อย่างเดียวคงไม่พอที่จะดึงดูดขาช้อปได้มากพอ เดอะมอลล์จึงต้องใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึง AI มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคขาช้อป เพื่อรับโจทย์ยากของการทำธุรกิจห้างค้าปลีก คือการต้องเดาใจความต้องการของผู้บริโภคเป็นรายบุคคล (personalize) มากขึ้น
เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรมความค้องการผู้บริโภคได้ จึงทำให้พลิกเกมทำตลาดจากแมสเป็นเสนอโปรโมชั่น ส่วนลดค่าง ๆ เป็นแบบตัวต่อตัว หรือ One on One Marketing เชิงรุกมากขึ้น จากที่เริ่มทดลองทำเมื่อ 3-4 ปีก่อน พ่วงการนำเสนอโปรโมชั่นแบบ Real-time ชนิดที่ผู้บริโภคเดินเข้าห้าง จะต้องได้รับออฟเฟอร์จากแบรนด์ สินค้าต่าง ๆ เพื่อดึงดูดการข้อปปิ้งทันที เพราะยุคนี้มีของล่อตาล่อใจขาข้อปละลานตา
ขณะเดียวกันก็ต้องร่วมมือกับพันธมิตร (collaboration) เพราะผู้บริโภคยุคนี้ หากต้องการข้อปปิ้งห้างและแบรนก็มีโปรโมชั่นให้ฝั่งเดียวไม่พอ แต่ขอให้มีของแถมที่เป็นที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก สายการบินถึงจะโดนใจ
โดยที่ต้องสร้าง Engagement ตั้งแต่เข้าห้าง การ์ด พนักงานเปิดประตู ต้องมีส่วนสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับขาข้อปด้วยการทักทาย เพราะนอกจากสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้าแบรนด์เนม บริการที่เหมือนกัน สิ่งที่จะทำให้เดอะมอลล์ต่างจากคู่แข่งได้ คือ การบริการที่ดี (service mind)
นอกจากอีเวนต์ ส่วนลด ซัมเมอร์นี้ เดอะมอลล์ยังมี “แม่เหล็กใหม่” โดยเดอะมอลล์ บางกะปิ เตรียมเปิด “บีเอ็นเค48 คาเฟ่” ปลายเดือนเมษายนนี้ รวมถึงเธียร์เตอร์ขนาด 1,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งคาดว่าเฉพาะส่วนนี้จะดึง “โอตะ” ให้มาเข้าห้างได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ที่สำคัญ “บีเอ็นเค48” ยังช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับเดอะมอลล์บางกะปิด้วย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น
เดอะมอลล์คาดว่าการจัดกิจกรรมการตลาดช่วงซัมเมอร์จะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าเข้าช้อปปิ้งเพิ่มขึ้น 10-15% หรือประมาณ 12 ล้านคนต่อเดือน จากปกติทราฟฟิกเฉลี่ย10 ล้านคนต่อเดือน.