อิทธิฤทธิ์ “ออเจ้า” แม่หญิงการะเกด แห่งบุพเพสันนิวาสแรงจนค่ายมือถือ เอไอเอส ต้องแถลงด่วน ดึงเบลล่า ราณี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบบปัจจุบันทันด่วน ภายใต้กลยุทธ์ที่เอไอเอสเรียกว่า Real Time Presenter
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บอกว่าต้องยอมรับว่า บุพเพสันนิวาส เป็นละครได้รับกระแสความนิยมสูงมากจนกลายเป็นปรากฏการณ์ ที่ทำให้คนไทยทุกกลุ่ม มีตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อแม่ ทั้งคนในเมือง และต่างจังหวัด ที่ต้องมานั่งดูรวมกัน ถ้าดูไม่ทันก็ดูย้อนหลัง
เรตติ้งตอนล่าสุด คืนวันพุธที่ 21 มีนาคม 2560 กรุงเทพฯ ทะลุไป 23.4 ทั่วปรเทศ 16.0 ส่วนกระแสใน Social Media ก็มี Engagement เพิ่มต่อเนื่อง ทั้งยอดชมสดและชมย้อนหลัง ตัวของเบลล่าเอง ก็มียอดผู้ติดตามอินสตาแกรมส่วนตัวสูงถึง 3.8 ล้าน แต่ละรูปมียอด Like อย่างต่ำ 3 แสนไลก์ และเคยสูงสุดกว่า 7 แสนไลก์
นอกจากนี้ ยังส่งผลไปถึงยอดชมโฆษณาเรื่องนี้บน AIS PLAY บริการสตรีมมิ่ง พุ่งกว่า 3 เท่า
เรียกว่าละครเรื่องนี้ได้ทั้งออนแอร์ ออนไลน์ ครบตามสูตรการใช้สื่อ และได้ฐานคนดูจำนวนมาก เข้ากับฐานคนดูเอไอเอส ที่มีลูกค้าถึง 40 ล้านราย เอไอเอสจึงไม่รอช้า ดึงเบลล่ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ทันที มีระยะเวลา 1 ปี
รูปแบบการใช้พรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา โดยเป็น Co-Creator ร่วมกันระหว่างเอไอเอส กับช่อง 3 และบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ผู้ผลิตละครเรื่องนี้ ในการผลิตคลิปโฆษณา เป็นละครตอนพิเศษ นอกจากจะทำได้รวดเร็วกว่าเดิมแล้ว ยังใส่ความเป็นละครเข้าไปได้อย่างแนบเนียน โดยจะเผยแพร่เฉพาะในสื่อ “ออนไลน์” เท่านั้น
“เราเริ่มต้นสร้างการเข้าถึงผ่านทาง Content บนโลก Online ด้วยการร่วมมือกับช่อง 3 และบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น สร้างคลิปเวอร์ชั่นพิเศษที่ยังคงสื่อสารในแกนเรื่องและ Character ตัวละครของบุพเพสันนิวาส ก่อนที่จะขยายรูปแบบอื่น ๆ ตามมาต่อไป”
ความร่วมมือในรูปแบบของ “Co–Creator” เป็นสิ่งที่เอไอเอสย้ำมาตลอดการแถลงข่าว ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้ อาจจะเป็นก้าวแรกเท่านั้น ในอนาคตอาจเป็นไปได้ว่า จะมีความร่วมมืออย่างอื่นตามมา เพราะต้องไม่ลืมว่า เอไอเอสกำลังให้น้ำหนักกับบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง หรือ AIS PLAY ที่เอไอเอสต้องการสร้างฐานคนดู เพื่อรองรับพฤติกรรมการดูวิดีโอของคนไทย และการใช้ดาต้าที่เพิ่มขึ้น แต่ธุรกิจนี้การแขงขันสูงมาก ต้องมีคอนเทนต์ที่หลากหลายในการดึงดูดคนดู
ทางด้านช่อง 3 เองก็ให้ความสำคัญกับแนวทางขายโฆษณาแบบใหม่ เน้นการร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ ไม่ใช่แค่การขายแอร์ไทม์โฆษณา แต่รวมไปถึงการนำดารานักแสดงไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือจัดอีเวนต์ร่วมกัน หรือแม้แต่ไทอิน เพื่อตอบโจทย์แบรนด์ได้มากขึ้น
สำหรับรูปแบบไหนที่จะร่วมมือกัน รวมถึงจะมีพี่หมื่น โป๊ป ธนวรรธน์ มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์คนต่อไปของเอไอเอส หรือไม่นั้น ปรัธนา บอกแค่ว่า “ต้องรอดู”
แต่ที่แน่ ๆ ปรัธนายืนยันว่า การใช้ Presenter ในฐานะตัวแทน Brand เป็นกลยุทธ์ที่เอไอเอสใช้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแคมเปญหลัก เพราะเชื่อว่าการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่มีความหลากหลายและเข้าถึงได้นั้น จำเป็นต้องมีตัวแทนที่สามารถ Connect กับ Emotional ของผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ “ข้อดีของการมีพรีเซ็นเตร์ เพื่อให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบพรีเซ็นเตอร์ได้รู้สึกดีกับแบรนด์ และช่วยดึงความสนใจให้มาดูโฆษณาด้วย”