“โตขึ้นอยากเป็นอะไร” เป็นคำถามยอดฮิตที่ผู้ใหญ่มักจะคอยถามเด็ก ๆ อยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา อาชีพที่เด็กใฝ่ฝันอยากเป็นมากที่สุดนั้นได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ซึ่งจากผลแบบสำรวจที่สอบถามนักเรียนชายมัธยมต้น จำนวน 100 คน พบว่าอาชีพที่เด็กผู้ชายในวัยมัธยมต้นอยากเป็นมากที่สุดมีดังนี้
อาชีพที่นักเรียนชายมัธยมต้นอยากเป็นมากที่สุด
อันดับ 1 วิศวกรไอที / โปรแกรมเมอร์
อันดับ 2 นักสร้างเกม
อันดับ 3 YouTuber
อันดับ 4 นักกีฬาอาชีพ
อันดับ 5 วิศวกร
แต่ในทางกลับกัน ก็ได้มีการสำรวจอาชีพที่พ่อกับแม่ไม่ปลื้ม ไม่อยากให้ลูกเป็นขึ้นมาด้วยเช่นกัน แบบสอบถามนี้เป็นแบบสอบถามจากผู้หญิงและผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วจำนวน 100 คน อายุระหว่าง 30-99 ปี โดยตัวเลือกเป็นอาชีพให้เลือกดังต่อไปนี้ นักกีฬา หมอ YouTuber วิศวกรไอที โปรแกรมเมอร์ นักสร้างเกม เจ้าของธุรกิจ ครู / อาจารย์ นักวิจัย เซลส์แมน โดยอาชีพที่พ่อแม่เลือกให้เป็นอาชีพที่ไม่อยากให้ลูกทำมากที่สุด เป็นดังนี้
5 อันดับอาชีพที่พ่อแม่ไม่ปลื้ม
อันดับ 1 YouTuber 59%
อันดับ 2 เซลส์แมน 11%
อันดับ 3 นักสร้างเกม 8%
อันดับ 4 นักกีฬาอาชีพ 7%
อันดับ 5 ข้าราชการ 7%
อาชีพที่พ่อแม่ไม่ปลื้ม ไม่อยากให้ลูกทำมากที่สุดคือ YouTuber ซึ่ง HIKAKIN YouTuber ที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น ขวัญใจเด็ก ๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่ ไม่ว่าออกคลิปไหนมาก็มียอดวิวที่สูงมากและยังทำรายได้สูงมากเช่นกัน แต่ในสายตาของพ่อแม่แล้วกลับมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่อยากให้ลูกของตัวเองทำ โดยให้เหตุผลไว้ทั้งฝั่งพ่อและแม่ดังนี้
ความเห็นของฝั่งแม่
- “เอางานอดิเรกมาทำเป็นงานประจำมันไม่มั่นคงหรอก” แม่บ้าน อายุ 32 ปี
- “ไม่มั่นคง ภาพลักษณ์ที่ดูบ้าบอ อาชีพที่ทำได้แค่ชั่วคราว” แม่บ้าน อายุ 32 ปี
- “ไม่อยากให้ลูกตัวเองออกสื่อในอินเทอร์เน็ต” แม่บ้าน อายุ 36 ปี
- “แค่ออกคลิปสนุก ๆ แล้วมีรายได้ คิดจะทำอะไรก็ได้มันช่างน่าเสียใจจริง ๆ” แม่บ้าน อายุ 32 ปี
- “ถ้าทำแล้วโด่งดังก็ดีไป แต่มันไม่ใช่กับทุกคน หากทำแล้วไม่ดัง อาจจะเผลอต้องทำคลิปอะไรบ้า ๆ เพื่อให้มีคนดูก็ได้” แม่บ้าน อายุ 36 ปี
- “ไม่มั่นคง แถมยังจะกลายเป็นคนประหลาดที่อยากให้คนอื่นมาชื่นชอบชื่นชม” พนักงานพาร์ตไทม์ อายุ 44 ปี
ความเห็นของฝั่งพ่อ
- “มันไม่ใช่อาชีพที่จะทำได้ไปตลอดชีวิต” พนักงานบริษัท อายุ 32 ปี
- “ไม่มั่นคง และยังเป็นห่วงว่าจะกลายเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะในหัวมัวแต่คิดแค่จะเพิ่มยอดคนดูคลิป” พนักงานบริษัท อายุ 34 ปี
- “ไม่อยากให้ลูกก้มหน้าก้มตาอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์” ข้าราชการ อายุ 36 ปี
- “อยากให้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทำงานที่ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น” ไม่ระบุอาชีพ วัย 31 ปี
ที่มา : mgronline.com/japan/detail/9610000029852