เป็นกระแสข่าวเกรียวกราวมากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา “บิ๊กซี” ห้างค้าปลีกในมือ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ได้ชิมลางส่ง “รถมินิบิ๊กซี” ออกไปประชิดผู้บริโภคถึงชุมชน แข่งกับรถพุ่มพวง หรือรถเร่ขายกับข้าว อาหารสดต่าง ๆ แล้ว จนทำให้มีผู้บริโภคแชร์ภาพรถมินิบิ๊กซีบนโลกโซเชียล พร้อมแสดงความคิดเห็นในเชิงลบจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นของเครือข่ายร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ จะขยายธุรกิจจนกระทบผู้ประกอบการรายย่อย
ล่าสุด วันนี้ 28 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา สำนักสื่อสารองค์กรกลุ่มบิ๊กซี ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงประเด็นร้อนดังกล่าวดังนี้
“ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวรถมินิบิ๊กซี ทางสำนักสื่อสารองค์กรกลุ่มบิ๊กซี ขอเรียนชี้แจงว่า รถมินิบิ๊กซีเป็นเพียงรถต้นแบบ ที่บริษัทสร้างขึ้นมาเพียงคันเดียว โดยได้นำมาทดลองวิ่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากแนวความคิดของรถมินิบิ๊กซี ที่เข้าร่วมในโครงการ ‘ก้าวคนละก้าว’ ซึ่งบริษัทอยู่ในระหว่างการศึกษาตลาด ต้นทุนและผลกระทบในด้านต่างๆ เท่านั้น
บิ๊กซีคำนึงอยู่เสมอว่าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ต้องการมีส่วนร่วมและเติบโตไปพร้อมกับชุมชน บิ๊กซีขอขอบพระคุณในทุกความเห็นจากสังคมและขอน้อมรับเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา และจะดำเนินการทุกอย่างให้อยู่ภายใต้ข้อกฎหมาย เพื่อให้ชุมชนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด”
ณ ปี 2559 บิ๊กซี มีห้างค้าปลีกทั้งสิ้น 5 รูปแบบ(ฟอร์แมท) ได้แก่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตที่จับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรายได้ระดับปานกลางถึงล่าว ขายสินค้าราคาประหยัด และมีร้าน 116 สาขา, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายรายได้ระดับปานกลางถึงบน ขายสินค้าพรีเมี่ยม อาหารสดและอาหารแห้ง ตลอดจนสินค้านำเข้าแบรนด์คาสิโน มีสาขาประมาณ 15 แห่ง ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่
บิ๊กซี มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีลูกค้าเป้าหมายรายได้ระดับปานกลางถึงล่าง ขนาดร้านค่อนข้างเล็ก และวาง Positioning เป็นร้านสะดวกซื้อสำหรับชุมชน มีสินค้าเหมาะกับการซื้อประจำสัปดาห์ มีร้านให้บริการ 465 สาขา, ร้านขายยาเพรียว ขายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม มักตั้งอยู่ในไฮเปอร์มาร์เก็ต และบิ๊กซี มาร์เก็ต มีร้าน 142 สาขา และยังมีธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ทั้งบิ๊กซีช้อปปิ้งออนไลน์ ขายสินค้ากว่า 20,000 รายการ และ Cmart ให้บริการเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ มีสินค้ากว่า 130,000 รายการ
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบิ๊กซี ในปี 2559 มีรายได้รวมกว่า 119,979 ล้านบาท มีกำไรสุทธิกว่า 5,213 ล้านบาท.