กลยุทธ์สำคัญของธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วน มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท อยู่ที่ความเร็วในการจัดส่งพัสดุ และจำนวนจุดรับบริการต้องมีมากและครอบคลุมมากที่สุด เป็น 2 คีย์พอยต์ที่ทำให้ ผู้เล่นรายใหญ่อย่างบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จำกัด ประกาศเพิ่มงบลงทุนอีกกว่า 800 ล้านบาท
เพื่อใช้เดินหน้าขยายเครือข่ายบริการจัดส่งพัสดุเร่งด่วนภายใน 1 วัน ทั้งแบงคอค เซมเดย์ ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และเพิ่มจุดให้บริการใหม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
แผนการลงทุนที่เพิ่งประกาศไปเมื่อต้นปี จึงต้องกลับมา “รีวิว” กันอีกรอบ โดยเคอรี่ เอ็กซ์เพรส
(1) ปีนี้จะใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 1.8 พันล้านบาท
(2) เพิ่มจำนวนยานพาหนะที่ให้บริการ แบงคอค เซมเดย์ ขึ้นเป็นสองเท่า และ (3) ปรับแผนขยายจุดบริการ ให้ได้ 2,500 สาขา ภายในสิ้นปี 2561 จากเดิมที่เคยตั้งเป้าขยายจุดให้บริการเพิ่มขึ้น 1,500 สาขา
วราวุธ นาถประดิษฐ์ รองผู้จัดการทั่วไปสายงานการค้าบริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้ทุ่มงบลงทุนจำนวนมากเพื่อสร้างแบรนด์ “แบงคอค เซมเดย์” จนเป็นยอมรับในหมู่ผู้บริโภค และคาดว่าบริการนี้จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการส่งพัสดุของลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ได้อย่างแท้จริง
ส่วนขยายเครือข่ายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย นอกจากทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการจัดส่งพัสดุได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การทำตลาดแบบ O2O (online-to-offline) ของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส อีกด้วย
“เชื่อว่าอีกไม่นานลูกค้าจะสามารถสั่งสินค้าจากช่องทางออนไลน์ และเลือกได้ว่าจะไปรับสินค้านั้นด้วยตนเองจากศูนย์บริการ เคอรี่ เอ็กซเพรส ที่อยู่ใกล้บ้าน เกิดประสบการณ์จัดส่งและรับพัสดุที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
วราวุธ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ขายสินค้าออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 20 ที่เดินเข้ามาใช้บริการในสาขาของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส แล้วเลือกส่งพัสดุผ่านเครื่องให้บริการด้วยตนเองได้ แทนที่จะใช้บริการผ่านเคาน์เตอร์ตามปกติ
ขั้นตอนการจัดส่งจึงออกแบบให้ง่าย ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด ที่ได้รับจากทาง Seller Centre ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แล้วสั่งพิมพ์ใบปะหน้าเพื่อติดลงบนพัสดุ พร้อมยื่นให้พนักงานประจำสาขา โดยไม่ต้องชำระเงินใด ๆ เพราะทางเคอรี่จะดำเนินการหักจากบัญชีผู้ขายโดยตรง
เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังมีแผนการขยายจำนวนศูนย์กระจายสินค้าย่อยสร้างคลังคัดแยกสินค้าขนาดใหญ่ และเพิ่มจำนวนการจัดซื้อยานพาหนะ ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มจำนวนบุคลากร เพื่อยกระดับเครือข่ายให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน เคอรี่ เอ็กซ์เพรส มุ่งเน้นทางด้านการขนส่งพัสดุขนาดเล็กที่มีขนาดสูงสุดถึง 30 กิโลกรัมต่อกล่อง โดยมียอดการขนส่งพัสดุเฉลี่ย 750,000 ชิ้นต่อวัน โดยเน้นการจัดส่งถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป (ND) ครอบคลุมมากถึงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ขนาดใหญ่ รองรับพฤติกรรมคนไทยที่นิยมเก็บเงินปลายทาง และให้ผู้รับมีตัวเลือกช่องทางในการชำระค่าสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือชำระโดย QR ผ่าน Rabbit LinePay เมื่อได้รับสินค้าที่หน้าบ้านอีกด้วย.