วิชัย รักศรีอักษร King of Connection Power

ยิ่งธุรกิจต้องอิงกับอำนาจทางการเมือง นักธุรกิจคนนั้นยิ่งต้องมีคอนเนกชั่นกับ “การเมือง” และแน่นอนต้องไม่ใช่ความสัมพันธ์ขั้นธรรมดา แต่เป็นระดับสุดพิเศษ ที่สามารถจัดเป็น King of Connection ถึงขั้นอยู่ในสถานะที่เรียกกันว่าเป็น “นายทุน” พรรคการเมือง สามารถผลักดันนโยบายรัฐบาล ผูกขาดสัมปทาน “ดิวตี้ฟรี” ถึงกับสั่งปิดดอนเมือง เปลี่ยนมาใช้สนามบินสุวรรณภูมิแห่งเดียวได้ และอยู่ยั้งยืนยงมาได้ทุกรัฐบาล หรือแม้แต่ในกระแสที่ “สีน้ำเงินกำลังผสมกับสีเขียว” ซึ่ง ณ นาทีนี้ไม่มีใครแรงเท่า “วิชัย รักศรีอักษร” เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี แห่ง “คิง เพาเวอร์”

ย้อนไปในอดีต “วิชัย” เริ่มธุรกิจดิวตี้ฟรีที่สนามบินฮ่องกง โดยการชักชวนจากเพื่อนชาวฮ่องกง จากนั้น “คิง เพาเวอร์” สายสัมพันธ์อังแข็งแกร่งกับภาครัฐโดยเฉพาะกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จนสามารถเปิดร้านดิวตี้ฟรีที่กลางเมืองย่านเพลินจิตในปี 2532 และปี 2538 ได้สัมปทานในสนามบินดอนเมือง ช่วงรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โควตาของพรรคความหวังใหม่ของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ที่สามารถจัดสรรผลประโยชน์อย่างลงตัวกับกองทัพอากาศ

ปี 2549 สนามบินสุวรรณภูมิเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร กลุ่ม “คิง เพาเวอร์” เป็นบริษัทเดียวที่ได้บริหารพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่พื้นที่ตั้งร้านค้าปลอดภาษี กิฟต์ช็อป ร้านอาหาร ไปจนถึงป้ายโฆษณา

ความสัมพันธ์กับ “ทักษิณ” แนบแน่น ถึงกับยอมให้ “เนวิน ชิดชอบ” และเพื่อนในช่วงที่ยอมทำงานถวายหัวให้ “ทักษิณ” ใช้เป็นออฟฟิศแฟกซ์แถลงการณ์ให้ “ทักษิณ” ในช่วงหลังถูกทหารยึดอำนาจ

และยังคงต่อสายกันได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 13 เมษายน 2552 ที่มีรถแก๊สเข้าไปจอดที่คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ ที่ “วิชัย” อยู่ที่นั่น และต่อสายถึง “ทักษิณ” เพื่อบอกให้เสื้อแดงนำรถออกไปให้ไกลๆ

หลังจากที่คณะนายทหารนำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก ในนามของประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาล “ทักษิณ” เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ความแน่นแฟ้นระหว่างเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี กับ “ทักษิณ” น่าจะทำให้ธุรกิจของเขาประสบความยากลำบาก และหมดอนาคต

แต่ “คิง เพาเวอร์” ก็รอด และยังคงทรงอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน แม้ช่วงหนึ่งจะมีความพยายามจากพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. และประธานบอร์ดบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือทอท.ในขณะนั้น พยายามตรวจสอบสัญญาระหว่างคิง เพาเวอร์ กับ ทอท. แต่เพราะคอนเนกชั่นที่ “วิชัย” สร้างกับบิ๊ก คมช.อย่างพลเอกสนธิจนแน่นแฟ้นในเวลาที่รวดเร็ว ทำให้ “วิชัย” ยังแข็งแกร่ง และทำให้พลเอกสพรั่งกับพลเอกสนธิต้องเบือนหน้าเดินจากกันคนละทาง

“การที่ผมได้เจอ พล.อ.สนธิ เหมือนเรื่องบังเอิญ ที่ท่านมาช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีกับภรรยา โดยนำคณะต่างประเทศมาด้วย ผมให้เจ้าหน้าที่ดูแล และไม่ใช่ว่าผมจะไปพบท่านได้ทันทีนะ ขณะที่ท่านนั่งอยู่ในห้องรับรอง ก็ได้อ่านนิตยสารที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องของผม เลยสนใจถามหาว่าอยากเจอผม ก็เลยมีโอกาสได้พบท่าน จึงมีเวลาไปนั่งอธิบายเรื่องต่างๆ ซึ่งได้คุยกันแล้วก็ถูกใจ ผมก็ถามตรงๆ เลยว่า ได้ยินมาว่าท่านจะเล่นงานผม พล.อ.สนธิก็บอกว่า ไม่เคยพูดเลย จากนั้นท่านก็มาที่โรงแรมบ่อยๆ”

“วิชัย” เล่าถึงที่มาของความสัมพันธ์กับพลเอกสนธิ ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจน “วิชัย” บอกว่า
“จนตอนนี้สามารถเดินเข้า-ออกบ้านท่านได้ พล.อ.สนธิเข้าใจผม…”

นี่คือสไตล์ที่ตอบตรงไปตรงมาของเขา ที่เคยให้สัมภาษณ์ลง “มติชน” เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551

“วิชัย” ไม่ใช่เพียงแค่สนิทสนมกับนักการเมืองอย่าง “ทักษิณ” นายทหารอย่าง “พลเอกสนธิ” เท่านั้น เขาเองยังยอมรับว่ารู้จักนักการเมืองที่โด่งดังหลายคน รวมทั้งคนที่ฮอตที่สุดในเวลานี้ คือ “เนวิน ชิดชอบ” ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง รวมทั้งการจัดตั้งรัฐบาล “อภิสิทธิ์” และปลุก “สีน้ำเงิน” จนสามารถสร้างกระแสเห็นเงาของรัฐบาลใหม่ ถึงกับทำให้คอการเมืองต้องจับตาว่า “เนวิน” อาจเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ต่อจาก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เลยทีเดียว

ความสัมพันธ์ระหว่าง “วิชัย” และ “เนวิน” อยู่ในระดับที่ “วิชัย” ให้สัมภาษณ์เองว่า “คุยถูกคอเกือบทุกเรื่อง” ตั้งแต่การเมืองถึงฟุตบอล โดยมีผู้เชื่อมโยงคือ “กนกศักดิ์ ปิ่นแสง” เพื่อนสนิทของ “เนวิน” และคนใกล้ชิดของ “วิชัย”

“กนกศักดิ์” ใกล้ชิดกับ “วิชัย” โดยเป็นทั้งผู้บริหารของคิง เพาเวอร์ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิคิง เพาเวอร์ และเป็นเลขาธิการสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ที่ “วิชัย” เป็นนายกสมาคมอยู่ และ “กนกศักดิ์” คนเดียวกันนี้คืออดีตที่ปรึกษา “เนวิน” เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เมื่อปี 2540 และแคนดิเดตนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคมนาคมในรัฐบาล “อภิสิทธิ์” นอกเหนือจากเป็นที่ปรึกษาบริษัทเชียงใหม่ คอนสตรัคชั่น ของ “คะแนน สุภา” พ่อตาของ “เนวิน”

ความสนิทสนมกับ “เนวิน” เป็นที่เปิดเผยสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาในกองบัญชาการของ “วิชัย” ที่พูลแมน คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ หลายคนได้พบ “เนวิน” ที่นั่นเป็นประจำ

“เนวิน” กินเงินเดือนของคิง เพาเวอร์ในตำแหน่งที่ปรึกษา เหมือนอย่างที่ “วิชัย” จ้างหลายๆ คนเป็นที่ปรึกษาทั้งอดีตนักธุรกิจ และนักการเมือง

นี่คือสิ่งที่รู้กันในออฟฟิศของคิง เพาเวอร์

สำหรับ “วิชัย” ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาในการให้สัมภาษณ์กับ “มติชน” อีกครั้งว่า

“มีอย่างเดียว ผมรู้จักกับคุณเนวิน ก็ไม่มีใครมารังแกผมหรอก ผมเชื่อว่าอย่างนั้น กลับดีเสียอีก ถ้าผมไปรู้จักใครสักคน อันนี้ไม่อยากเอ่ยชื่อ ช่วยอะไรผมไม่ได้เลย มันก็ต้องมีลูกนักเลงบ้าง มันก็ต้องพูดกันตรงๆ เพราะเราเป็นพ่อค้า”

ความสัมพันธ์ที่ Give and Take ระหว่าง “วิชัย” และ “นวิน” สามารถสร้างอำนาจต่อรองกับรัฐบาล “อภิสิทธิ์” ผลักดันจนสามารถเปลี่ยนนโยบายการใช้สนามบินแห่งชาติ มาเป็น Single Airport เมื่อเดือนมีนาคม 2552 จากเดิมที่เปิดใช้งานทั้งสนามบินดอนเมือง สำหรับเที่ยวบินบางเส้นทางในประเทศของการบินไทย และสนามบินสุวรรณภูมิ

อย่างที่รู้กันว่ากลุ่มเนวินได้โควตาคุมกระทรวงคมนาคม โดยส่ง “โสภณ ซารัมย์” เพื่อนสนิทของ “เนวิน” มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่คุมกิจการสนามบินของประเทศ

เมื่อตัวเลขผู้โดยสารในประเทศสนามบินดอนเมืองเพิ่มขึ้นถึงเดือน1 แสนคน ย่อมไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจ ดิวตี้ฟรี กระทรวงคมนาคมจึงมีคำสั่งให้สายการบินย้ายไปสนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว แม้สหภาพแรงงานของการบินไทยจะออกมาประท้วง และ ครม.อภิสิทธิ์พยายามดึงเรื่องไว้ 2 อาทิตย์ แต่ก็ไม่สามารถต้นทานสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างวิชัยและเนวินที่จับขั้วกับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

สายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างวิชัยและเนวิน จนล่าสุดมีชื่อ “วิชัย” และอาณาจักรคิง เพาวเวอร์ ปรากฏอย่างชัดเจนว่าคือหนึ่งในนายทุนพรรคภูมิใจไทยที่มี “เนวิน” เป็นเจ้าของ

สำหรับ “วิชัย” แล้ว หากมาถูกทาง สีที่ “เนวิน” กำลังพยายามผสมระหว่างสีน้ำเงินกับสีเขียว ถ้าสำเร็จ ธุรกิจของเขาก็ไม่ต้องเสี่ยงแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลอีกครั้ง

ความเป็นนักธุรกิจที่ผูกสัมพันธ์กับการเมืองเอาไว้ได้อย่างเดียวแน่น ในอีกด้านหนึ่ง การเมืองต้องพึ่งพา “วิชัย” ต้องไม่ลืมว่า ดิวตี้ฟรีเป็นธุรกิจที่มีเงินสดๆ ผ่านมือ หมุนเวียนมหาศาล ไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้เป็นทางผ่านของเงินที่ถูก “ล้าง” ให้สะอาดและถูกต้อง

ช่วงฤดูเลือกตั้ง บ่อยครั้งที่วิชัยต้องหลบลี้หนีหน้าเหล่านักการเมือง บินไปใช้ชีวิตถึงอังกฤษเป็นเวลานาน จนเป็นที่มาของสายสัมพันธ์ราชวงศ์อังกฤษ และกีฬาโปโล ที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ

ธุรกิจ “คิง เพาวเวอร์”

บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ธุรกิจ
-ห้างสรรพสินค้าดิวตี้ฟรี “คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ซอยรางน้ำ
-ป้ายโฆษณาในอาคารผู้โดยสารสนามบินในกรุงเทพ และภูเก็ต

บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี
ธุรกิจ -บริหารร้านค้าดิวตี้ฟรีที่สนามบินกรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต

บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ ฟรี
ธุรกิจ เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่บริหารร้านค้าดิวตี้ฟรีที่สนามบินกรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่

บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ
ธุรกิจ ระบุธุรกิจกว้างๆ ไว้ว่า บริหารกิจการเชิงพาณิชย์ทั้งหมดในสนามบินสุวรรณภูมิ

บริษัท คิง เพาเวอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์
ธุรกิจ บริหารทุกร้านอาหารในสนามบินสุวรรณภูมิ เช่น ซิตี้ การ์เด้นท์ไลท์ บาร์ รวมไปถึงภัตตาคารรามายานะและโรงละครอักษรา ที่คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ

บริษัทคิง เพาเวอร์ โฮเทล แมนเนจเม้นท์
ธุรกิจ บริหารโรงแรม พูลแมน กรุงเทพ คิง เพาเวอร์ (ซอยรางน้ำ)

Profile

Name : วิชัย รักศรีอักษร
Birthdate : 5 มิถุนายน 2501
Education :
– มัธยมศึกษาตอนปลาย สหรัฐอเมริกา
– ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
– ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย แปซิฟิค เวสเทอร์น,
สหรัฐอเมริกา
– ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคนซิงตัน, สหรัฐอเมริกา
Career Highlights : ตั้งแต่ปี 2523 เริ่มบริหารงานในธุรกิจของครอบครัว เริ่มจากกรรมการผู้จัดการ บริษัทศรีอักษร ปี 2532 เริ่มธุรกิจดิวตี้ฟรี ตั้งแต่ปี 2540 – ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานทุกบริษัทในเครือ
Status ภรรยา “เอมอร (บุญขันธ์) รักศรีอักษร มีบุตร – ธิดาทั้งหมด 4 คน ดังนี้
1. นางสาววรมาศ รักศรีอักษร
2. นายอภิเชษฐ์ รักศรีอักษร
3. นางสาวอรุณรุ่ง รักศรีอักษร
4. นายอัยยวัฒน์ รักศรีอักษร
Lifestyle
-ประเทศที่ชื่นชอบคืออังกฤษ
-กีฬาที่ชอบคือขี่ม้า เพราะชื่นชอบว่าเป็นสัตว์ที่ลักษณะสง่างาม แข็งแกร่ง และอ่อนโยน ถึงขั้นสนับสนุนการแข่งขันกีฬาขี่ม้าในประเทศ และต่างประเทศ ที่โด่งดัง คือการแข่งขัน “จักกราวาตี้-คิง เพาเวอร์” เมื่อปี 2055 มีเจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ และเจ้าชายวิลเลี่ยมทรงรวมแข่งในนามทีมคิง เพาเวอร์ด้วย ปัจจุบัน “วิชัย” เป็นนายกสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย
-ของสะสม นาฬิกา โดยเฉพาะรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ของแบรนด์ต่างๆ
-หลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะเกรงว่าสไตล์การพูดตรงไปตรงมาจะเป็นข้อเสียมากกว่าผลดี
Work Style
-อ่านคนได้ขาดและรู้จักใช้คนรอบข้างได้ตรงกับเป้าหมาย
-มีความละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ เช่น ข้อมูลก่อนการตัดสินใจต้องมีตัวเลขสนับสนุนเพียงพอ ให้ความสนใจตรวจตราแม้กระทั่งชั้นวางสินค้าแต่ละร้านในดิวตี้ฟรี