สุภาพสตรีชั้นสูง ที่ได้ชื่อว่า เป็นข้าราชบริพารรับใช้ เบื้องพระยุคลบาทในสมเด็จพระบรมราชินีนาถมานาน ภารกิจโดดเด่นของเธอ คือ เป็นประธานคณะกรรมการ และเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทำให้เธอมีสายสัมพันธ์อันดีกับทหารและตำรวจ
ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง ท่านผู้หญิงจะบินไปช่วยบำรุงขวัญในทันที แม้บางครั้งต้องเสี่ยงภัย อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ท่านผู้หญิงไปปฏิบัติหน้าที่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วถูกคนร้ายซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณเหนือคิ้ว เมื่อปี 2550 ยิ่งทำให้ภาพของเธอเป็นขวัญใจทหารและตำรวจ
แต่แล้วท่านผู้หญิงวิระยาก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนทั่วไป ช่วงต้นเดือนเมษายน 2552 ก่อนทักษิณ ปลุกมวลชนม็อบเสื้อแดงจนกลายเป็น “สงกรานต์เดือด” ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ได้ให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เนื้อหาที่เธอให้สัมภาษณ์ก็ล้วนแต่สนับสนุนทักษิณ เช่นว่า “หากไม่จำเป็นไม่มีใครอยากเลือกข้าง โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นข้าราชบริพารในสถาบันพระมหากษัตริย์”
“เราไม่ใช่คนโง่ เรามีซิกเซนส์ในเรื่องนี้ และในสมัยที่ท่าน (ทักษิณ ชินวัตร) เป็นนายกฯ ได้ขอให้ร่วมงานการกุศลต่างๆ ที่ต้องถวายพระราชินีในนามมูลนิธิก็ไม่เคยปฏิเสธ ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่เข้าข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการมองด้วยความเป็นธรรม”
เธอ ยังกล่าวต่อด้วยว่า “หากทักษิณไม่จงรักภักดี เธอจะเป็นคนแรกที่ไม่คบ แต่ก็ไม่เชื่อว่าทักษิณจะไม่จงรักภักดี”
คำพูดของท่านผู้หญิงวิระยา เท่ากับเป็นการ “การันตี” ให้กับทักษิณในการปลุกม็อบมวลชน โดยพุ่งเป้าไปยังพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และระบอบ “อำมาตยาธิปไตย” มาใช้เป็นจุดขายในการปลุกระดมมวลชนเสื้อแดง
แต่ความน่าเชื่อถือของคุณหญิงวิระยาก็หมดลง เมื่อทักษิณเดินเกมพลาด เมื่อรัฐบาลสามารถควบคุมเหตุการณ์จลาจลไว้ได้ จนแกนนำม็อบถูกจับ ตัวทักษิณเองก็ขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของสื่อมวลชนต่างประเทศ
ทุกวันนี้ ท่านผู้หญิงยังคงมีเครือข่ายกำลังทหารและตำรวจ เมื่อบวกกับการมีฐานกำลังเงินของทักษิณสนับสนุนด้วยแล้ว ท่านผู้หญิงไม่ใช่ม้านอกสายตาที่ใครจะมองข้ามได้ เพราะเธออาจจะสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้งก็ได้ใครจะไปรู้
ส่วนตัวแล้ว ท่านผู้หญิงวิระยาเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อด้วยตัวเองว่ารู้จักกับครอบครัว “ชินวัตร” อย่างดี โดยเฉพาะตัวของ “ทักษิณ” และ “คุณหญิงพจมาน” ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่ท่านผู้หญิงจัดงานการกุศล “ทักษิณ” มักร่วมบริจาคเงินอย่างเต็มที่ หรือแม้กระทั่งหลังหมดอำนาจแล้ว ก็ยังไม่เคยลืมงานการกุศลของท่านผู้หญิง 10 ล้านบาทคือขั้นต่ำที่ “ทักษิณ” และครอบครัวร่วมงานการกุศลเสมอ
